สงครามน้ำเงิน-แดงร้อนแรงขึ้นถึงขั้นปรอทแตก เมื่อสองพรรคใหญ่ในรัฐบาลขับเคี่ยวกันทั้งสนามเลือกตั้งในสภา นอกสภา และปัญหาทางกฎหมาย และจัดสรรผลประโยชน์กันไม่ลงตัวในความพยายามทำให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย ตลอดถึงไม่สามารถแชร์อำนาจกันได้ในสภาสูง
มองจากสายตาคนภายนอก บอกได้ว่า ค่ายสีแดงกำลังเพลี่ยงพล้ำ เมื่อแพทยสภามีมติกรณีชั้น 14 ว่า“ไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะ (ป่วย) วิกฤตเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เรามีการลงโทษ เป็นการพักใช้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นการลงโทษขั้นรุนแรง”
มติแพทย์จึงเป็นหลักฐาน ยืนยันว่า การย้ายน.ช.ทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำไปพักในห้องรับรองพิเศษบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ 180 วัน เป็นไปโดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามหมายขังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงนัดโจทก์ ป.ป.ช.และอัยการกับจำเลย (นายทักษิณ) มาไต่สวนคดีวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ที่กูรูทางกฎหมาย ชี้ว่าเป็นจุดตายของค่ายแดง เนื่องจากศาลฯอาจพิจารณาออกหมายขังให้นายทักษิณกลับเข้าเรือนจำในวันนั้นเลย
ถึงแม้ว่ามติแพทย์สภายังไม่สามารถลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน คือ ตักเตือน 1 คน ฐานออกใบส่งตัวไม่เป็นตามมาตรฐานการแพทย์ (เขียนใบส่งตัวล่วงหน้า) พักใบอนุญาตวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ฐานออกเอกสารไม่ตรงกับความจริง
อย่างไรก็ตาม แพทยสภายังไม่สามารถลงโทษแพทย์สามคนได้ จนกว่าจะได้รับการเห็นชอบจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษผู้มีอำนาจ “วีโต้” ได้ ซึ่งมีหลายฝ่ายเรียกร้องไม่ให้นายสมศักดิ์วีโต้มติแพทยสภา
มองจากธรรมชาติและประวัตินายสมศักดิ์เชื่อว่า เขาต้องใช้อำนาจวีโต้ เพื่อเอาใจนาย และเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำไว้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายทุกประการ
ต้องไม่ลืมว่านายสมศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เป็นรัฐมนตรีในสมัย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย และเป็นรัฐมนตรียุติธรรม ในรัฐบาลพลังประชารัฐสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายสมศักดิ์ เคยเป็นผู้ถูกกล่าวหาหลายคดี แต่ไม่เคยถูกตัดสินจำคุก เนื่องจากนักกฎหมายช่วยให้เขาหลุดรอดได้ทุกคดี จึงไม่แปลกใจที่นายสมศักดิ์ ตั้งทีมที่ปรึกษา 10 คน ให้ร่วมพิจารณาว่าวีโต้มติแพทยสภาหรือไม่ พิเคราะห์จากทีมที่ปรึกษาที่ 8 ใน 10 คน เป็นนักกฎหมายทำให้มั่นใจว่านายสมศักดิ์ต้องวีโต้มติแพทยสภา เพื่อเอาใจนายและเพื่อความชอบธรรมในสิ่งที่เขาทำไว้
ในห้วงเวลาที่ทักษิณดิ้นรนกลับประเทศไทย นายสมศักดิ์ซึ่งเป็นรัฐมนตรียุติธรรมขณะนั้น คณะทำงานนายสมศักดิ์บอกแนวหน้าตั้งแต่ปี 2565 ว่านายทักษิณจะกลับประเทศไทยได้โดยไม่ติดคุกเนื่องจากว่านายสมศักดิ์สั่งให้กรมราชทัณฑ์แก้ไขระเบียบขังนักโทษใหม่ ให้ขังนักโทษนอกเรือนจำได้ ตามสถานที่และเงื่อนไขที่กำหนดใหม่โดยกรมราชทัณฑ์ เช่น กักขังนักโทษที่บ้าน ที่โรงพยาบาล และที่สถานที่อื่นๆ ตามเงื่อนไข
สมัยที่นายสมศักดิ์ เป็นรัฐมนตรียุติธรรม กรมราชทัณฑ์ มีการกระทำประหลาด เช่น อนุญาตให้ น.ช.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ใส่ชุดทักซิโด้ออกมานั่งคุยกับแฟนคลับได้ ในงานศพบิดานักโทษชายซึ่งเรือนจำไม่เคยทำอย่างนั้นมาก่อน เมื่อสื่อมวลชนตั้งคำถามได้รับคำตอบว่า น.ช.ณัฐวุฒิได้รับอนุญาตตามระเบียบใหม่ซึ่งแก้ไขหนึ่งวันก่อนเรือนจำปฏิบัติตามระเบียบใหม่
นี่คือเหตุผลบ่งชี้ว่า นายสมศักดิ์ จำเป็นต้องวีโต้มติของแพทยสภาเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่แก้ไขสมัยเขากำกับดูแลกรมราชทัณฑ์
อย่างไรก็ตาม การวีโต้มติแพทยสภา ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการไต่สวนว่านักโทษถูกย้ายจากเรือนจำโดยชอบหรือไม่ เนื่องจากมติแพทยสภาแถลงเป็นทางการแล้วว่าทักษิณไม่ได้(ป่วย)วิกฤตตามข้ออ้าง นอกจากนั้นยังมีหลักฐานพยานแวดล้อมอีกมากมายที่ศาลฯอาจนำมาประกอบการพิจารณา สรุปว่าคดีชั้น 14 หากศาลฯพิจารณาเป็นลบต่อจำเลย น้ำเงินก็ชนะในสมรภูมินี้โดยมิต้องออกแรง
