นับตั้งแต่เผ่าพันธุ์โฮโมซาเปี้ยนครองพิภพมายาวนานกว่าหนึ่งแสนปีสิ่งที่จะต้อง“จารึกไว้เป็นตำนาน” ได้แก่ “พิภพนี้ไม่เคยว่างเว้นสงครามระหว่างโฮโมซาเปี้ยนราวีกันอย่างสติแตก”

“แม้โลกวันนี้จะได้รับการพัฒนาไปมากมาย มีอารยธรรมสุดวิไล มีความเป็นอยู่สุดอลังการ แต่โฮโมซาเปี้ยนก็ไม่เคยละทิ้งความเถื่อนดุที่วิ่งพล่านอยู่นกระแสเลือด”

โลกวันนี้จึงยังเกิด “สงครามระหว่างประเทศขนาดบิ๊ก บิ๊ก” เช่น “สงครามรัสเซีย-ยูเครน และสงครามยิวกับฮามาส” เป็นต้น

ส่วนสงครามในพม่านั้น ถือเป็น “สงครามกลางเมือง” ที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน นับแต่พม่าได้รับเอกราชจากจักรวรรดินิยมอังกฤษกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ก็รบราฆ่าฟันกัน “ไม่รู้จักเลิก”

สำหรับประเทศที่ไม่เป็นคู่สงครามกับใครอย่างประเทศไทย เป็นต้น ก็ยัง “เกิดศึกระดับจิ๊บ จิ๊บ ตลอดเวลา” ในสภาก็เกิด “สงครามชิวหา” ทุกวันไม่ว่างเว้น

นอกสภาก็เกิด “ศึกกระเปี๊ยกเล็ก” กระจัดกระจายอย่างมากมาย เช่น “สงครามคลั่งสถาบัน” ระหว่าง “ช่างกลปทุมวัน” และ“ช่างก่อสร้างอุเทนถวาย” เป็นสงครามที่ราวีกันไม่เลิกเกินกว่าครึ่งศตวรรษ

หลังจากที่ “นักเรียน นักเลง” ของสองสถาบันเป็นข่าวดังมายาวนานและเข่นฆ่ากันมายาวไกล ทำให้ “ขาโจ๋แรมโบ้” รุ่นใหม่ที่หิวแสง ตามจังหวัดใหญ่ๆ และชุมชนหนาแน่นทั้งหลาย ต่างตั้ง “แก๊งฟันน้ำนม” ในชื่อต่างๆ แล้ว “เปิดศึกพันตูกันอย่างถึงพริกถึงขิง”เลียนแบบ “ช่างกลปทุมวันและช่างก่อสร้างอุเทนถวาย” บ้าง

เล่นเอา “โปลิศทั้งหลายไม่สามารถจัดการให้สะเด็ดน้ำ”โดยสยบแก๊งลูกตำรวจจบไป ก็เกิดแก๊งหลังวัดห้ำหั่นกับแก๊งหน้าวัด และอีกสารพัดแก๊งตามมา จนกลายเป็น “แฟชั่นอมตะ”

ล่าสุด ชาวต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทย ต่างได้รับเชื้อ “ไวรัสมหาภัย” กันอย่างทั่วถึง แต่มาเฟียต่างชาติ ก็ “เล่นงานเหยื่อ” ที่เป็นคนชาติเดียวกันอย่างถี่บ่อย

ล่าสุด “จอมราวีต่างชาติในประเทศไทย” ก็ได้ “ลามปามความโอหัง” ใส่คนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศ เช่น

“ฝรั่งตีนโหด” ชาวสวิสที่ “เตะหมอในจังหวัดภูเก็ต” จนตกเป็นข่าวดังกึกก้องไปทั่วโลก

ข่าว “ฝรั่งยำคนไทย” ยังไม่ทันสิ้นกระแส จู่ๆ “แก๊งกะเทย” จากฟิลิปปินส์ ก็เปิดศึกกับแก๊งกะเทยไทยละแวกซอยนานาหรือ สุขุมวิท ซอย 11/1 จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก

โฮโมซาเปี้ยนครองพิภพมายาวไกลกว่าแสนปี ไม่เคยมีความสงบสุขมาเยือนประเทศไหนอย่างถาวร “รับรองได้” สำหรับประเทศไทย “ศึกกะเทย” ย่อมไม่ใช่ “ศึกสุดท้าย” ของการสร้างความวินาศสันตะโรอย่างแน่นอน

หนังบู๊แนวนี้ ยังจะมี “ศึกราวี” ของคนกลุ่มอื่น ถูกนำมาฉายอย่างซ้ำๆ ซากๆ ไม่มีจบ

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม