น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้สืบสันดานจากบิดาทุกประการ ทั้งนิสัยถาวรอวดดีหยิ่งผยอง ท้าทายสังคมไทย และกฎหมายในหมวดมาตรฐานทางจริยธรรมทางการเมือง เธอถอดแบบบิดาในความเชื่อที่ว่า “ตาบอดไม่กลัวเสือ และตาใสไม่กลัวเสือกระดาษ”
จากพฤติกรรมในการเป็นผู้นำรัฐบาลตลอดเวลาเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ในเบื้องต้นพบว่า “เธอเป็นตาบอดไม่กลัวเสือ เพราะไม่เห็นจึงไม่กลัวเสือ” แต่มาระยะหลังบอกได้ว่า “เธอเป็นคนดื้อตาใสที่ไม่กลัวเสือกระดาษ” การเป็นคนตาบอดไม่เห็นเสือของเธอนั้นเชื่อว่า เกิดจากคนใกล้ตัวและคนรอบข้างตลอดถึงสมุนบริวารคอยกีดกันขัดขวางไม่ให้เสือเข้าใกล้เธอได้
ไม่ว่าจะเป็นเสือ ชั้น 14 ที่มีรัฐมนตรียุติธรรม และโรงพยาบาลตำรวจตลอดถึงสมุนบริวารแห่งจันทร์ส่องหล้าป้องกันเธอจากเสือร้ายตัวนี้ หรือเสือมาตรฐานทางจริยธรรม ที่เธอเป็นเจ้าของ
สนามกอล์ฟบนพื้นที่ธรณีสงฆ์ ก็มีกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดิน กีดกันเสือร้ายไม่ให้เข้าใกล้เธอได้
แม้กระทั่งเสือร้ายที่อาจงาบคอขยุ้มหน้า จากเสือที่เรียกว่า นิธิกรรมอำพรางที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า กรณีนายกฯใช้“ตั๋วสัญญาใช้เงิน” หรือ“ตั๋ว P/N” 9 ฉบับ โดยไม่กำหนดชำระเงินไม่มีดอกเบี้ย สร้างกระบวนการให้ดูเสมือนว่าซื้อหุ้นจากครอบครัวและเครือญาติ รวมมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านบาท
ทั้งที่ความเป็นจริง การดำเนินการดังกล่าวถูกตั้งข้อสงสัยว่า หลีกเลี่ยงภาษีการรับให้มูลค่า 218 ล้านบาทหรือไม่#แต่ประเด็นนี้พรรคประชาชนซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เป็นผู้กีดกันเสือร้ายไม่ให้เข้าใกล้เธอเสียเอง โดยการอภิปรายโจมตีในสภาแต่ไม่นำเรื่องผิดปกติส่ง ป.ป.ช. หรือให้ศาลรัฐธรรมนูญ สอบสวนดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย
ความเคยชิน และเหลิงในอำนาจบารมีที่บิดา และสมุนบริวารคอยป้องกันขับไล่เสือร้าย ไม่ให้เข้าใกล้เธอได้ วันนี้แพทองธาร ชินวัตร จึงกลายเป็นคนดื้อตาใสที่ไม่กลัวเสือกระดาษ ด้วยการถูกเลี้ยงมาแบบคุณหนูที่มดไม่ให้ไต่ไรมิให้ตอม ทำให้เธอหยิ่งผยองคิดไปว่า บิดาและสมุนบริวาร สามารถทำให้เสือร้ายกลายเป็นเสือกระดาษได้
แม้กระทั่งกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมเอาไว้ ตลอดถึงธรรมาภิบาล ความโปร่งใสกฎหมายข้อมูลข่าวสาร ที่รัฐบาลต้องแถลงนโยบายให้ประชาชนทราบล่วงหน้าตอนหาเสียง และตอนแถลงนโยบายต่อสภาก่อนรับหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นทางการ ไม่ปรากฏว่า น.ส.แพทองธารเคยแถลงนโยบายต่อสภาว่า จัดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย
แต่นายกฯแพทองธารกลับเร่งรัดให้ พ.ร.บ.ประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนแฝงอยู่นั้นด้วย หรือ น.ส.แพทองธาร มองว่ารัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ รธน.เหล่านั้น เป็นเสือกระดาษที่ไม่อาจทำร้ายเธอได้
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ สร้างโอกาสในวิกฤต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักลงทุน เธอได้พูดถึงโครงการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) ในหลายประเด็น ดูเหมือนนางสาวแพทองธาร จะมุ่งมั่นต้องการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จให้ได้ โดยมีการพูดถึงข้อดีของสถานบันเทิงครบวงจรมากมาย
เช่น การสร้าง Entertainment Complex รัฐบาลจะทำตามโมเดลของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศอย่างญี่ปุ่น และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ได้นำรูปแบบไปปรับใช้เช่นกัน รัฐบาลไม่ต้องการให้โครงการนี้ถูกมองว่า เป็นเพียงกาสิโนเท่านั้น
น.ส.แพทองธารไม่ได้สนใจสิ่งที่เธอผลักดันอยู่นั้นว่า ไม่ได้มีในการแถลงนโยบายต่อสภา และไม่ได้แถลงต่อประชาชนตอนหาเสียง โดยเธอมั่นใจว่า กฎหมายที่กำหนดให้รัฐบาลทำตามคำแถลงต่อสภา และคำโฆษณาตอนหาเสียงมันเป็นเพียงเสือกระดาษ
ในรายการ “โอกาสไทยพบกับนายกแพทองธาร” เธอกล่าวว่า ประเทศไทยสร้างกาสิโนแบบสากลเหมือนในเมืองดูไบ และในประเทศสิงคโปร์ โดยที่เธอแปลงร่างเป็นตาบอดไม่กลัวเสือ ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีความโปร่งใสสูงสุดในเอเชีย ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่มีปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุด
เธออ้างว่า ต้องการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร ให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนต์ สถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่ม(Indoor) และโรงแรม เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังขาดสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่มีคุณภาพ และสามารถรองรับผู้ชมจำนวนมากได้
ในประเด็นนี้ น.ส.แพทองธารไม่รู้หรือว่าพื้นที่จัดงานอีเวนต์ สถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่ม (Indoor) ประเทศไทย ปัจจุบันมีมากเกินความต้องการจัดอีเวนต์ในร่ม ประเทศไทยเคยจัดกีฬาในร่มระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส เทควันโดยกน้ำหนัก ชกมวย แบดมินตัน และ วอลเลย์บอลระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ (2025) ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันวอลเลย์บอล VNL (Volleyball National Leagues) มีทีมระดับโอลิมปิกร่วมแข่งขันถึง 32 ชาติ
ทุกวันนี้สิ่งที่ น.ส.แพทองธาร มองเสือร้ายที่สามารถขยุ้มคนให้ตายทั้งโลกได้ คือ สงครามการค้าและบริษัทจัดอันดับเครดิตเศรษฐกิจระดับโลกมูดี้ส์บริษัทจัดอันดับที่มีความเชื่อถือทั่วโลกลดอันดับ outlook จัดมุมมองอันดับประเทศไทยจาก Stable เป็น Negative และสำทับด้วยการลดมุมมองของ 7 ธนาคารไทยจากมีเสถียรภาพเป็นลบเช่นกัน
แทนที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะเตรียมการรับมือหรือแก้ไขสถานการณ์ที่มูดี้ส์ลดอันดับเครดิตประเทศไทยจากเสถียรภาพเป็นลบ ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารจัดการกู้หนี้สาธารณะและการเพิ่มทุนของเอกชน นายกรัฐมนตรี และ ครม.เรียงหน้าออกมาโทษว่า “มูดี้ส์ปรับมุมมองประเทศไทยเร็วเกินไป”
และสองวันหลังจากนั้น IMF กับ ธนาคารโลก ออกมาสำทับว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยตกต่ำที่สุดในประเทศอาเซียนด้วยกัน โดย IMF และธนาคารโลกประมาณการ 2025 (ปีนี้)
เวียดนาม โต 5.8% ฟิลิปปินส์ โต 5.3% อินโดนีเซีย โต 4.7% กัมพูชา โต 4.0% มาเลเซีย โต 3.9% สปป.ลาว โต 3.5% ส่วนประเทศไทยถูกปรับลดลงจาก ประมาณการเบื้องต้นเศรษฐกิจเติบโต 2.8% ลดลงเหลือ 1.6 ถึง 1.8%
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า..“ในขณะที่ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ตลาดเงียบสนิทมีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ จีดีพีของไทยต่ำเตี้ยติดดิน ต่ำกว่าลาว ไหนจะเจอกำแพงภาษีจากสหรัฐ แจกเงินหมื่นไม่เกิดพายุหมุนแทนที่จะคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการสร้างกาสิโนให้ได้ กว่าจะสร้างเสร็จคนไทยตายเรียบ เวลานี้ คนกำลังจะจมน้ำตายมันรอไม่ได้แล้ว ทำไม่เป็นลาออกไป”
ประเด็นกำแพงภาษีสหรัฐที่ท่านนันทิวัฒน์ พูดถึงนั้น น.ส.แพทองธารมองว่า ทรัมป์ก็เป็นเสือกระดาษตัวหนึ่ง เธอจึงได้พูดในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ว่า เรื่องสหรัฐขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้นั้นให้คนไทยสบายใจได้ รัฐบาลไทยมี “deal ลับ” กับรัฐบาลทรัมป์ ที่ยังเปิดเผยให้คนไทยได้รับรู้ไม่ได้ เพราะกลัวชาติอื่นรู้!
หมายความว่า คนไทยไม่มีสิทธิ์รู้ว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งไปทำข้อตกลง (Deal) ลับกับสหรัฐอะไรไว้บ้าง น.ส.แพทองธาร ทำราวกับว่าประเทศไทย เป็นบริษัทในครอบครัวไปตกลงลับกับต่างประเทศไว้อย่างไรก็ได้ น.ส.แพทองธารไม่รู้หรือว่าการตกลงใดๆ กับต่างชาติ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และสภาความมั่นคงแห่งชาติเสียก่อน ดังนั้นการตกลงลับกับสหรัฐขัดรัฐธรรมนูญโดยชัดเจน
เนื่องจาก น.ส.แพทองธารพูดออกอากาศถ่ายทอดไปทั่วประเทศว่า “รัฐบาลไทยมีดีลลับกับรัฐบาล ทรัมป์ นั้นหมายความว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ได้มีข้อตกลงลับกับรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาเพราะศัพท์ภาษาที่เธอใช้ คือ “รัฐบาลไทยมีดีลลับ กับรัฐบาลทรัมป์”
ส่วน ดีลลับ จะรวมถึงยอมให้สหรัฐมาตั้งฐานทัพลอยน้ำ ในน่านน้ำไทย หรือ ใช้อู่ตะเภาเป็นฐานปิดกั้นจีนหรือไม่ ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่สหรัฐได้พยายามทำสิ่งเหล่านั้นในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ถูกมวลมหาประชาชนต่อต้านจนต้องพับโครงการไป หรือมันจะกลับมาใหม่ในดีลลับหรือไม่ ไม่สามารถรู้ได้ในเวลานี้
และหากรัฐบาลไทยไปตกลงซื้อเครื่องบินรบรุ่นเก่า พ้นยุคหมดสมัยมาให้กองทัพอากาศใช้ ตลอดถึงข้อตกลงซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ รวมทั้งเครื่องในหมู เพื่อแลกกับการลดภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศไทยถึง 136% ก็เป็นความลับที่รัฐบาล น.ส.แพทองธารอ้างว่า บอกคนไทยไม่ได้ เดี๋ยวรู้ไปถึงชาติอื่น
สิ่งเหล่านี้ย่อมบ่งชี้ว่า น.ส.แพทองธาร เป็นคนดื้อตาใสที่ไม่กลัวเสือกระดาษ เนื่องจากเธอถูกปลูกฝังว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ ตลอดถึงการต่อต้านกาสิโนจากทุกวงการ รวมถึงการขึ้นภาษีตอบโต้ของทรัมป์ และการลดอันดับเครดิตของมูดี้ส์ IMF และ ธนาคารโลก ล้วนเป็นเสือกระดาษ ที่คนใกล้ตัวนายกฯตลอดถึงสมุนบริวารสามารถบริหารจัดการกับเสือกระดาษเหล่านั้นได้ นายกฯแพทองธาร ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจลัลล้าต่อไปได้ตามสไตล์นายกฯ Gen Y
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี