บทบาทและแนวคิดของนักคิดสำคัญในสังคมไทย
* อานันท์ ปันยารชุน :
เน้นเสาหลัก 7 ประการของประชาธิปไตยและธรรมาภิบาล,
ชี้จุดอ่อนของการรวมศูนย์อำนาจ,
สนับสนุนการกระจายอำนาจ และ
การประสานพลังคนรุ่นใหม่และเก่า
* นายแพทย์ประเวศ วะสี :
เชื่อว่า “ตัวตั้งของการพัฒนาคือชีวิตและการอยู่ร่วมกัน”,
มนุษย์มี “เมล็ดพันธุ์แห่งความดี” ที่สามารถกระตุ้นเป็น “พลังของพลเมืองตื่นรู้”,
เสนอให้เปลี่ยนจาก “สังคมอำนาจ”ไปสู่ “สังคมแห่งการเรียนรู้” และ
“ปลดล็อกกฎหมาย” เพื่อกระจายอำนาจสู่ชุมชน
* ศ.ดร.ธีรยุทธ บุญมี :
มองว่า “ประชาธิปไตยเป็นวิถีชีวิต”ไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง,
เสนอให้รัฐธรรมนูญใหม่ควรมี“เครื่องมือกระตุ้นประชาชน” ให้เป็น “พลเมือง”
และมีความรับผิดชอบต่อสังคม,
เน้นให้ประชาชนตรวจสอบการใช้อำนาจของนักการเมืองและข้าราชการด้วยตนเอง
* ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล :
นำเสนอแนวคิด “New Horizon”และ “Sustainability is the License to Grow”, ชี้ความเชื่อมโยงระหว่างธรรมาภิบาล, ความยั่งยืน, และการพัฒนาเศรษฐกิจ,
บทบาทในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติและคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ตอกย้ำความสำคัญของการปฏิรูป
ความท้าทายและอุปสรรคในการพัฒนาพลเมืองคุณภาพ
* ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล :
ความยากจน,
ขาดแคลนครูคุณภาพในพื้นที่ห่างไกล,
สภาพแวดล้อมและครอบครัวไม่เอื้ออำนวย
ทำให้เด็กและเยาวชนเสียโอกาสทางการศึกษา
และขาดทักษะพื้นฐาน
ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่มีความถูกต้อง, ชัดเจน, ครบถ้วน,
ใช้ภาษาที่เข้าใจยาก และ
ขั้นตอนที่ซับซ้อน บั่นทอนความสามารถของประชาชนในการเป็นพลเมืองตระหนักรู้
* อุปสรรคในการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจ :
ประชาชนมีข้อจำกัดในการตัดสินใจ,
เจ้าหน้าที่รัฐละเลยการรับฟังความคิดเห็น,
ขาดความเป็นกลาง,
ประชาชนขาดความรู้และทักษะ,
และไม่เชื่อมั่นว่าคำวิจารณ์จะได้รับการรับฟัง
การกระจายอำนาจยังเผชิญกับกฎหมายที่ล้าสมัย,
แนวคิดรัฐรวมศูนย์,
ขาดรายได้และประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณของ อปท.
* ความท้าทายในการปลูกฝังคุณธรรมและทักษะศตวรรษที่ 21 :
การเปลี่ยนพฤติกรรมในวงกว้างเป็นเรื่องซับซ้อน,
ขาดแบบอย่างที่ดีและความสอดคล้องจากทุกภาคส่วน
การพัฒนาทักษะยังเน้นการสอนแบบบอกเล่า,
เน้นสอบมากกว่าปฏิบัติ ทำให้ขาดทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติ
* การบูรณาการนโยบายและแผนงานอย่างเป็นองค์รวม :
เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ,
แผนการศึกษาแห่งชาติ,
และแผนส่งเสริมคุณธรรมเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
เพื่อความสอดคล้องและการเสริมพลังซึ่งกันและกัน
* การเสริมสร้างบทบาทและศักยภาพของทุกภาคส่วน :
* ภาครัฐ :
ปรับเปลี่ยน “Mind set” จากการรวมศูนย์อำนาจสู่การเป็น “ผู้อำนวยการ”,
เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมายเพื่อกระจายอำนาจสู่ อปท.อย่างแท้จริง,
เสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันยุติธรรมและการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ
* ภาคเอกชน :
ขยายบทบาทสู่ความรับผิดชอบทางสังคม (CSR)
และนำหลักธรรมาภิบาล (ESG) มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
* ภาคประชาสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชน :
สนับสนุนบทบาทนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคม
โดยเฉพาะในการเข้าถึงกลุ่มด้อยโอกาส
* สถาบันการศึกษา :
ปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนรู้สู่การเรียนรู้เชิงประสบการณ์
(experiential learning) และ Project-Based Learning (PBL), พัฒนาศักยภาพครูผู้สอน
* สื่อมวลชน :
ส่งเสริมความฉลาดรู้สื่อ,
เผยแพร่เนื้อหาที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์,
กระตุ้นจิตสำนึกและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสังคม
* การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเข้าถึงข้อมูลที่โปร่งใส :
ขยายโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์,
ปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนการขอข้อมูลข่าวสารของราชการให้ง่ายขึ้น
* การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน :
จัดให้มีเวทีสาธารณะและช่องทางการมีส่วนร่วมที่หลากหลาย,
สร้างความเชื่อมั่นและการตอบสนองจากภาครัฐ,
ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ (Service-Learning)
* การปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมที่สอดคล้องกับสังคมประชาธิปไตย :
ดำเนินการปลูกฝังคุณธรรม 5 ประการอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ
ในทุกสถาบันทางสังคม,
สร้างแบบอย่างที่ดีจากผู้นำ, และ
ใช้โอกาสจากวิกฤตเพื่อกระตุ้น “เมล็ดพันธุ์แห่งความดี”
* การนำแนวคิดของนักคิดสำคัญมาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อน :
น้อมนำแนวคิดการกระจายอำนาจของอานันท์ ปันยารชุน,
ปลุกพลัง “เมล็ดพันธุ์แห่งความดี” และ “อัจฉริยภาพกลุ่ม”ของนายแพทย์ประเวศ วะสี,
สร้าง “เครื่องมือกระตุ้นพลเมือง” ของ ศ.ดร.ธีรยุทธ บุญมี,
และใช้ธรรมาภิบาลเพื่อการเติบโตตามแนวคิดของดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล
การพัฒนาคุณภาพของประชาชนไทยเป็นภารกิจที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง
การลงทุนในการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม,
การปลูกฝังคุณธรรมที่ปรากฏเป็นพฤติกรรมจริง,
การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ,
และการเสริมสร้างบทบาทของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน
จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างพลเมืองคุณภาพ
ที่พร้อมขับเคลื่อนประชาธิปไตยไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี