แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การที่เราวางโครงการพัฒนาต่างๆ ขึ้นและเร่งรีบดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ก็เพื่อปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นทรัพยากรตามธรรมชาติ ให้สามารถอำนวยประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนส่วนรวมให้ได้มากที่สุด แต่การพัฒนาเช่นนี้ นอกจากจะได้รับผลดีตามความประสงค์ อาจกระทบกระเทือนถึงประโยชน์อย่างอื่นๆ ด้วยก็ได้ เช่นการสร้างเขื่อนทดน้ำเพื่อประโยชน์ต่างๆ อาจทำความเสียหายให้แก่การประมงหรือการเพาะปลูกก่อความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่อยู่ในเขตโครงการนั้นได้และมีตัวอย่างมาแล้ว จำเป็นที่เราจะต้องแก้ไข ดังนั้นเราจึงต้องการนักวิชาการทุกๆ สาขา เพื่อที่จะมาวางโครงการที่รอบคอบ และแก้ไขสิ่งที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายนั้น ช่วยกันให้ความรู้ความคิดที่ถูกต้องตามหลักวิชาแก่ราษฎร แนะนำวิธีการทำงานอาชีพ ให้รู้จักแก้ไขอุปสรรคขัดข้อง หรือเปลี่ยนการงานให้เหมาะสมเป็นประโยชน์ดีกว่าเก่า... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 10 กรกฎาคม 2512)
...nn ในที่สุดคนไทยก็ได้ทราบชื่อและเห็นหน้าเห็นตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ล่าสุดของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล กันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เห็นแล้วร้องว้าว หรือร้องยี้ หรือร้องผสมกันทั้งว้าวและทั้งยี้ แต่สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อจากนี้ไปคือรัฐมนตรีคณะนี้จะแสดงฝีไม้ลายมือให้ประจักษ์หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ต้องบอกว่ามีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่สร้างภาพลวงตาเก่งมาก และที่สำคัญคือสามารถใช้นักข่าวบางสำนักที่ไร้สำนึกให้ช่วยสร้างภาพลวงตาสังคมให้กับตนเองตลอดเวลา โดยสร้างภาพว่าเก่งแบบนั้น สามารถแบบนี้ ทำกำไรให้กับองค์กรแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้าได้ราวกับมีองค์ลงประทับ อะไรประมาณนั้นก็บอกได้คำเดียวว่ารอดูฝีมือก็แล้วกันว่าจะบริหารกระทรวงได้จริงแท้แค่ไหน แต่มีข่าวแว่วๆ มาระยะหนึ่งแล้วว่า หากไม่รีบรับตำแหน่งรัฐมนตรีรับเชิญ ก็จะไร้งานทำเพราะถูกปลดออกจากตำแหน่งสูงลิบ เนื่องจากเจ้าของกิจการเขาจับได้ว่ากลวงโบ๋ดีแต่สร้างภาพไปวันๆ เท่านั้น
...nn เรื่องใหญ่อีกเรื่องที่กำลังเป็นที่จับตามองของบรรดานักข่าวสายเศรษฐกิจที่ตามเรื่องราวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคือแก๊งไอติมกับการเข้าไปหากินในการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แก๊งไอติมที่ว่านั้นเป็นที่จับตามองโดยนักข่าวสายเศรษฐกิจมานานมากแล้ว เพราะได้กลิ่นและได้ภาพประกอบมาระยะหนึ่งแล้วว่าแก๊งนี้อาศัยความใกล้ชิดกับแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปทำมาหากินกับ project ต่างๆ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่ไม่เท่านั้น เพราะยังมีข่าวลึกๆ โยงไปว่าแก๊งไอติมนี่เกี่ยวพันกับสามีของแพทองธาร คือ ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์ อีกด้วย
...nn เวลาพูดถึงแก๊งไอติมในยุคแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมองย้อนกลับไปถึงยุคที่เศรษฐา ทวีสิน ได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะในวันนั้นแพทองธารยังไม่ได้กินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่ก็ส่งแก๊งไอติมเข้าไปอยู่ในทำเนียบรัฐบาลแล้ว ถามว่าเวลาพูดถึงแก๊งไอติมแล้วนึกถึงใครบ้าง บางคนก็บอกว่านึกถึง คณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือเอิง เพื่อนของแพทองธาร สมัยเรียนอยู่รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และก็ไปเรียนที่อังกฤษด้วยกัน แล้วจากนั้นเอิงก็เข้าสู่วงจรการเมืองแบบเต็มตัว แต่เข้าไปได้ไม่ลึก เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์การเมือง เมื่อครั้งทำหน้าที่รองเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ ขอย้ำว่าพรรคไทยรักษาชาติมีหัวหน้าพรรคชื่อปรีชาพล พงษ์พานิช แล้วพรรคนี้ก็ยื่นพระนามเจ้านายชั้นสูงพระองค์หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค แล้วเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคนี้ และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคโดยห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ห้ามจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ และห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
...nnกลับไปดูรายชื่อหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติกันอีกครั้งแล้วจะสามารถโยงใยให้เห็นถึงสายสนกลในของแก๊งไอติมบางคนได้ชัดเจน เริ่มด้วยหัวหน้าพรรคคือ ปรีชาพล พงษ์พานิช ลูก เสริมศักดิ์-ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ส่วนเลขาธิการพรรค คือ มิตติ ติยะพรัช ลูกชายยงยุทธ ติยะไพรัช ส่วนรองหัวหน้าพรรคมีสี่คนคือ สุณีย์เหลืองวิจิตร, พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล, พฤติชัย วิริยะโรจน์ และฤภพ ชินวัตร ส่วนรองเลขาธิการพรรคมีสามคนคือคณาพจน์ โจมฤทธิ์, ต้น ณ ระนอง และวิม รุ่งวัฒนจินดา ส่วนเหรัญญิกคือวรรษมล เพ็งดิษฐ์ สำหรับนายทะเบียนพรรคคือ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ และผู้รับตำแหน่งโฆษกพรรคคือ พงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ รองโฆษกพรรคคือ ขัตติยา สวัสดิผล ส่วนกรรมการบริหารพรรคคือ จุลพงษ์ โนนศรีชัย และรุ่งเรือง พิทยศิริ (แต่รุ่งเรืองรีบลาออกก่อนเมื่อเห็นว่าพรรคเสนอชื่อเจ้านายชั้นสูงพระองค์หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรค) ส่วนตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งคือประธานยุทธศาสตร์พรรค ชื่อว่า จาตุรนต์ ฉายแสง
...nn ขอย้ำว่าลองกลับไปอ่านรายชื่อคนสำคัญของพรรคไทยรักษาชาติแล้วจะเห็นชัดเจนว่าล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานของแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่ถูกยุบแล้วเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรคพลังประชาชน แล้วต่อมาคือพรรคเพื่อไทย แต่ก็มีบางคนไม่ใช่ลูกหลานของแกนนำพรรคดังกล่าว แต่คือเพื่อนของแพทองธารตั้งแต่สมัยอยู่รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจว่าทำไมคนเหล่านี้จึงยังเวียนวนเวียนว่ายอยู่กับพรรคเพื่อไทยมาจนถึงบัดนี้ แต่ที่สำคัญคือหลายคนได้รับการปูนบำเหน็จอย่างงามให้รับตำแหน่งสำคัญในทำเนียบรัฐบาล และได้รับตำแหน่งกรรมการขององค์กรที่ให้ค่าตอบแทนกรรมการอย่างงามงดหยดย้อย @ แต่ที่ต้องพูดให้ชัดคือแก๊งไอติมสมัยเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีรายชื่อดังต่อไปนี้ คณาพจน์ โจมฤทธิ์, ปรีชาพล พงษ์พานิช, พลช หุตะเจริญ, ธีวรา สุมาวงศ์, ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ, ฉัตรินจันทร์หอม, ศุภกร คงสมจิตต์ และพงษ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ
...nn ส่วนแก๊งไอติมที่กลายเป็นข่าวล่าสุด โดยถูกจับตามองจากนักข่าวสายเศรษฐกิจที่ติดตามกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ได้แก่ คณาพจน์ โจมฤทธิ์ รายนี้เรียกได้ว่าขาเก่าจอมเก๋าตัวจริง เพราะเวียนว่ายอยู่กับพรรคเพื่อไทยเรื่อยมาในฐานะคนสนิทของแพทองธาร แล้วยังมีชื่อของ ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์ ผัวคนใต้ของแพทองธาร ตามมาด้วย จักรพันธ์ วงศ์คณิต, เกษมศักดิ์ ศิริรักษ์,ภูมิ นวสิทธิโสภณ และปัณณ์ชลิตา ตั้งทวีสิทธิ์ ขอบอกว่าแม้ทุกวันนี้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าแก๊งไอติมทำผิดกฎหมายสถานใด แต่ด้วยความที่คนในแก๊งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างสลับซับซ้อนกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกจับตามองว่าอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจที่ได้รับจากหน่วยงานของรัฐ เพราะมีเส้นสายจากพรรคเพื่อไทย และประกอบกับบางคนมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับแพทองธาร อย่างมาก ผสมกับการถูกระบุโดยกลุ่มนักสืบข่าวสารที่ชี้ให้เห็นว่าแก๊งไอติมเข้าไปรับงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยได้เงินค่าจ้างไปแล้วหลายร้อยล้านบาทนี่จึงทำให้สังคมกำลังช่วยกันสอดส่อง แคะคุ้ยค้นหาว่าแก๊งไอติมใช้ความเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับแพทองธาร เข้าไปหากินกับหน่วยงานของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
...nn มีเรื่องเม้าท์คนที่เพิ่งกลายเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่รายหนึ่ง แต่ขอรับรองว่าเม้าท์ด้วยความจริง เพราะแหล่งข่าวเป็นคนที่เจอปัญหากับตัวเองโดยตรง เรื่องเม้าท์ที่ว่านั้นคืออดีตรัฐมนตรีรายหนึ่งแสนจะงก แสนจะเค็ม และแสนจะเอาเปรียบ เพราะคนงานที่ทำงานให้กับอดีตรัฐมนตรีรายหนึ่งบอกว่า กว่าเขาผู้นั้นจะจ่ายเงินเดือนให้คนงาน ก็ผัดผ่อนเลื่อนเวลาแล้ว เลื่อนเวลาอีก บางทีก็จ่ายเงินเดือนแบบชนิดที่ว่ารอไปจนถึงเกือบปลายเดือน จนคนงานบอกว่าหากยังมีนิสัยยื้อการจ่ายเงินเดือนต่อไป จนไปร้องเรียนกรมแรงงาน เพื่อให้เอาผิดฐานจงใจไม่จ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง ขอบอกนิดหนึ่งว่าอดีตรัฐมนตรีรายที่ว่านั้นรวยโคตรรวย มีที่ดินมรดกมากมายมหาศาลชนิดหัวถนนยันปลายถนน เป็นที่มรดกตกทอด แถมไม่ยอมหย่ากับเมียเก่า แต่ไปอยู่กับเมียใหม่ สร้างบ้านช่องใหม่ใหญ่โตดุจคฤหาสน์ แล้วยังเคยตกเป็นข่าวสร้อยเพชรที่เป็นข่าวดังเมื่อ 3-4 เดือนก่อน ที่ข่าวเขาเม้าท์ว่ากระทรวงตั้งอยู่ริมคลองแห่งหนึ่ง บอกแบบนี้เห็นภาพแล้วใช่ไหมว่าเป็นใครแต่เอ๊ะ ใช่คนเดียวกันหรือเปล่าหนอ...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี