ขณะที่แต่ละภาคส่วนกำลังพยายามแก้ปัญหาปลาหมอสีคางดำระบาด ทำลายระบบนิเวศ ทำลายสัตว์น้ำที่ชาวบ้านเลี้ยง
มีคนบางกลุ่ม ปั่นข่าวเท็จมั่วซั่ว
พยายามโยงให้คนเข้าใจผิด ว่าปลาหมอสีคางดำ เป็นปลาที่นำเข้ามาเพื่อพัฒนาปลานิลจิตรลดา !!!!
ตอกย้ำมาตรฐานทางสติปัญญาของคนพวกนี้ ว่าพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แซะสถาบันที่คนไทยเคารพรัก
ที่เหลือเชื่อ คือ ยังมีคนจำนวนหนึ่งหลับหูหลับตาเชื่อ
อาจจะด้วยความดักดาน หรืออคติที่พร้อมจะเชื่อทุกอย่างที่ด้อยค่าโจมตีสถาบัน
1. นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Nitipat Bhandhumachinda ระบุว่า
“เมื่อเช้าอ่านเจอโพสต์หนึ่งที่กล่าวในทำนองว่า ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่นำเข้ามาเพื่อพัฒนาปลานิลจิตรลดา
โดยมีการระบุด้วยว่า เป็นปลานิลจิตรลดารุ่นที่สาม เนื่องจากในรายงานนั้น ปลานิลจิตรลดารุ่นที่สาม มีการพัฒนาจากสายพันธุ์หลายชนิดรวมทั้งปลานิลจากประเทศกานา
ก็เลยอยากจะเรียนให้ทราบว่า ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดารุ่นที่สามนั้น เป็นผลผลิตของการนำปลาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลเพื่อการบริโภค ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยที่ทำการทดลองกันที่ หน่วยงานวิจัย ICLARM ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยการผสมชนิดปลานิลหลายๆ สายพันธุ์ (รวมทั้งสายพันธุ์จิตรลดารุ่นก่อนๆ) จนได้ลูกที่เรียกกันว่า GIFT (Genetic Improvement of Farmed Tilapia) รุ่นที่ 5
และได้นำลูกปลาสายพันธุ์ผสมในรูปแบบสายพันธุ์ที่พัฒนามาแล้วรุ่นนี้จากหน่วยงานการวิจัยดังกล่าว เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2538
และก็มีการวิจัยพัฒนาต่อเนื่อง จนสามารถนำออกมาจำหน่ายจ่ายแจกให้กับเกษตรกรในชื่อรุ่น “นิลจิตรลดารุ่นที่ 3”
ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากการนำปลาชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งเป็นชนิดแท้ (ในกรณีนี้คือปลาหมอคางดำ) เข้ามาในประเทศแล้วหลุดรอดออกไปจนเกิดปัญหาการรุกรานดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้นะครับ
จึงขอเรียนนำเสนอข้อเท็จจริงให้ทราบ เผื่อใครจะคิดว่าต้นเหตุปัญหาเกิดจากโครงการปลานิลจิตรลดาครับ”
2. โครงการปลานิลพระราชทาน
สำนักงาน กปร. ได้นำเสนอข้อมูลโครงการปลานิลพระราชทาน บันทึกเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไว้น่าสนใจ
ระบุว่า เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจาก โครงการปลาหมอเทศ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อปี 2495
โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทดลองเลี้ยงปลาหมอเทศที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) นำเข้ามาน้อมเกล้าฯ ถวายที่สระน้ำในบริเวณพระที่นั่งอัมพรสถาน และมีพระราชดำริให้กรมประมงนำพันธุ์ปลาหมอเทศไปเลี้ยงและขยายพันธุ์ เนื่องจากเป็นปลาน้ำจืดที่เลี้ยงง่าย เติบโตและขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว
จากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วราชอาณาจักร เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานลูกปลาหมอเทศที่ทรงเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไว้ไปปล่อยขยายพันธุ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ มีปลาเป็นอาหารโปรตีนบริโภค ยกระดับภาวะโภชนาการ เป็นประโยชน์แก่การดำรงชีพของประชาชนในชนบททั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการเลี้ยงปลาหมอเทศไปสู่ประชาชน ปรากฏว่าไม่เป็นที่นิยมรับประทานแพร่หลายนัก เนื่องจากเป็นปลาชนิดใหม่ที่นำเข้ามาในประเทศไทย คนไทยยังไม่คุ้นเคยกับกลิ่นและรสชาติ ปัจจุบันยังมีการเลี้ยงปลาหมอเทศอยู่ในบางพื้นที่ ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เป็นต้น
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2508 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งประเทศญี่ปุ่น ขณะทรงดำรงพระยศเป็น มกุฎราชกุมาร ได้น้อมเกล้าฯ ถวายลูกปลาสายพันธุ์ใกล้เคียงกับปลาหมอเทศ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tilapia nilotica จำนวน 25 คู่ ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปเลี้ยงไว้ที่บ่อปลา ในบริเวณสวนจิตรลดา ปลาดังกล่าวได้เจริญเติบโตขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ได้พระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า “ปลานิล”
โดยทับศัพท์จากชื่อวิทยาศาสตร์ คือ ออกเสียงตามพยางค์ต้นของชื่อพันธุ์ปลา “Nil” จาก “Nilotica”
และได้พระราชทานพันธุ์ที่ทรงเพาะเลี้ยงกว่า 10,000 ตัว แก่กรมประมง เพื่อนำไปให้สถานีประมงจังหวัดต่างๆ เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ แจกจ่ายให้ประชาชนนำไปเลี้ยง พร้อมกับปล่อยลงในแหล่งน้ำทั่วไปให้ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของชุมชนสำหรับการบริโภคต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีพระราชดำริให้กรมประมงรักษาสายพันธุ์ปลานิลแท้ เมื่อครั้งได้รับการน้อมเกล้าฯ ถวาย
ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าปลาที่พระราชทานไปขยายพันธุ์ต้องเป็นพันธุ์แท้ ซึ่งถ้ากรมประมงหาพันธุ์แท้ไม่ได้ก็ให้มาเอาที่สวนจิตรลดา
และมีพระราชประสงค์ให้กรมประมงปรับปรุงพันธุ์ปลานิลให้ดีขึ้น ให้มีตัวโต มีเนื้อมาก
ดังนั้น ปลานิลที่เพาะเลี้ยงในสวนจิตรลดา จึงมีชื่อเรียกว่า “ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา” เพราะเป็นพันธุ์แท้นั่นเอง
ปัจจุบัน สามารถพบปลานิลได้ในแหล่งน้ำทุกภาคของประเทศไทย และพบได้ในตลาดสดของทุกจังหวัด แม้แต่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลทุรกันดาร ก็ยังพบว่ามีการเพาะเลี้ยงปลานิลอย่างแพร่หลาย
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนั้น เป็นผลให้ปลานิลเป็นที่รู้จักทั่วไป ประชาชนทั่วประเทศได้ประโยชน์นานัปการ เช่น
ใช้เป็นอาหาร
ใช้เพาะเลี้ยงเพื่อการค้า
ใช้ในการทดลอง
เป็นตัวอย่างในการศึกษาชีววิทยาของปลา และเป็นปลาชนิดหนึ่งที่กรมประมงส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะเลี้ยงและปล่อยในแหล่งน้ำต่างๆ เป็นจำนวนมาก สมดังพระราชประสงค์ที่ทรงต้องการให้พสกนิกรมีอาหารโปรตีนบริโภคอย่างทั่วถึงไม่ขาดแคลน
จากปลานิลจำนวน 50 ตัว ในสระน้ำสวนจิตรลดา สู่ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดาที่กรมประมงนำไปขยายผลสู่ประชาชนไปแล้วหลายพันล้านตัว
คิดเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท
และมีการสนับสนุนพันธุ์ปลานิลให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องกว่า 1 ล้าน ตัว/ปี
เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญ ช่วยยกระดับภาวะโภชนาการ และสร้างอาชีพ รายได้ ให้แก่ประชาชนอย่างแพร่หลายและกว้างขวางในปัจจุบัน
3. เกี่ยวกับสายพันธุ์ปลานิล
ในหลวง ร.9 ทรงมีพระราชดำริให้กรมประมงรักษาพันธุ์แท้ไว้ในสวนจิตรลดา
เพราะปลานิลเมื่อปล่อยไปตามแหล่งน้ำ ก็ผสมพันธุ์โดยทั่วไป
ยกตัวอย่าง
ปลานิลไปผสมพันธุ์กับปลาหมอเทศ ซึ่งมีการแพร่กระจายอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ปลานิลผสมพันธุ์แบบเลือดชิดในการเพาะเลี้ยงที่ไม่มีการคัดพันธุ์
การเลี้ยงปลานิลที่ไม่มีการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะดี โตเร็ว ไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ก็จะได้ปลานิลที่ตัวเล็ก
จากสาเหตุเหล่านี้ ทำให้มีการวิจัยเพื่อการคัดพันธุ์ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ปลาที่โตเร็ว และเทคนิคการผลิตปลาเพศเดียวล้วน คือ ปลาเพศผู้
การปรับปรุงสายพันธุ์ปลานิล จึงได้มีการนำปลานิลสายพันธุ์จิตรลดาพันธุ์แท้มาทำการปรับปรุงพันธุ์ ให้ได้สายพันธุ์ที่ดีกว่าเดิม จำนวน 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จิตรลดา 1 และ ปลานิลสายพันธุ์กิฟ
ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 1 เป็นปลาที่มีการปรับปรุงพันธุ์มาจากสายพันธุ์จิตรลดา โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง ใช้วิธีการคัดเลือกพันธุ์แบบคัดเลือกภายในครอบครัว พบว่า มีอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าสายพันธุ์จิตรลดาถึง 22 เปอร์เซ็นต์
ปลานิลสายพันธุ์กิฟ เป็นปลาที่ปรับปรุงพันธุ์จากสายพันธุ์จิตรลดา โดยนำไปผสมข้ามพันธุ์กับสายพันธุ์อื่นอีก 7 สายพันธุ์ โดยใช้วิธีการคัดพันธุ์แบบคัดเลือกภายในครอบครัว โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง และ ICLARM พบว่า มีอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
ส่วนการเพาะเลี้ยงปลานิลเพศผู้ล้วน ก็เพราะปลานิลเพศผู้เจริญเติบโตดีกว่าปลาเพศเมียการเลี้ยงปลาเพศผู้ล้วนทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น และไม่มีลูกปลาในบ่อเลี้ยง
ทั้งหมด ไม่มีอะไรเกี่ยวกับปลาหมอสีคางดำเลยแม้แต่น้อย!!
ปลานิล เริ่มจากพันธุ์ปลาพระราชทาน เป็นปลาที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เลี้ยงง่าย เติบโตเร็ว ทุกวันนี้ ประชาชนทั่วประเทศยังได้กิน ได้เลี้ยง ได้ขาย ได้สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างชีวิต จากปลานิลพระราชทาน
แต่น่าสังเวช คนบางจำพวก ยังดักดาน
มันน่าจะจับทำหมันไม่ให้แพร่พันธุ์ เสียยิ่งกว่าปลาหมอสีคางดำเสียอีก!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี