หนังเรื่อง “มหากาพย์พ่อมดทศกัณฐ์ ภาค 2” ซึ่งเป็นภาคล่าสุดเป็นหนัง “หักมุม” และเป็น“ตำนานหักเหลี่ยม” ที่เล่นเอาพ่อมดทศกัณฐ์ “ตกใจ”และแฟนหนังทั้งหลายต่าง “ช็อกตาตั้ง”

ถูกแล้วครับ “หนังภาคสอง” คาถาวิเศษของพ่อมดทศกัณฐ์ “เสื่อมความขลัง” อย่างกะทันหัน ยิ่งกว่า “ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า” โดย “เทวดาแปลงร่างมายาวนานกว่า 8 เดือน” ได้ “คืนร่าง” กลับไปเป็น “พ่อมดชราหง่อมอีกครั้ง” จากนั้น “ถูกเทพอัยการ” นัดหมายจะส่งตัวฟ้องต่อศาลในคดี “พ่อมดปากไว พ่นไฟเผาลิ้นตัวเองจนเดี้ยงพิการ”

งานนี้ เล่นเอาชาวสารขัณฑ์ทั้งที่เป็น “กองเชียร์”และเป็น “กองแช่ง” ต่าง “อ้าปากหวอ” และ “อ้าปากค้าง”อย่างคาดไม่ถึงนัก “สิ่งที่เกิดขึ้น”

“ท่านทศกัณฐ์” ที่แปลงร่างเป็น “เทวดา” แล้วต้องคืนร่างเป็น “พ่อมด” นั้น แม้จะท่องคาถาสารพัดบท ก็ไม่อาจกลับร่างไปเป็นเทวดาได้ ก็ “ตกใจสุดขีดแทบช็อกจนสิ้นชีวิต” เช่นกัน

แต่ท่านพ่อมดทศกัณฐ์ ก็ยัง “ไม่ลืมลีลาพลิ้วไหว” ที่เป็นความสามารถพิเศษติดกายมาตั้งแต่กำเนิด ดังนั้น ท่านจึงขอเลื่อนการ “มอบตัวกับเทพอัยการ” ไปเป็นวันที่ 25 มิถุนายน เพื่อท่านทศกัณฐ์จะได้มีเวลารีบไป “แสวงหาคาถาอัศจรรย์จากพระฤๅษีโคบุตร” ให้แปลงร่าง “กลับมาเป็นเทวดาอีกครั้ง”

แต่ดูเหมือน เทพอัยการ อนุญาตให้มอบตัวแค่วันที่ 18 มิถุนายน เท่านั้น

หนัง “มหากาพย์พ่อมดทศกัณฐ์ ภาค 2”ได้จบลงตรงนี้ แล้วมีข้อความปรากฏบน จอหนัง“โปรดติดตามต่อใน ภาค 3”

ชาวสารขัณฑ์ ได้แต่ “ลุ้น” ว่า “หนังภาค 3 ”นั้น วันที่ 18 มิถุนายน “พ่อมดทศกัณฐ์จะแปลงร่างเป็นเทวดาอีกครั้งได้หรือไม่?” มนต์คาถาที่เสื่อมไปนั้น เป็นการ “เสื่อมชั่วคราว?” หรือ “เสื่อมถาวร?”

หรือ “แท้จริงแล้ว” ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ “พล็อตหนังเรื่องนี้” ได้ออกแบบเป็น “ทวิตเอนดิ้ง” ไว้แล้ว?

ส่วนการ “เดินเรื่อง” แบบ “เล่นติ๊กต็อกหลอกคนดู” นั้น เป็นสไตล์การสร้างหนัง “หักมุมที่สุดแสบ?”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม