หลังจากที่ “มาดามเฟียส” หัวหน้าพรรคการเมืองเสื้อแดงแห่งนครสารขัณฑ์ ถูก “คลิปลับมรณะ” ของ “พ่อมดตาเหล่” แห่งอาณาจักรขอมดำดิน “ถีบตกสวรรค์” จนหมดอนาคตทางการเมืองอย่างฉับพลันฟ้าแลบ ฟ้าผ่า

จากนั้น สิ่งที่ตามมาจนคอการเมืองอ้าปากค้าง นอกจากเรตติ้งของพรรคเสื้อแดง “ตกต่ำ” ระดับ “รูดมหาราช” แล้วสองพรรคที่เป็นศัตรูทางการเมือง ซึ่งเคยถูกพรรคสีแดง “หักดิบ หักหลังและหักด้ามพร้าด้วยเข่า” จนแสบถึงกระดองใจ ได้แก่ พรรคสีส้ม และพรรคสีน้ำเงินได้แตะมือกันทำสัญญา MOA จนการเมืองพลิกผัน 360 องศา

“พลิกผัน” โดยพรรคส้มกลายเป็น “ฝ่ายค้ำ” ส่งเสริมให้พรรคสีน้ำเงิน กลายเป็น “รัฐบาลมิกกี้เมาส์อนุทิน” และพรรคสีแดง กลายเป็น “ฝ่ายค้าน” ที่ทั้งอิจฉาริษยาและโกรธจนควันออกหูไฟพรูออกทางปาก แล้วปฏิบัติการ“จองเวร” กับสองพรรคศัตรูทางการเมืองอย่างถึงพริกถึงขิง

“โดยเฉพาะ พรรคสีน้ำเงิน ถูกพรรคสีแดง ยิงด้วยจรวดMB-21 หลายลำกล้อง เข้าใส่คดีเขากระโดงและคดีฮั้ว สว.อย่างสุดอาฆาต จนพรรคสีแดงได้รับฉายาจากสื่อทั้งหลายว่าเป็นฝ่ายแค้นทางการเมืองที่สุดห้าว”

แต่จะโกรธหรือจะจองเวรดุเดือดเพียงไร? ผลพวงจากการถูกผลักให้เป็นฝ่ายค้านและผลพวงจากคลิปมรณะทำให้พรรคสีแดง “ตกต่ำจนทิ่มทะลุดิน”

“ตกต่ำจนทิ่มทะลุดิน” ครั้งนี้ พรรคสีแดงถึงขั้นบาดเจ็บมีแผลเหวอะหวะ จน “มีเลือดไหลทะลักราวกับท่อประปาแตก” นักเลือกตั้งระดับ “อัศวิน” ต่างหนีออกจากพรรคเป็นจ้าละหวั่น

“แม้นายหญิงเจ้าของพรรคและมาดามเฟียสหัวหน้าพรรคจะออกมาห้ามเลือด ด้วยการประกาศสู้สู้เสียงดัง แต่ดูเหมือนจะห้ามเลือดไม่อยู่”

ดังนั้น พรรคสีแดง จึงได้ตัดสินใจ ประกาศให้วันที่ 7 ตุลาคมจะเป็นวันประกาศรายชื่อของผู้ที่จะเป็นผู้สมัครสส.เขตทั้ง 400 รายของฝ่ายแค้น

กูรูทั้งหลายต่างระบุว่า นอกจากเป็นการ “ห้ามเลือดอย่างฉับพลัน”แล้วยังเป็นการ “วัดใจ” ว่า “นางวันทองสองใจที่เป็นอีแอบยังอาศัยอยู่กับพรรคในวันนี้ กำลังจะตัดสินใจ ทิ้งขุนช้างไปอยู่กับขุนแผนหรือไม่?”

ในวันนี้ ก็จะรู้กันชัด ชัด สาวกคนไหนยังอยู่กับพรรค และยังจะเป็น “ฝ่ายแค้นสู้ตาย?”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม