“แตกหัก” เป็นคำไทย ที่บ่งบอกถึงการ “เอาชนะกัน” อย่าง“สุดบ้าเทหมดหน้าตัก”

ส่วนในคำแปลตามพจนานุกรมนั้น แม้จะ “ไม่ดุดันระดับใช้ภาษาจับกังแรมโบ้” แต่ก็ได้แปล “ชัด ชัด อย่างสะใจ” ว่า “แตกหัก คือ ความเด็ดขาดของทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีใครยอมใครจบท้ายได้รู้ดีกัน(ใครจะเดี้ยง)”

ในวันนี้ “แตกหัก” ที่เกิดขึ้นในโลก ต่างกลายเป็นแฟชั่นของทุกภาคส่วน แต่ที่ตกเป็นข่าวสุดดัง ล้วนเป็นรายการ “แตกหักในรายการบิ๊ก บิ๊ก และไม่เบิ้ม เบิ้ม” ทั้งสิ้นเช่น

“สงครามอาวุธระหว่าง รัสเซียกับยูเครน อิสราเอลกับกลุ่มชาติอาหรับ ที่ทุกฝ่ายต่างสู้กันแบบแตกหัก ชนิดไม่มีใครยอมใคร”

ในขณะที่ “สงครามอาวุธระดับไฟไหม้ฟาง” อย่าง “อินเดียรบกับปากีสถาน” และ “ทหารขอมดำดินปะทะกับทหารสารขัณฑ์” แม้จะไม่ถือเป็น “สงครามแตกหัก” แต่ก็เป็น “สงครามยืดเยื้อและงี่เง่า”ประเภท “แหย่เสือหลับไปอีกยาวนานและแหย่รังต่อเผารังแตนไปอีกยาวไกล” จน “น้ำท่วมหลังเป็ด ในอีก 100 ปีข้างหน้า ความขัดแย้งก็ยังไม่จบ”

เหลียวมาดู “สงครามชิงอำนาจทางการเมือง” ระหว่างพรรคสีแดงและพรรคสีน้ำเงินของนครสารขัณฑ์บ้าง ที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลมาเกือบสองปี จู่ จู่ ก็กลายเป็น “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” เหยียบตาปลากันถึงขั้น “ไม่มีใครยอมใคร”

เหตุเกิดจาก “พ่อมดหน้าเหลี่ยม” ผู้เป็นสทร.อยู่เบื้องหลังการทำงานของ “เลดี้เฟียส”ถือรีโมทบงการงานนโยบายของรัฐบาลมาดามร่างเตี้ยแห่งนครสารขัณฑ์ “ได้ออกมาสทร.อย่างสุดห้าว” ว่า “ตนจะยึดกระทรวงมหาดไทย ที่พรรคสีน้ำเงินครอบครองอยู่ กลับมาเป็นของพรรคสีแดงเป็นผู้ดูแล”

เท่านั้นล่ะครับท่านผู้ชม “หัวหน้าหนู” แห่งพรรคสีน้ำเงิน ก็“ของขึ้น” ในทันทีทันใด ถึงขั้น “ควันออกหู ไฟพรูออกทางปาก” ประกาศเสียงดังอย่างสุดชัด “มหาดไทยของข้า ใครอย่าแตะ”

“ถ้ากล้าแตะ พรรคสีน้ำเงินจะไปจับมือกับพรรคสีส้ม”

“บิ๊กทั้งสองพรรค” ประกาศความต้องการอย่าง “สุดชัด สุดกล้าและสุดห้าว” เช่นนี้ สื่อทั้งหลายในนครสารขัณฑ์ต่างจึง “ลุ้นอย่างสุดมัน” ว่า “พ่อมดหน้าเหลี่ยม” ผู้กร่างไม่กลัวใคร และเป็นผู้มีจิตวิญญาณสุดห้าววิ่งพล่านอยู่ในสายเลือด และบูชาลัทธิ “สิ่งที่กูอยากได้ ต้องได้” นั้น

“จบท้าย” เปิ้นจะ “กล้าหักดิบ” กับ “หัวหน้าหนู” ด้วยรายการ “ทำสงครามแตกหัก” กับพรรคสีน้ำเงินหรือไม่?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม