แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ข้าพเจ้าอยากจะเล่าถึงเมื่อข้าพเจ้าไปภาคเหนือคราวที่แล้ว ก็ไปจัดตั้งโครงการหมู่บ้าน บ้านเล็กในป่าใหญ่ เพราะได้ไปเห็นว่าชาวไทยภูเขาตามพื้นที่ชายแดนต่างๆ โดยมากมักจะไม่มีที่ทำกินหรือว่าไม่มีบ้านพัก ก็เตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้าก็เลยขออนุญาตจากกรมป่าไม้พื้นที่แต่ละแห่งที่เรียกว่ากลายเป็นไม่ใช่ป่าแล้ว ถูกตัดไปหมดแล้วนี่ ขอมาบ้าง มาจัดตั้งหมู่บ้านโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เช่น ได้ตั้งขึ้นที่ดอยผ้าห่มปก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็รับชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่จะมาอยู่ในบ้านนั้นแล้วเราก็จะสอนทุกอย่าง วิธีดำเนินชีวิตของเขา ให้เขาเป็นสมาชิกศิลปาชีพ แล้วในที่สุดก็ให้เขาเป็นผู้ดูแลป่าไม้ด้วย ให้เป็นหูเป็นตาและการตั้งหมู่บ้านนี้บางครั้งก็โชคดีกลายเป็นหมู่บ้านหมู่บ้านชาวเขากลายเป็นหูเป็นตาในการขัดขวางเส้นทางของการค้ายาเสพติดด้วย คือเขาก็เป็นหูเป็นตาให้... (ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดา พระราชวังดุสิต 11 สิงหาคม 2545) 

...nn ภาพที่สร้างความประทับใจให้พสกนิกรชาวไทยมากที่สุดอีกภาพหนึ่งในงานพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คือ การเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพวงมาลา ที่หน้าพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง โดย พระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เมื่อวันพุธ และในช่วงค่ำ ทั้งสองพระองค์ยังเสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมพระราชพิธีสวดพระอภิธรรม ถวายสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขอย้ำว่าภาพประวัติศาสตร์นี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความแน่นแฟ้นของพระราชไมตรีระหว่างราชอาณาจักรไทยและภูฏานได้อย่างดีที่สุด และต้องกล่าว ณ ที่นี้ว่าพระราชวงศ์แห่งภูฏานทรงเป็นพระราชวงศ์จากต่างประเทศแห่งแรกที่เสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมงานพระบรมศพ

...nn ในยามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย คงเป็นช่วงเวลาที่อนุทินน่าจะมีความสุขมากที่สุด เพราะไม่ต้องตอบคำถามนักข่าวเรื่องแก๊ง scammers และเรื่องเน่าๆ เกี่ยวกับThe Prince Group ของ เฉิน จื้อ รวมถึงเรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับ ยิม เลียก, ก๊ก อัน,พัด สุภาภา รวมถึง เบน สมิธ และยังไม่ต้องตอบคำถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่หากจะว่ากันตามตรงแล้ว ก็ต้องพูดเลยว่าอนุทินเสียคะแนนไปมาก หลังจากพยายามหลบเลี่ยงการตอบปัญหาเรื่องแก๊ง scammers ในกัมพูชา เรื่องการฟอกเงินในไทย และเรื่องที่นักการเมืองระดับรัฐมนตรีไทยบางคนถูกพาดพิงว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊ง scammers

...nn การที่อนุทินตัดบทไม่ตอบคำถามนักข่าวที่ถามเรื่องแก๊ง scammers และเรื่องนักการเมืองบางคนในฝั่งรัฐบาลที่มีข่าวว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊ง scammers มันคือการจงใจไม่ตอบคำถาม และดูเห็นชัดๆ ว่าอนุทินพยายามหนีปัญหา การที่อนุทินบอกว่าเลิกถามคำถามดังกล่าวก็เท่ากับอนุทินจนปัญญา ไม่สามารถตอบคำถามที่นักข่าวรุมถามได้ แต่ที่มากกว่านั้นก็เท่ากับอนุทินไม่สามารถตอบคำถามที่มาจากพรรคประชาชนได้ด้วยขอย้ำว่าเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้อนุทินติดลบทางการเมือง

...nn แต่หากมองอีกมุมก็ต้องเห็น และต้องเข้าใจว่า นี่คือการเอาตัวรอดทางการเมืองของอนุทิน เพราะหากอนุทินตอบทุกคำถาม ก็จะทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่รัฐบาลได้ เพราะอนุทินก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่านักการเมืองในซีกรัฐบาลคนไหนบ้าง (รวมถึงในซีกฝ่ายค้านด้วย) ที่เกี่ยวข้องโยงใยใกล้ชิดคบค้ากับแก๊ง scammers และขบวนการฟอกเงิน เรื่องนี้มันเป็นเหมือนน้ำ (โสโครก) ท่วมปาก เพราะหากอ้าปากพูดก็มีหวังต้องกินน้ำ(โสโครก) เข้าไปโดยทันที

...nn การกล่าวหากันไปมาในวงการการเมืองไทยนับเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการเมืองไทย เพราะว่านักการเมืองของบ้านเรานั้นมีน้อยคนเหลือเกินที่บริสุทธิ์ขาวสะอาด ปราศจากมลทิน ดังนั้น การโต้กันไปสาดกันมา ด้วยคำพูดแบบเล่นลิ้นจึงเกิดขึ้นเป็นประจำ เข้าทำนองไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ แต่ก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่านักการเมืองจำนวนไม่น้อยของบ้านเรานั้นหาคนขาวสะอาด บริสุทธิ์ ยากเย็นเป็นที่สุด คนบางคนเลวทราม โสโครก สุดสกปรกยังกล้าเข้าไปฟอกขาวบนเวทีการเมือง เพราะคนไม่สะอาดเหล่านั้นเชื่อว่าเวลาใช้ข้ออ้างเรื่องชนะการเลือกตั้งได้เข้าไปเป็น สส. แล้ว มันทำให้โจรกลายเป็นคนบริสุทธิ์ได้โดยพลัน แถมยิ่งเมื่อได้อยู่กับนักการเมืองโจรด้วยกัน ก็จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่โจรบางรายสามารถแปรสภาพเป็นรัฐมนตรีไปได้โดยง่ายดาย เมื่อโจรได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว ก็ฟอกตัวเอง ฟอกเงินสกปรกด้วยอำนาจรัฐ เพราะเมื่อมีอำนาจรัฐแล้ว ก็ไม่ต้องยำเกรงกฎหมาย เนื่องจากผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยจำนวนไม่น้อยยอมลดตัวเป็นสมุน ขี้ข้าโจรผู้มีอำนาจรัฐ

...nn การสร้างข่าวลือข่าวลวงข่าวจริงผสมเท็จ หรือข่าวเท็จชนิดที่ปราศจากความจริงในประเทศไทยนั้นทำได้แสนง่าย เพราะแค่มีโทรศัพท์มือถือแบบ smart phone สักเครื่อง และมีโปรแกรมสำหรับ live เพียงแค่นี้ก็สร้างข่าว สร้างเรื่องทั้งจริงทั้งเท็จได้แล้ว ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจที่บ้านเมืองของเราจึงเต็มไปด้วยข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ เพราะบ้านเรามีนักปั่นข่าวลือ นักสร้างข่าวเท็จมากมายเหลือล้น แล้วยังมีคนบางกลุ่มที่พร้อมจะช่วยกระจายข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ โดยกระจายทั้งแบบตั้งใจ เต็มใจ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะฉะนั้น บ้านเมืองของเราจึงมีข่าวเท็จกระจายอยู่เต็มเมือง

...nnส่วนที่ถามว่าแล้วการที่ทนายความบางคนชอบปล่อยข่าวสารพัดชนิด ทั้งปล่อยผ่าน social media และปล่อยผ่านรายการประเภทกึ่งข่าวกึ่งละคร ที่นำเสนอจนเกลื่อนแผ่นดินผ่าน social media แบบนี้ถือว่าข่าวเท็จ ข่าวลวงหรือไม่ ตอบว่าก็ต้องดูว่าใครเป็นคนพูด ต้องดูให้ลึกว่าทนายความคนนั้นพูดจริงหรือพูดเท็จมากกว่ากัน ต้องดูว่าคนปล่อยข่าวมีความสัมพันธ์เชิงบวกหรือลบกับผู้ที่เขาพยายามกล่าวถึง แล้วมีคำถามว่า การที่ใช้ชื่อย่อ ใช้ตัวอักษรย่อ เพื่อกล่าวถึงคนบางคน โดยเฉพาะนักการเมืองว่ามีส่วนพัวพันกับเรื่องสกปรกโสโครกต่างๆ นานา แบบนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่ ย้ำว่าก็ต้องดูก่อนว่าใครพูด ใครให้ข่าว ไปให้ข่าวผ่านสื่อฯ ชนิดใด คนที่ทำรายการประเภทข่าวมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ รับเงินจากใครเพื่อกล่าวหาว่าร้ายใครหรือไม่ แล้วที่มากกว่านั้นคือ หากมั่นอกมั่นใจมากว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหน ทำผิดจริงๆ ทำไมไม่พูดชื่อตรงๆ ทำไมต้องใช้ชื่อย่อ ตัวอักษรย่อ หากเป็นเรื่องจริงก็ฟ้องร้องดำเนินคดีไปเลย แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าบางคนที่ให้ข่าวโดยผ่านการใช้ชื่อย่อ เป็นเพราะว่าข้อมูลยังไม่ชัดเจนเพียงพอ หากพูดไปก็จะถูกฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท ดังนั้น ก็จึงใช้การเขย่าสังคมโดยผ่านการให้ชื่อย่อ ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าเวลาฟังเรื่องแบบนี้ ขอให้ตั้งสติให้ดีก่อน อย่าเพิ่งรีบเชื่อทั้งหมด แล้วก็ยังไม่ต้องปฏิเสธทั้งหมดเช่นกัน เพราะฉะนั้น ฟังหูไว้หูจึงดีที่สุด แต่สำหรับแหล่งข่าวที่เปิดเผยชื่อจริง นามสกุลจริง และหน้าจริงๆ ของผู้ที่กล่าวถึงว่าเป็นผู้มีพฤติกรรมทุจริต แบบนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่ ตอบว่าก็พอจะรับฟังได้ แต่ก็ต้องระวังแผนหลอกนักข่าวเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้ามการเมืองของตนเอง

...nn ปิดท้ายด้วยเรื่องตลกแต่ขำไม่ออกคือน้องจ๋า คนสวยแห่งเมืองระนอง ซึ่งเป็นเมียคนล่าสุดของนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน ที่บอกกับนักข่าวว่า ทำไมนักข่าวใจร้ายกับนายกฯ จัง แล้วบอกว่าจะจำไว้ เกินไปแล้วนะ พร้อมกับยกนิ้วชี้ย้ำๆๆ กับนักข่าว อ้าว! เจ๊จ๋าเจ๊ตกลงว่าเจ๊ขู่นักข่าว หรือเจ๊หยอกล้อกับนักข่าว

...nn เรื่องนี้เป็นบทเรียนของคนเป็นเมียนายกรัฐมนตรีที่ต้องสำเหนียกไว้ด้วย เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามว่าเมียนายกฯ คุกคามข่มขู่นักข่าวใช่หรือไม่ หรือเมียคนสวยของนายกฯ ต้องการคุยเล่นกับนักข่าวหรือทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำเพราะต้องการแสดงให้นักข่าวรู้ว่าอย่าใจร้ายกับนายกฯ เพราะในฐานะเมียนายกฯ ยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้นักข่าวใจร้ายกับนายกฯอ้าว! แล้วเจ๊จ๋าไม่คิดบ้างหรือว่า การกระทำของเจ๊นั้นมันเท่ากับจงใจใช้ฐานะความเป็นเมียนายกฯ คุกคามนักข่าว เจ๊จ๋าต้องรู้ไว้นะจ๊ะว่านักข่าวมีหน้าที่ค้นหาข้อมูลจากปากนายกฯ นักข่าวไม่ใช่พีอาร์ประจำตัวของนายกฯ นะจ๊ะ...nn  

ธรรมกร