ส่วนสงครามในสนามรบสภาสูง ที่กำลังเดือดพล่านพออนุมานได้ว่า ฝ่ายน้ำเงิน น่าจะมีชัยจากปัจจัยหลายอย่างอำนวยให้เนื่องจากฝ่ายแดงเปิดฉากรุกผลีผลามไม่เป็นไปตามตำราพิชัยสงคราม เมื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเปิดประเด็นโจมตีว่า วุฒิสภาได้มาโดยการฮั๊วกัน เป็นขบวนการอั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงิน
สว.ที่ถูกกล่าวฮั๊วกัน เป็นอั้งยี่ซ่องโจร และฟอกเงิน ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่ารองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะประธานกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรรมการคดีพิเศษ ผู้กำกับดูแลดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่สั่งการให้ ดีเอสไอ สอบสวนดำเนินคดี สว.อาจผิดกฎหมายอาญา มาตรา 157
ฝ่ายดีเอสไอก็เปิดเกมรุกประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เดินหน้าตั้งข้อหาฮั้วเลือกตั้งและฟอกเงินกับ สว. 138 คน ในเบื้องต้น กกต.เรียก สว. 55 คน และคนนอก 10 คน มารับทราบข้อกล่าวหา นอกจาก สว. 55 คน ที่ถูกมองเป็น สว.สีน้ำเงินแล้วคนนอกที่เป็นผู้ต้องหา 10 คน ล้วนแต่เป็นเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย
ที่มี อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีช่วยฯพาณิชย์อดีต สส.และผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย รวมทั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ จึงทำให้สังคมเข้าใจว่า ค่ายแดงมุ่งทำลายค่ายสีน้ำเงิน วันที่ 22 พฤษภาคม มีรายงานว่า กกต. เรียก สว. 24 คน ไปรับทราบผู้ข้อหา
ในเบื้องต้น สีน้ำเงินเป็นต่อ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าเกี่ยวข้องกับดีเอสไอ ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำงานยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากพ.ต.อ.ทวี ที่อดีตเคยเป็นอธิบดีดีเอสไอ เปรียบเหมือนกัปตันเรือ ในคดีนี้ ประกอบกับดีเอสไอ ต้องสอบสวนผู้ต้องหานับร้อยราย ยังไม่รวมพยานอีกเป็นพันคน ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าเรื่องนี้จะขึ้นศาล ถึงเวลานั้นน่าจะหมดวาระวุฒิสภาชุดนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างถูกสอบสวนดำเนินคดี สว.ชุดนี้ยังมีอำนาจหน้าที่ลงมติเลือกตั้งกรรมการองค์กรอิสระอาทิ กรรมการเลือกตั้ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดินตลอดถึงประธานศาลฎีกาและองค์กรอิสระอื่นๆ อีกมากมาย
สว.เสียงส่วนน้อยในวุฒิสภา พยายามขัดขวางไม่ให้สว.ส่วนใหญ่ใช้อำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ อาทิ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ท่าน รวมทั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการ ป.ป.ช. 3 คน และ กกต. 3 คน สว.เสียงส่วนน้อยอ้างว่า หาก สว.ที่ถูกกล่าวหาฮั้วเลือกตั้งถูกตัดสินมีความผิด กรรมการองค์กรอิสระที่ได้รับเลือกจาก สว.ชุดนี้อาจเป็นโมฆะ
ด้านประธานวุฒิสภา ยืนยันว่าไม่ว่าผลการสอบสวนดำเนินคดีฮั้วเลือก สว.ออกมาในทางบวก หรือทางลบ ไม่มีผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับเลือกเป็นกรรมการองค์กรอิสระจาก สว.ตามกฎหมาย
สว.ชุดนี้จึงมีอิทธิพลบารมีในองค์กรอิสระต่างๆ อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ตามวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ให้น้ำหนักไปทางผู้ที่มีส่วนลงคะแนนให้ได้ตำแหน่ง มากกว่าฝ่ายที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จึงประเมินว่า สงครามแย่งอำนาจในสภาสูง ฝ่ายแดงจะเป็นผู้เพลี่ยงพล้ำอีกหนึ่งสนามรบ
และหากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ล่มสลายไปพร้อมบิดา เชื่อว่าเธอต้องไปเพราะกฎหมาย ที่รัฐบาลเพื่อไทย นำเงินงบประมาณมาใช้ผิดประเภทและมีคนฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่า
รัฐบาลนำเงินงบประมาณที่เตรียมใช้หนี้ธนาคาร สามหมื่นห้าพันล้านบาท ไปแจกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แทนแผนการแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท เป็นการละเมิดกฎหมายงบประมาณมาตรา 144
ส่วนความพยายามให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย หากค่ายสีแดงประสานผลประโยชน์กับค่ายสีน้ำเงินได้ เท่ากับฆ่าตัวตายทางการเมืองพร้อมกัน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี