วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระ และข้อเท็จจริง...nnแม้พระองค์ผู้ทรงเป็น “แม่ของแผ่นดิน” จะเสด็จสวรรคต จากพวกเราไปแต่พระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยจะยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำตลอดไป
...nn พสกนิกรชาวไทยต่างน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยมาตลอด พระราชดำรัสและพระราโชวาทที่พระองค์พระราชทานในโอกาสสำคัญต่างๆ จึงเป็นดั่ง “หลักชัย” ของเหล่าพสกนิกรอย่างแท้จริง
...nn พระราชดำรัสของพระองค์ มีหลายด้าน อาทิ 1. ด้านความจงรักภักดีและการอนุรักษ์ (ป่ารักน้ำ) “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” พระราชดำรัสนี้สะท้อนถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าในการสนับสนุนพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทรงตระหนักถึงความสัมพันธ์ของป่าและน้ำ อันเป็นรากฐานของชีวิตและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิด “ป่ารักน้ำ” ที่ขยายผลไปทั่วประเทศ….2. ด้านการส่งเสริมอาชีพและภูมิปัญญาไทย (ศิลปาชีพ)“...ข้าพเจ้านั้นภูมิใจเสมอมาว่า คนไทยมีสายเลือดของช่างฝีมืออยู่ทุกคน...ขอเพียงแต่ให้เขาได้โอกาสฝึกฝน เขาก็จะแสดงความสามารถออกมาให้เห็นได้...” พระราชดำรัสนี้สะท้อนถึงพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นและศักยภาพของคนไทยทุกคน เป็นจุดเริ่มต้นของ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตราษฎรทั่วประเทศ พร้อมทั้งอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม
...nn 3.ด้านความสามัคคีและความมั่นคงของชาติ “ข้าพเจ้าขอให้คนไทยทุกคน รักกันเหมือนพี่น้อง ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างบ้านเมืองของเราให้มั่นคง เพราะความรักและความสามัคคีเท่านั้น ที่จะทำให้ประเทศชาติอยู่รอดได้”พระราชดำรัสนี้คือถ้อยคำแห่งความรักและความห่วงใยที่มีต่อพสกนิกรทรงเน้นย้ำถึงหัวใจสำคัญของความเป็นไทย นั่นคือ “ความรักและความสามัคคี” อันเป็นรากฐานของความมั่นคงในทุกยุคทุกสมัย....4. ด้านสาธารณสุขและพลานามัย “...ข้าพเจ้าเห็นว่า เรื่องสุขภาพอนามัยนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล...” พระราชดำรัสนี้ทรงชี้ให้เห็นถึงพระเมตตาและความใส่พระราชหฤทัยในสุขภาพของประชาชน เพราะทรงเล็งเห็นว่า “พลเมืองที่แข็งแรงย่อมสร้างชาติที่มั่นคง” พระราชดำรัสนี้นำไปสู่การจัดตั้ง หน่วยแพทย์พระราชทาน และโครงการด้านสาธารณสุขมากมาย เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากและส่งเสริมสุขภาพของประชาชนทุกหมู่เหล่า
...nn 5. ด้านการทำความดีและประโยชน์ส่วนรวม “การบำเพ็ญประโยชน์ที่แท้จริง คือการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของหน้าที่... ทำโดยไม่คิดว่าผลประโยชน์นั้นจะมาสู่ตัวเรา ทำเพื่อประโยชน์ของหน้าที่และเพื่อผู้อื่น...” พระราชดำรัสนี้เป็นแนวทางแห่งคุณธรรมที่ทรงคุณค่า สะท้อนหลักคิดของการทำความดีอย่างบริสุทธิ์ใจ มุ่งเน้นการทำงานเพื่อส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทนส่วนตัว เป็นแรงบันดาลใจให้พสกนิกรน้อมนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน…6.ด้าน “การทำงาน” มีหลายพระราชดำรัสที่ทรงเน้นเรื่อง ความขยัน อดทน ความรับผิดชอบ และการทำงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งสะท้อนถึงแนวพระราชดำริในการพัฒนาคนและประเทศอย่างยั่งยืน
...nn พระราชดำรัสเกี่ยวกับ ความขยันและความพากเพียร “งานทุกอย่างถ้าทำด้วยความตั้งใจจริง ย่อมสำเร็จได้ ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่เพียงใดก็ตาม” พระราชดำรัสนี้ทรงสอนให้เห็นถึงคุณค่าของความตั้งใจและความเพียรในการทำงานว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของงาน แต่ขึ้นอยู่กับ“ใจ” ของผู้ทำ
...nn พระราชดำรัสเรื่อง การทำงานเพื่อส่วนรวม “การทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ยั่งยืนกว่าความสุขจากการทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง” พระราชดำรัสนี้ทรงเน้นถึงคุณค่าของ“การทำงานเพื่อสังคม” ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ
...nn พระราชดำรัสเรื่อง ความอดทนในการทำงาน“คนเราจะทำงานให้สำเร็จต้องมีความอดทน ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค เพราะความอดทนคือคุณสมบัติของคนทำงานที่แท้จริง” พระราชดำรัสนี้ ทรงชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จในการทำงานไม่ใช่เพียงฝีมือ แต่ต้องอาศัย “ใจที่มั่นคง” และ “ความอดทน” ด้วย
...nnพระราชดำรัสเรื่อง คุณค่าของแรงงาน “งานไม่เคยทำร้ายใคร คนที่ทำงานคือคนที่มีคุณค่า เพราะได้สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับตนเองและส่วนรวม” พระราชดำรัสนี้ทรงให้คุณค่ากับแรงงานทุกระดับ เป็นแนวพระราชดำริที่สะท้อนถึงพระเมตตาและการมองเห็นศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน
...nn ทั้งนี้ ดังที่พสกสนิกรชาวไทยต่างรับทราบและตระหนักกันเป็นอย่างดีว่า “สมเด็จพระพันปีหลวง” ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะบุคคลต่างๆ เอาไว้มากมาย “คชสีห์”ขอน้อมนำคำสอนมานำเสนอพอเป็นสังเขป ดังนี้ “...ความเจริญทางด้านวัตถุ ทำให้โลกของเรามีความก้าวหน้าและสะดวกสบายขึ้นอย่างยิ่งจึงต้องนับว่าความเจริญทางวัตถุนี้เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากสำหรับชีวิต แต่ชีวิตของเรายังต้องการความเจริญอย่างอื่นด้วย คือความเจริญด้านจิตใจ ซึ่งสำคัญและจำเป็นไม่น้อยไปกว่าความเจริญทางวัตถุเลย...”
(พระราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรการศึกษาวิชาพยาบาล วันที่ 31 ก.ค. 2510)
...nn “...เวลา 50 ปีนั้นเป็นเวลาที่ยาวนานมากในชั่วชีวิตของแต่ละคน นานพอที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ และคุณงามความดี ได้มากมาย แต่ถ้าหากย้อนนึกไปถึงอายุของชาติไทยซึ่งเป็นชาติที่เก่าแก่ สืบเผ่าพันธุ์มาช้านานนับพันปีด้วยแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าบรรพบุรุษของเราได้สร้างสมสิ่งที่ดีที่งาม ที่เป็นประโยชน์ไว้ให้แก่เราลูกหลาน และแม้แก่โลก สิ่งนี้ก็คือวัฒนธรรมของเรานั่นเอง ทุกคนจึงควรภูมิใจในเผ่าพันธุ์ไทย และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของเรา และสำนึกว่าเป็นหน้าที่โดยตรงที่จะรักษาให้ดำรงอยู่ได้ตลอดไป
...nn คนไทยจักต้องพึ่งพาอาศัยกัน เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีการศึกษามีสติ ปัญญา ความรู้ จะต้องแนะนำผู้ที่มีโอกาสได้ศึกษาน้อยกว่า ให้เข้าใจถึงประโยชน์ส่วนรวมนี้ด้วย.....“(พระราชเสาวนีย์ในวโรกาสเสด็จฯงานฉลอง 50 ปีโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม วันที่ 1 มี.ค. 2511)…“...ปัญญาเปรียบเสมือนแก้วอันมีค่าประจำตัว มนุษย์ที่สมบูรณ์ ปัญญาเกิดได้จากการฟังครูสอน ได้อ่านประกอบแล้วนำมาคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วน ตามคำพระท่านว่าปัญญาย่อมเกิดได้เพราะการฝึกฝน ผู้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว จะทำประโยชน์แก่สังคมได้ก็โดยใช้ปัญญาเพ่งพิจารณาว่าอะไรเป็นประโยชน์และไม่เป็นภัยแก่ตนเองและแก่สังคม..” (พระราโชวาทในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรผดุงครรภ์ วันที่ 15 ต.ค.2513) !!
คชสีห์

‘สภาฯ’ไฟเขียว ‘กฎหมายท้องถิ่น’รวดเดียว 4 ฉบับ หวัง‘สว.’ดันผ่านได้ใช้ทันสภาฯสมัยนี้
ดาวรุ่งไทยเฉียบ!ผงาดแถวหน้าเอเชียนยูธเกมส์
'ปลัด มท.'ย้ำ! ไม่มีงดจัด'วันลอยกระทง' พร้อมกำชับทั่วประเทศ'เทศกาลลอยกระทง 2568 ต้องปลอดภัย'
แฟนไทยปลื้ม! 'จีซู แบล็กพิงก์'โพสต์ภาษาไทย เป็นเกียรติที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตบ้านเกิด'ลิซ่า'
หยุดใช้ทันที!!! อย.เตือนยาดมสมุนไพร 2 ยี่ห้อดัง ล็อตปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ เกินมาตรฐาน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี