•ท่ามกลางพายุชีวิต : แสงสัจธรรมนำทางสู่ความสงบ
ในห้วงเวลาที่พายุโหมกระหน่ำ ใจกลับสงบนิ่ง สว่างไสว
พบเจอแสงแห่งสัจธรรมอันเจิดจ้า ส่องนำทางชีวิตให้ก้าวไปสู่สุขนิรันดร์...
นี่คือบทสรุปการเดินทางอันยาวนานบนเส้นทางชีวิตของผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมา
ด้วยการผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน ทุกรูปแบบดำขาวเทา ตั้งแต่เยาววัยหนุ่มสาว ต่อไปถึงชีวิตรุ่นใหญ่
ผ่านเกษียณ เวียนมาถึงวัยชรา ณ เวลานี้ อยู่ที่หลัก กม. : เจ็ดสิบหก
ก่อเกิดประสบการณ์ชีวิต พัฒนาความคิดกายจิต สู่ความสงบในบั้นปลายชีวิต
เส้นทางแห่งการเรียนรู้และการเติบโต
ในช่วงยามเป็นนิสิตนักศึกษา กิจกรรมเป็นใหญ่ การเรียนเป็นรอง
ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในคณะวิศวกรรมศาสตร์
และ ของสโมสรนิสิตจุฬาฯ ชมรมต่างๆ
ที่สำคัญคือ
- ชมรมบริการโลหิตและสังคมสงเคราห์ สจม. : เจ้าเสือหาญฟ้า ณ ยองห้วย ประธาน
- ชมรมปาฐกถาและโต้วาที สจม.ที่มี อ.จินตนา ยศสุนทร เป็นที่ปรึกษา
และ อ.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ให้ความรักต่อชมรมฯอย่างสูง
- ชมรมค่ายอาสาสมัคร สจม. ที่มีบทบาทอย่างสูง ต่อความเข้าใจชีวิตของชาวบ้านฯ
- รวมทั้งการไปร่วมค่ายอาสาสมัครนิสิตนักศึกษาไทย-มุสลิม (ชาว ๔ จังหวัดภาคใต้ )
- และที่เป็นจุดสุดยอด คือการได้รับเลือกตั้งทั่วไปจากนิสิตจุฬาฯ
ให้เป็นอุปนายกสจม. คนที่๑ ในปี ๒๕๑๔
และต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็นนายกสจม.
ซึ่งทำให้ได้ร่วมกิจกรรมสำคัญทั้ง
(๑)งานของชาวนิสิตจุฬาฯ
(๒)งานร่วมมือกับ ผู้นำนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ
(๓)งานศูนย์กลางนิสตินักศึกษาแห่งประเทศไทย ในปี ๒๕๑๔
และปี ๒๕๑๕ ที่ อ.ธีรยุทธ บุญมี เป็นเลขาธิการศนท.
(๔)การได้มีโอกาสพิเศษสุดในชีวิต
ในการร่วมรับเสด็จในหลวง ร.๙ และสมเด็จฯ เสด็จทรงดนตรี ต้อนรับประธานาธิบดีอินเดีย เสด็จจุฬาลงกรณ์การต้อนรับควีนเอลิซาเบธเและดยุคแห่งอังกฤษเสด็จฯจุฬาฯ และทรงร่วมโต๊ะเสวยที่ทางจุฬาฯเป็นเจ้าภาพ ณ ศาลาพระเกี้ยว ปี ๒๕๑๕
- จึงใช้เวลาไปถึง หกปี ในหลักสูตรสี่ปี : จบรับปริญญาด้วยความปลื้มปีติเป็นที่สุดเมื่อวันที่ได้สวมชุดครุยเข้ารับปริญญาจากพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ความภาคภูมิใจก็เอ่อล้นจนยากจะบรรยาย
ด้วยใจรักประชาธิปไตยที่ยังไม่เคยสัมผัสเข้าใจอย่างแท้จริง
ประชาธิปไตยในลมหายใจ : จากท้องถนนสู่ป่าเขาด้วยใจที่เปี่ยมด้วยรักในระบอบประชาธิปไตย แม้ในยามนั้นจะยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงถึงแก่นแท้ของมัน
- ช่วงรับราชการ กทม. : ใช้เวลาเลิกงาน วันหยุด วันเสาร์-อาทิตย์
- ร่วมกับเพื่อนมิตร ผู้รักชาติประชาธิปไตย ก่อการใหญ่ “เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ๒๕๑๖”
- เกิดปรากฏการณ์ใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สังคมไทย “เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖”
หลังจากนั้นได้ร่วมเผยแพร่แนวคิดประชาธิปไตยสู่ชนบททั่วไทย
ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (ปช.ปช) ในช่วงปลายปี ๒๕๑๖
เคลื่อนไหวออกเผยแพร่ประชาธิปไตยในชนบทต่างจังหวัด ทุกภาคของประเทศไทย
สร้างและกระตุ้นการตื่นตัวได้มากพอสมควร ในหมู่นิสิตนักศึกษา
องค์กรภาคประชาชน และองค์กรเกษตรของในชนบท
ร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง “สังคมนิยมแห่งประเทศไทย”
โดย ผู้นำนักศึกษานักวิชาการนักการเมืองและผู้นำองค์กรภาคประชาชน
ซึ่ง พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ก็ทำได้ดีมาก
ในการเลือกตั้งครั้งแรก ปี 2518 ได้ สส. 15 คน
การเดินทางไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น
แต่ก้าวข้ามสู่การเข้าร่วมต่อสู้ทางการเมืองในป่าเขาชนบทอันกว้างใหญ่ของสังคมไทย
ก่อนหน้านี้ ผู้นำนักศึกษาและผู้นำประชาชน ได้มีการสรุปบทเรียนการต่อสู้ทางการเมืองในช่วงนั้น
ได้ข้อสรุปว่า : คงอีกไม่นานนัก จะมีการปราบปรามนักศึกษา นักการเมืองประชาชน
จากเหตุ ๒ ปัจจัย
๑.การก่อกำเนิดของฝ่ายขวาจัด ที่ก่อตัวขึ้นมาเพื่อทวงอำนาจกลับคืนมา
๒.การเกิดขึ้นของฝ่ายซ้ายจัด ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นจาก ปีกซ้ายจัดของพคท. โดยมีกลุ่มผู้นำนักศึกษาประชาชนและนักการเมือง ที่มีบทบาทสูงในสังคมได้ออกเดินทางไปต่อสู้แนวทางอื่น สู่ชนบทและต่างประเทศและ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2519 : คณะของเรา ประกอบด้วย อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ประสาร มฤคพิทักษ์ วิสา คัญทัพ มวลชน สุขแสง และชัยวัฒน์ สุรวิชัย ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญของชีวิต เดินทางไปสู่ชนบท เข้าร่วมการต่อสู้แนวทางใหม่ซึ่ง เราไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจอย่างชัดเจนมากนัก แต่เป็นการเดินทางที่ไม่ได้มีทางเลือก
เกิดเหตุการณ์อันแสนเศร้าสลดใจ “6 ตุลาคม 2519” เป็นเหตุการณ์อัปยศที่สุดครั้งหนึ่ง ที่กลุ่มปีกขวาจัด กระทำต่อประชาชนไทย
๕ ปี (๗ สิงหา ๒๕๑๙ - เมษายน ๒๕๒๔) ในป่าใหญ่ฯการค้นพบสัจธรรมของการเปลี่ยนแปลง ได้รับรู้ความจริงของสังคมไทย ในมุมของเปลี่ยนแปลงสังคมไทยสุดยากสุดชีวิต แม้จะประจักษ์ถึงความกล้าหาญ เสียสละ และจิตใจอันดีงามของพรรคคอมมิวนิสต์แต่แนวทางการเปลี่ยนแปลงไม่สอดคล้องกับสังคมไทยฯ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี