วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ข้าพเจ้าเป็นพระราชินีตั้งแต่อายุ 17 ปีเศษข้าพเจ้าได้ถวายรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ออกไปช่วยประชาชน แต่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย ข้าพเจ้าจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ท่ามกลางประชาชน เพราะข้าพเจ้ารู้สึกว่าคนไทยเรานี่น่ารัก เมื่อข้าพเจ้าเห็นคนอายุน้อยกว่ามารอพบข้าพเจ้า ก็เกิดความเอ็นดู ส่วนผู้ที่อายุมากกว่าก็ให้ความเมตตาแก่ข้าพเจ้า ดังนั้นเราจึงอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันเสมอมา และพยายามจะถ่ายทอดน้ำใจไปสู่กันและกัน...(ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 11 สิงหาคม 2547 ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต)
...nn พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหนังสือ ชื่อ การประดิษฐานพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และพระอภิธรรมภาษาบาลี และคำแปลภาษาไทย แก่ประชาชนที่ไปลงนามถวายความอาลัยสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ ขอรับหนังสือได้ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2569 ในวันและเวลาราชการ ณห้องสมุด กรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง ศาลาลูกขุนใน ชั้น 1 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 02-2207200 ต่อ 6404
...nn นักการเมืองไทย โดยเฉพาะ สส. (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) ทุกคนล้วนมีประวัติด้วยกันทั้งนั้น คำพูดนี้มาจากปากของธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อธรรมนัสพูดแบบนี้ ก็ทำให้สังคมไทยตั้งคำถามว่า สส. ไทยทุกคนมีประวัติเลวหรือประวัติดี แต่เท่าที่ฟังคำพูดของธรรมนัสแล้วก็ทำให้เข้าใจตรงกันว่าประวัติเลว หากสส. ไทยทุกคนมีประวัติเลว ก็หมายความว่าสภาผู้แทนราษฎรของไทยเป็นสภาของคนมีประวัติเลว ใช่หรือไม่
...nn มีข้อสังเกตว่า สส. พรรคประชาชน หรือพรรคสีส้มไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับคำพูดของ ธรรมนัส เรื่อง สส. ทุกคนล้วนมีประวัติด้วยกันทั้งนั้น คำถามคือการที่พรรคสีส้มนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ เป็นเพราะว่ายอมรับโดยดุษณี ใช่หรือไม่ หรือว่าพรรคสีส้มมี สส. ที่มีประวัติกันทุกคน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องโต้แย้งให้เรื่องร้อนถึงตัวเอง
...nn มีคำถามอีกว่าพรรคสีส้มเลือกตรวจสอบเฉพาะงบฯ ทหาร เพราะอะไร คอการเมืองตอบเรื่องนี้ว่า เพราะพรรคสีส้มวางตัวเป็นศัตรูกับทหาร เพราะต้องการย้ำว่าทหารไม่มีความจำเป็นต่อประเทศ ดังคำพูดของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่พูดเสมือนว่าไม่จำเป็นต้องมีทหาร โดยตั้งคำถามแบบน่าสมเพชว่า มีทหารไว้ทำไม มีไปก็รบไม่ชนะหรือคำพูดที่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขารบกันแล้ว หรือใช้เรือประมงไปรบแทนเหล่านี้เป็นต้น อ้อ! และมีเสียงโต้ด้วยว่า สาเหตุที่พรรคสีส้มไม่ต้องการให้มีทหารเพราะว่า สส. บางคนของพรรคสีส้มมีคดีหนีทหาร แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ มีผู้โต้ว่า เพราะพรรคสีส้มเห็นว่าทหารเป็นองค์กรที่ถวายการคุ้มกันราชบัลลังก์ ดังนั้นหากไม่มีทหาร ก็ไม่มีหน่วยคุ้มกันราชบัลลังก์ ก็ทำให้เซาะกร่อน บ่อนทำลายราชบัลลังก์ได้สะดวกขึ้น
...nn เมื่อสาธารณชนจับได้ว่า สส.พรรคสีส้มไม่ต้องการให้มีทหาร ดังนั้น ก็จึงเห็นชัดว่าพรรคสีส้มตามจับผิดทหารตลอดเวลาแต่ไม่ตามจับผิดกระทรวงอื่นๆ หนักเท่าจับผิดกระทรวงกลาโหม และกองทัพต่างๆ ของไทย แล้วก็ไม่ตามจับผิดการใช้เงินแบบไม่มีเหตุผลของรัฐสภา โดยเฉพาะเรื่องการผลาญงบฯ ที่อ้างว่าให้ สส.ไปดูงานต่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า สส. พรรคสีส้มเริงร่ากับการใช้งบฯ สภา เพื่อเป็นข้ออ้างว่าใช้สำหรับดูงานในต่างประเทศ
...nn พรรคสีส้มให้ข้อมูลที่ไม่ตรงความจริงเรื่องงบฯ กลาโหมโดยอ้างว่าได้รับมากมาย ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงแล้วกระทรวงกลาโหมไทยได้รับงบฯน้อยกว่ากระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่เคยพิจารณาว่าภารกิจของกระทรวงกลาโหมมีมากน้อยเพียงใด แน่นอนว่าหากพรรคสีส้มมั่นใจว่ามีการทุจริตงบฯ กลาโหม ก็ต้องระบุให้ชัดว่าทุจริตตรงไหน อย่างไร แต่ต้องไม่บอกว่ากองทัพไม่มีความจำเป็น ซึ่งก็ต้องบอกว่าพรรคสีส้มพูดไปตามความอคติเป็นสำคัญ แต่ในความเป็นจริงนั้น เมื่อพิจารณางบฯ กลาโหม หรืองบฯสำหรับความมั่นคงของประเทศ ในกลุ่มประเทศต่างๆ จะพบว่าใช้งบฯ กลาโหมสูงมาก ตัวอย่าง งบฯกลาโหมออสเตรเลีย 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ออสเตรเลียมีประชากรเพียง 27 ล้านคน แล้วหากพิจารณางบฯ กลาโหมของสมาชิกอาเซียน ก็พบว่างบฯ กลาโหมของสิงคโปร์สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.2 เปอร์เซ็นต์ของ GDP แล้วเมื่อดูงบฯ กลาโหมของฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ก็ล้วนแล้วแต่สูงกว่าไทยทั้งสิ้น โดยไทยได้งบฯ กลาโหม 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.2 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ทั้งๆ ที่กองทัพต่างๆ ของไทยมีภารกิจสำคัญคือการป้องกันอธิปไตยของประเทศ ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหารนั้น หลายประเทศทั่วโลกต่างก็ยังเกณฑ์ทหาร แต่ สส. พรรคสีส้มไม่ต้องการให้มีการเกณฑ์ทหารในไทย ถามว่า หากไม่มีทหารแล้ว จะมีใครปกป้องอธิปไตยของไทย ย้ำว่าหาก สส. พรรคประชาชนมั่นใจว่ากองทัพต่างๆ โกงกินงบฯ ประมาณ ก็ระบุให้ชัดว่ากองทัพไหนโกงกิน แต่จงเลิกความคิดว่าประเทศไม่ต้องมีทหาร ได้แล้ว เพราะยิ่งพูดเรื่องนี้ก็ยิ่งเท่ากับแสดงความไม่ฉลาดให้ปรากฏมากขึ้น
...nn คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องตรวจสอบกรณีเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย และตรวจสอบคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา เรื่องกระทำผิดพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ ในกรณีโยกเงินงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง คือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย วงเงินรวม 3.5 หมื่นล้านบาทไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยพิจารณาว่าทำผิดมาตรา 144 และมาตรา 157 หรือไม่แต่การรับเรื่องโดย ป.ป.ช. ทำให้มีคำถามว่าแล้วจุลพันธ์อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ล่าสุด ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลเศรษฐาจะต้องถูกสอบด้วยหรือไม่ นักข่าวถามเรื่องนี้กับจุลพันธ์ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่กังวัลใจ เพราะมั่นใจว่าทำไปตามข้อกฎหมาย และมีคณะทำงานทุกขั้นตอน และได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานของรัฐแล้ว หาก ป.ป.ช. จะตรวจสอบก็ยินดีไปให้ตรวจสอบ
...nn ตอบแบบจุลพันธ์ก็ดีไปอย่างหนึ่ง คืออ้างว่าทำตามกฎหมาย และมีหน่วยงานรัฐให้ความเห็นชอบแล้ว แต่คำถามคือ แล้วที่อ้างว่าทำตามกฎหมายนั้นแล้วทำไมนักการเมืองหลายคนก็ยังถูกจับว่ากระทำทุจริต นั่นเป็นเพราะว่าไม่ทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ใช่หรือไม่ หรือคิดว่าเมื่อเป็นรัฐมนตรีแล้ว จะมีอำนาจชี้นำผู้บังคับใช้กฎหมายได้ ขอย้ำว่าเป็นข้ออ้างปกติของนักการเมืองจำพวกตะแบงที่มักอ้างว่าฉันทำตามกฎหมาย แต่กลับไม่ฟังเสียงคัดค้านท้วงติงจากสาธารณชน...nn
ธรรมกร

'เทพไท'ติงฝ่ายค้าน เกี่ยงซักฟอกรัฐบาลอนุทิน ชี้ 2 พรรคไม่กล้าแตะ 3 ปมร้อน กลัวถูกชิง'ยุบสภา'ตัดหน้า
'เนเน่' เล่าเหตุระทึก 'อภิสิทธิ์' นั่งเคลียร์นิสิตจุฬาฯ ชูป้ายประท้วงสลายชุมนุน 53
สะเทือนขวัญ! คนร้ายใช้มีดไล่แทงคนบนรถไฟในอังกฤษ บาดเจ็บสาหัสนับ10ราย
'คนละครึ่ง'กระตุ้น'ชีวิต'รากหญ้า! 'นักเขียนดัง'เผยแม่ค้ายิ้มระรื่น ดีกว่าเงิน 10,000 บาท
เช้านี้คนกรุงอ่วม! น้ำท่วมขังถนนหลายสายทำจราจรเป็นอัมพาต ชาวเน็ตแห่แชร์สนั่นโซเชียล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี