ประเทศไทยไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน นอกจากจะได้รับ“ผลกระทบจิ๊บ จิ๊บ” จากแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้าน

แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เวลา 13.20 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8.2 ริกเตอร์ ที่เมืองมัณฑะเลย์ของประเทศพม่า แล้วส่งผลกระทบถึงไทย จนได้รับภัยดังกล่าวถึงหลายสิบจังหวัด

โดยกทม.แม้จะอยู่ห่างไกลจากจุดแผ่นดินไหวกลับเกิดรายการเสียหายอย่างกว้างขวางมากกว่าจังหวัดอื่นๆ จนชาวบางกอกเกี้ยนต่าง “ช็อกตาตั้ง”

แม้จะตกใจจ้านขนาดไหน ชาวบางกอกเกี้ยนหามีผู้ใดต้องเคราะห์ร้าย “ถูกสะกายมหาโหด” เล่นงานจนถึงแก่มรณะไม่?

“ยกเว้นแห่งเดียวเท่านั้น” ณ อาคารก่อสร้าง “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” ที่พังถล่มลงมาอย่างไม่คาดฝันอย่างฉับพลันทันใด จนคนงานกว่า 100 คนถูกฝังทั้งเป็นอยู่ในซากปูนกองมหึมาจากอาคาร 33 ชั้น

“การถล่มอย่างสุดอัศจรรย์” ครั้งนี้ เล่นเอาวิศวกรไทยทั้งประเทศต่าง “งงเป็นไก่ตาแตก” แทบไม่มีใครอยากเชื่อว่า “มหาภัยระดับมรณะครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” ทั้งๆที่กทม.มีตึกสูงอย่างมากมายนับร้อยนับพันอาคาร แต่กลับไม่มีอาคารใด “พังถล่ม” แม้แต่แห่งเดียว?

ดูเหมือน ไม่เพียงแต่วิศวกรทั้งหลายจะ “กังขา” กันทั่วหน้า แม้แต่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่างก็ “กังขา” กันอย่างถึงพริกถึงขิง?

จากนั้น ต่างก็ได้ตั้งฉายาตึก 33 ชั้นสตง. มีชื่อว่า “ตึกเต้าหู้”ซึ่งหมายถึง “เปราะบาง พังง่ายและเละเป็นโจ๊กได้อย่างรวดเร็ว แค่ถูกเขย่าเบาๆ เท่านั้น”

“ดังนั้น แผ่นดินไหวที่อยู่ไกลถึงสุดขอบฟ้า จึงสามารถพังตึกเต้าหู้ได้สุดง่าย ทั้งๆ ที่ตึกสูงในกทม.ที่ต่ำกว่ามาตรฐานมีมากมาย แต่ทุกตึกกลับอยู่ยงคงกระพัน จากการเล่นงานของอสูรสะกายได้อย่างเหลือเชื่อ”

เบื้องหลัง “ตึกเต้าหู้” พังทลายได้อย่างไร? รับรองได้ “ไม่ใช่หนังสั้นม้วนเดียวจบ”

แต่จะเป็นหนังซีรี่ส์หลายตอนจบ เพราะจะต้องมีรายการ “ขุดคุ้ย” การคอร์รัปชั่นตามมาแน่นอน

สำหรับ ผู้เคราะห์ร้ายกว่า 100 รายที่ถูกฝังทั้งเป็นนั้นดูเหมือนสื่อทั้งหลายต่างทำหน้าที่เป็นโหรตาทิพย์ โดยทำนายว่า “น่าจะไม่มีใครรอดตายจร้า?”

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม