แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การทำงานอย่างให้มีคุณภาพ ให้ได้ผลบริบูรณ์นั้น จะทำอย่างไร เบื้องต้น ต้องทำความเห็นให้ถูกต้องในงานที่จะทำเสียก่อน โดยใช้ปัญญาไตร่ตรองให้เห็นเหตุที่แท้ผลที่แท้ ที่ถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่พึงมุ่งหวัง แล้ววางแผนการอันแน่นอนที่จะดำเนินการต่อไป ด้วยหลักวิชา ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน และสำคัญที่สุด ต้องมีความพากเพียรไม่ย่อหย่อน ในอันที่จะกระทำต่อตามไปจนกว่าจะเป็นผลสำเร็จ ขอให้ถือว่าการงานที่จะทำนั้นต้องการเวลา เป็นงานที่มีผู้ดำเนินมาก่อนแล้ว ท่านเป็นผู้ที่จะเข้าไปเสริมกำลังจึงต้องมีความอดทนที่จะเข้าไปร่วมมือกับผู้อื่น ต้องปรองดองกับเขาให้ได้ แม้เห็นว่ามีจุดหนึ่งจุดใดจะต้องแก้ไขปรับปรุง ก็ต้องค่อยพยายามแก้ไขไปตามที่ถูกที่ควร อย่าได้ด่วนหักหาญ มิฉะนั้นจะเกิดความร้าวฉาน จะเกิดความท้อแท้เป็นอุปสรรคให้งานหยุดชะงักลงกลางคัน...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 19 กรกฎาคม 2516)
...nn ตึกมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งผู้คนของ สตง. (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) คาดหวังว่าจะได้ที่ทำการแห่งใหม่ที่ใหญ่โตโก้หรููสมฐานะ แต่ทว่ามันได้พังพินาศไปเสียแล้วตั้งแต่ 28 มีนาคม จนถึงบัดนี้เวลาได้ผ่านเลยไปแล้วกว่าหนึ่งเดือน แต่รัฐบาลไทยและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงให้สาธารณชนรับรู้ แรกๆ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ทำขึงขังดุดันบอกว่าต้องทำความจริงให้โลกได้รับรู้ในระยะเวลาอันใกล้ ส่วนอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยประกาศว่าจะทำความจริงให้ปรากฏภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ขอโทษนะ บัดนี้วันเวลาล่วงเลยไปเกินหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ปรากฏแม้แต่น้อย ซึ่งเท่ากับเป็นการประจานตัวนายกฯ และ รมว. มหาดไทยว่า ดีแต่พูด พูดแล้วไม่มีปัญญาทำ
...nn เมื่อรัฐบาลไม่มีปัญญาทำความจริงเรื่องตึก สตง. พังพินาศให้ปรากฏ ก็ต้องถามไปยังฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ ว่า มีปัญญาทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏหรือไม่ แน่นอนว่าฝ่ายค้านไม่มีอำนาจรัฐเหมือนฝ่ายรัฐบาล แต่ต้องไม่ลืมว่าฝ่ายค้านมีอำนาจตรวจสอบ เพราะมีสถานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯ แต่จะอย่างไรก็ตาม สังคมก็ได้ข้อสรุปเบื้องต้นตรงกันว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่มีปัญญาทำความจริงเรื่องตึก สตง. ถล่มให้ปรากฏต่อสังคม
...nn ตึกใหม่ของ สตง. ถล่มพังพินาศไปแล้ว แต่ยังไม่มีคนของ สตง. ออกมายืนยันชัดๆ ว่าเงินที่ใช้ก่อสร้างตึกเต้าหู้นั้นหมดไปกี่พันล้าน แล้วเงินที่จ่ายไปแล้วนั้น จะได้คืนหรือไม่จะได้คืนวันไหน ใครจะเป็นผู้คืน แต่มีคำถามที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ แล้วคน สตง. หน้าไหนจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สตง. มีปัญญาไปตามทวงเงินคืนมาหรือไม่ แต่ก็ยังมีปัญหาที่น่าสนใจมากอีกข้อคือ แล้วคน สตง. หน้าไหนบ้างมีส่วนร่วมทุจริตโครงการนี้ แต่คนใน สตง. จำนวนไม่น้อยเขาบอกกันเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ว่าอาแปะสายมูฯ รายหนึ่งใน สตง. น่าจะมีส่วนโกงกิน เพราะพฤติกรรมของอาแปะสายมูฯชวนให้สงสัยมาโดยตลอด
...nn ตึก สตง. พังพาบไปแล้ว แต่ตึกใหม่ของ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท ยังไม่พังพาบ แต่ก็อยู่ในสภาพค้างเติ่งมานานกว่า 2 ปีแล้ว นอกจากก่อสร้างไม่สำเร็จเสร็จสิ้น ก็ยังมีปัญหาน่าสงสัยคือยกเลิกสัญญาก่อสร้างเดิม แล้วเซ็นสัญญาจ้างใหม่กับบริษัทก่อสร้างบริษัทใหม่ ซึ่งเรื่องการยกเลิกสัญญาก่อสร้างเดิม แล้วลงนามจ้างบริษัทใหม่นั้น ในทางการก่อสร้างเขารู้กันทั้งเมืองว่าเพื่อจะได้ใช้เป็นช่องทางหาเงินใหม่ โดยเงินเดิมที่ได้จากบริษัทเดิมนั้นก็เข้ากระเป๋าคนบางคนไปแล้ว เมื่อลงนามจ้างใหม่ ก็ได้เงินเข้ากระเป๋าของคนบางคนใหม่อีกรอบ แบบนี้นี่เองจึงมีการยกเลิกสัญญาจ้างเก่าและทำสัญญาจ้างใหม่กันเป็นประจำสำหรับโครงการก่อสร้างตึกของหน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่อ้างว่าเป็นหน่วยงานอิสระ
...nn กสทช. มีข้ออ้างพิสดารในการปรับเปลี่ยนโครงการก่อสร้าง โดยอ้างว่าจำนวนกรรมการ กสทช. ลดลงจาก 11 คน เหลือ 7 คน จึงต้องเปลี่ยนรูปแบบของโครงการ แต่ยืนยันว่าจะก่อสร้างโครงการนี้ต่อไปจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ต้องทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างใหม่โดยการประกวดราคาแบบ e-bidding
...nn เอาเถอะ กสทช. จะอ้างอะไรก็อ้างไปเถอะ เพราะอ้างแล้วก็ฟังไม่ขึ้น เพราะไม่มีความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อยกับเรื่องการลดจำนวนกรรมการกสทช. ลงกับการต้องยกเลิกสัญญาก่อสร้างเดิมแล้วทำสัญญาก่อสร้างใหม่ ถามจริงๆ กรรมการ กสทช. มีตึกทำงานคนละตึกอย่างนั้นหรือ หรือว่าตึกของ กสทช. จะทำเป็นรูปหน้าของกรรมการ กสทช. ทุกคน
...nn ขอถามทิ้งท้ายว่าสัญญาจ้างก่อสร้างตึกกับบริษัทเดิมนั้น ใครหน้าไหนได้อิ่มหมีพีมันบ้าง แล้วเมื่อต้องลงนามจ้างก่อสร้างใหม่คนหน้าเดิมๆ จะยังคงอิ่มหมีพีมันเหมือนเดิมหรือไม่
...nn Moody’s Rating หรือ Moody’s Investor Service ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของไทยลงอยู่ที่ Negative (เชิงลบ) จากเดิมที่ Stable (มีเสถียรภาพ) ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงที่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการคลังของไทยจะอ่อนลงกว่าเดิม แต่ก็ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) อยู่ที่ระดับ Baa 1 โดย Moody’s ให้เหตุผลการปรับลดความน่าเชื่อถือครั้งนี้เพราะว่ามาตรการ reciprocal tariffs ของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโลก แล้วจะส่งผลกระทบถึงไทยอย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะระบบเศรษฐกิจไทยเป็นแบบเปิด แล้วก็ยังไม่มีความชัดเจนแน่นอนว่าทรัมป์จะเก็บ reciprocal tariffs กับไทยและประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่หลังจากครบกำหนดผ่อนผัน 90 วันไปแล้ว มาตรการreciprocal tariffs จะส่งผลกระทบด้านลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังนับว่าอ่อนแออยู่ และยังเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการคลังของไทยอีกด้วย เพราะสถานะการคลังของรัฐบาลไทยอยู่ในระดับไม่แข็งแรงมาตั้งแต่หลังการเกิดปัญหาโควิด-19
...nn จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลบอกว่า Moody’s ด่วนได้ใจเร็วมากไปกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของไทยในครั้งนี้ โดยอ้างว่าการเจรจาแก้ปัญหาreciprocal tariffs ยังไม่จบสิ้น แล้วถ้าหากการเจรจาให้ผลบวกกับไทย Moody’s จะว่าอย่างไร จะปรับอันดับความน่าเชื่อถือให้ไทยหรือไม่ เมื่อจิรายุถามแบบนี้ ก็ทำให้คนที่เรียนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเศรษฐศาสตร์ถึงกับหัวเราะงอหาย หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง แล้วก็ฝากคำถามกลับไปยังจิรายุว่ายังฝันอีกหรือว่าทรัมป์จะยกเลิก reciprocal tariffs พร้อมกันนั้น
ก็มีเสียงแซวว่า จิรายุฝันว่าได้กลับไปเป็น สส. แล้วได้กินตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังยังง่ายเสียกว่าฝันว่าทรัมป์จะยกเลิก tariffs แบบป่วนโลก แต่มีเสียงแซวที่น่าสนใจกว่า
อีกเสียงหนึ่งคือ แพทองธาร น่าจะส่งจิรายุไปเจรจากับทรัมป์ เผื่อว่าทรัมป์จะจนแต้มลูกล่อลูกชนของจิรายุ แล้วตัดสินใจไม่เก็บtariffs กับสินค้าไทยทุกชนิด
...nn ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกคำร้องของชาญชัย อิสระเสนารักษ์ประเด็น ทักษิณ ชินวัตร ป่วยทิพย์อยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเห็นว่าชาญชัยไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ทว่า ศาลฯ จะไต่สวนเรื่องนี้เอง โดยศาลฯ จะเรียกตัวบรรดาบิ๊กๆ ข้าราชการไปให้ปากคำและชี้แจงเรื่องนี้ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2568
...nnปิดท้ายด้วยเรื่องตลกแต่หัวเราะไม่ออก เพราะเป็นตลกร้องไห้ นั่นคือเรื่องที่พรรคประชาชนอ้างว่าสหรัฐฯ โกรธไทยเป็นฟืนเป็นไฟเพราะทหารไทยฟ้องร้องคดี ม.112 กับ พอล แชมเบอร์ส ชาวอเมริกันที่สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยนเรศวร แถมยังอ้างว่าตำรวจไทยบุกไปจับตัวพอลในมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่ไม่มีหมายจับแหม! ฟังพรรคประชาชนอ้างเรื่องพอลว่าทำให้สหรัฐฯ ไม่พอใจไทย และไม่เจรจากับไทยในประเด็น reciprocal tariffs ก็ทำให้เกิดคำถามว่า พรรคประชาชนคิดว่าทรัมป์สนใจประเด็นสิทธิเสรีภาพทางวิชาการมากเหลือเกินกระนั้นหรือ ถามจริงๆ พรรคประชาชนเคยรู้ไหมว่าทรัมป์สั่งตัดงบฯ ช่วยการวิจัยของ MIT และมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาที่ไม่ตอบสนองเรื่องที่ทรัมป์ต้องการ ถามจริงๆ แน่ใจหรือทรัมป์ให้ความสำคัญกับงานวิชาการ และสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ ถามจริงๆ พรรคประชาชนตามข่าวที่ทรัมป์ตัดงบฯ มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ บ้างหรือเปล่า...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี