กัมพูชาเป็นชาติถูกสาปให้ตกอยู่ในความขัดแย้งตลอดกาล รบราฆ่ากันเองภายใน ตั้งแต่สมัยโบราณความขัดแย้งแย่งชิงกันเป็นใหญ่ทำให้ประมุขกัมพูชาต้องหนีไปพึ่งโพธิสมภารพระมหากษัตริย์ประเทศเพื่อนบ้าน คือไทยหรือไม่ก็เวียดนามตลอดเวลากว่าร้อยปี
หลักฐานประวัติศาสตร์ ระบุว่า ชนชั้นปกครองกัมพูชา เมื่อรบราฆ่าฟันกันเองภายในผู้พ่ายไม่หนีไปพึ่งไทย หรือไม่ ก็ไปอยู่ใต้บารมีขององค์ประมุขเวียดนาม คนโบราณจึงเปรียบเปรยว่า “เขมรเป็นนกสองหัวตัวเดียวสองคอ”
ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งยุคใหม่ ที่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ในฐานะผู้สื่อข่าว จำได้ว่าปี 2516 เกิดสงคราม กลางเมืองในกัมพูชา รัฐบาลภายใต้การอุปถัมภ์ของสหรัฐทำสงคราม กับ พรรค
คอมมิวนิสต์กัมพูชาที่เรียกว่า “เขมรแดง” นำโดยพลพต ซึ่งมีวัยรุ่นนาม ฮุนเซน เป็นทหารปลายแถว
ปี 2518 เขมรแดงยึดกรุงพนมเปญได้ ผู้ยึดครองเผาทำลายตำราเรียน หลักฐานประวัติศาสตร์ทั้งหมดไล่ต้อนปัญญาชน คนชั้นกลาง พ่อค้าข้าราชการ และชาวบ้านไปอยู่ในชนบท เพื่อการผลิตรวมในการทำไร่ทำนา ที่ฝ่ายต่อต้านกล่าวว่าความโหดร้ายทารุณของเขมรแดงทำให้ชาวกัมพูชาล้มตายกว่า 2 ล้านคน จากประชากร 7 ล้านคน ในเวลานั้น และส่วนใหญ่ตายเพราะขาดแคลนอาหาร และไข้ป่า อหิวาตกโรค มาลาเรียเนื่องจากว่าไม่มีหมอรักษาไข้ ไม่มียารักษาโรค
ในขณะที่ชาวกัมพูชาเผชิญกับความโหดร้ายทารุณ ปลายปี 2518 ฮุนเซน หนีเขมรแดงไปอยู่กับฝ่ายต่อต้าน และฝ่ายต่อต้าน นำโดย เฮง สัมริน, เจีย ซิม และ ฮุนเซน หนีการปกครอง
ระบบเขมรแดงไปขอความช่วยเหลือจากเวียดนามและตั้งกลุ่มต้านเขมรแดงจากเวียดนาม
กลุ่มต้านระบบเขมรแดง ที่ไปซุกอยู่ในเวียดนาม เรียกตัวเองว่า กลุ่มชาตินิยมกัมพูชา และได้รับการสนับสนุนจากเวียดนามซุ่มโจมตีเขมรแดงบริเวณชายแดนและทางทะเล ปี 2520 เวียดนามเริ่มส่งกำลังทหารรุกรานกัมพูชาคืบหน้าไปอย่างเชื่องช้า
ปี 2521 เวียดนามส่งทหาร 250,000 นาย พร้อมอาวุธหนัก รถถัง ปืนใหญ่ และเครื่องรบจากรัสเซียรุกรานกัมพูชา และหลายครั้งลามมาถึงชายแดนไทย ทำให้เกิดการปะทะใหญ่กันหลายครั้ง
ปี 2522 เวียดนามยึดพนมเปญได้ไล่เขมรแดงเข้าป่ามาตั้งหลักต่อสู้กับเวียดนามใกล้แนวชายแดนไทย เวียดนามอุปโลกน์ เฮง สัมริน เจีย ซิม และ ฮุนเซน เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล
ในพนมเปญ โดยมี ฮุนเซน อดีตทหารเขมรแดง เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
รัฐบาลพนมเปญมีหน้าที่บริหารการเมือง โดยทหารเวียดนามหลายแสนนาย ทำหน้าที่กำจัดเขมรแดง และแนวร่วมต่อต้านรัฐบาลพนมเปญตลอดแนวชายแดนไทย กัมพูชา ตั้งแต่จังหวัดตราด ตะวันออกของไทยไปถึงอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี ในภาคอีสาน
ด้วยความไม่คุ้นเคยพื้นที่ หรือความจงใจ ทหารเวียดนามรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง จนปะทะกับทหารไทย ผู้เขียนเคยเห็นศพทหารเวียดนามตาย ในเขตแดนไทยที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลายสิบศพ
นั้นคือที่มาของความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างสงครามกลางเมืองเขมร อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทหารเวียดนามเป็นตัวละครหลักยุติลงได้ในระยะหนึ่ง เมื่อรัฐบาลไทยในยุคนั้นประสานงานกับจีนและอาเซียนตลอดถึงอเมริกา ร่วมมือต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วยกันและอำนวยความสะดวกให้คู่สงครามในกัมพูชา ได้เจรจาแสวงหาแนวทางยุติสงคราม ปี 2531 รัฐบาล เฮง สัมริน กับ เขมร 3 ฝ่ายลงนามสันติภาพกรุงปารีส
ความขัดแย้งชายแดนไทย ก็สงบไปในห้วงเวลาสามปีที่กองกำลังสหประชาชาติเข้าไปสังเกตการณ์ และเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเตรียมการเลือกตั้งหลังลงนามสงบศึก
การเลือกตั้ง ที่จัดโดยสหประชาชาติในปี 2536 พรรคฟุนซินเปก ของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ชนะการเลือกตั้งได้ สส.มากกว่า พรรคประชาชนกัมพูชา แต่นายฮุนเซน ไม่ยอมให้เจ้ารณฤทธิ์จัดตั้งรัฐบาล จนหัวหน้ารัฐบาลเฉพาะกาลจากยูเอ็น เกลี้ยกล่อมให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันตั้งรัฐบาล โดยให้เจ้ารณฤทธิ์ และนายฮุนเซน เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 คน “นี่ก็เข้าทำนองนกสองหัวตัวเดียวสองคอ”
นายฮุนเซน กับ เจ้ารณฤทธิ์ ร่วมกันบริหารประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งภายในแบบไฟสุมขอน จนถึงปี 2540 จู่ๆ ก็มีรายงานว่า มีผู้พยายามลอบสังหาร ฮุนเซน โดยรายงานออกจากสื่อในเครือข่าย นายฮุนเซน ระบุว่ามีการพยายามลอบสังหารเขาที่เสียมราฐ โดยมีผู้โจมตีใช้จรวด B40 ยิงใส่ขบวนรถของเขา แต่จรวดพลาดเป้าไปโดนบ้านใกล้เคียง ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 1 คน
รายงาน ระบุ ด้วยว่า นักธุรกิจการเมืองเจ้าของบริษัทสื่อสารคมนาคม เป็นศัตรูตัวฉกาจของ ฮุนเซน ถึงขนาดให้เงินสนับสนุนทหารฝ่ายตรงกันข้าม ฮุนเซน ปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นฮุนเซนเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับเจ้ารณฤทธิ์ แต่การปฏิวัติในครั้งนั้นล้มเหลว และหนึ่งในผู้ต้องหาที่กัมพูชาต้องการจับตัว ข้อหาร่วมก่อการปฏิวัติ แต่หนีออกมาได้มีชื่อ พันตำรวจโท อ. ขณะนั้นสังกัดพรรคความหวังใหม่ ที่มี พ่อใหญ่จิ๋วเป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี
ฮุนเซน อ้างข่าวลอบสังหารเขาเป็นความชอบธรรม นำทหารทำการปฏิวัติซ้อนแล้วบีบบังคับให้สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์เสด็จออกนอกประเทศเป็นการชั่วคราว
เมื่อยึดอำนาจการปกครองได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด นักธุรกิจการเมืองไทย ที่เคยมีข้อครหาว่า อาจมีส่วนในแผนการลอบสังหารล้มเหลว ก็หาทางผูกมิตรกับผู้มีอำนาจเด็ดขาดในกัมพูชา โดยเสนอการลงทุนสื่อสารคมนาคม
ว่ากันว่า บริษัทการสื่อสารโทรคมนาคม ในเครือข่ายนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ ลงทุนครั้งมโหฬารพร้อมเบี้ยบ้ายรายทาง ที่สามารถซื้อใจนายฮุนเซน ได้ จนนักธุรกิจการเมืองผู้นั้น กลายเป็นมิตรสหายแบ่งปันผลประโยชน์ชาติกับ นายฮุนเซน ได้
อย่างไรก็ตาม ฮุนเซน ผู้มีนิสัยถาวรในการสร้างสถานการณ์คลั่งชาติ เพื่อให้ชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง ปี 2546 ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งหนังสือพิมพ์กัมพูชาฉบับหนึ่งตีเเผ่บทความ
กล่าวหาด้วยข้อมูลบิดเบือนว่า นักแสดงหญิงไทยคนหนึ่ง อ้างว่านครวัดเป็นของประเทศไทย
ตลอดเดือนมกราคม 2546 สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อวิทยุกัมพูชาอื่นๆ ได้หยิบยกเอารายงานดังกล่าว ปลุกระดมความรู้สึกชาตินิยมเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดจลาจลในพนมเปญ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ซึ่งสถานทูตไทยถูกเผาและมีการปล้นสะดมทรัพย์สินของธุรกิจไทยในกัมพูชา
ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นละล้าละลังไม่รู้จะทำอย่างไร พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.สส. นำเครื่องบิน C-130 พร้อมกำลังพล และรถหุ้มเกราะไปรับคนไทย 130 คน
ออกจากพนมเปญอย่างปลอดภัย
เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อใดก็ตามที่ทักษิณ จับมือกันนายฮุนเซน ความรุนแรงมักเกิดขึ้นในประเทศไทย ปี 2552-2553 ฮุนเซน แต่งตั้งทักษิณนักโทษหนีคุก เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ในขณะที่การประท้วงรุนแรงของคนเสื้อแดงกำลังลุกเป็นไฟ นายฮุนเซน รับอุปถัมภ์คนเสื้อแดงที่ทำผิดกฎหมายไทยไว้ในพนมเปญ
นายฮุนเซน ถึงขนาดมาด่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในโรงแรมที่ประชุม อ.ชะอำ ว่า นายอภิสิทธิ์ทำร้ายคนเสื้อแดง
ในห้วงเวลาที่ทักษิณหนีการถูกจำคุกเขาได้ใช้กัมพูชาเป็นฐานบัญชาการ สั่งสมุนบริวารให้เผาบ้านเผาเมือง จนความขัดแย้งบานปลายถึงขั้นปะทะกันที่เขาพระวิหารในปี 2554
ปี 2568 ทักษิณ ชินวัตร รับตำแหน่ง สทร.มีอิทธิบารมีเหนือรัฐบาล ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนอัครมหาเสนาบดี ฮุนเซน เป็นประธานองคมนตรี ควบประธานรัฐสภากัมพูชา โดยมี นายฮุน มาเนต ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นนายกรัฐมนตรี ความขัดแย้งรุนแรงก็เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาถึงขั้นยิงกันตาย
หลายฝ่ายเชื่อว่าเหตุร้ายบนชายแดนไทย กัมพูชา เป็นการสมคบกันสร้างสถานการณ์เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต เป็นฮีโร่ผู้รักชาติ แต่อยากได้ดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน
เพราะเขมรเชื่อว่า สทร. ซึ่งเป็นสหายร่วมน้ำสาบานกับบิดา ฮุน มาเนต อาจแบ่งดินแดนไทยให้เขมรได้ เพื่อให้ลูกชาย นายฮุนเซน เป็นฮีโร่
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี