วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รัฐบาลประธานาธิบดี ซูเบียนโต ปราโบโว แห่งอินโดนีเซีย ส่งกำลังทหารเข้ายึดสวนปาล์มน้ำมันของเอกชนหลายสิบล้านไร่ สร้างความหวั่นวิตกแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในข่ายละเมิดกฎหมายป่าไม้ ผู้ประกอบการบางรายถึงกับประณามว่า “ทำไมรัฐบาลกลายเป็นราชาแห่งโจรไปได้”
แต่หากมองจากความคลุมเครือในเอกสารสิทธิครอบครองพื้นที่ทำสวนปาล์มกว้างใหญ่ไพศาล อาจพูดได้ว่า รัฐบาลริบทรัพย์ที่โจรได้ จากการใช้ที่ดินผิดกฎหมายมาเป็นเวลานาน บริษัทเจ้าของสวนปาล์มหลายรายเหมือนกับนักการเมือง และผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ที่กว้านซื้อที่ดินแปลงใหญ่เป็นร้อยๆ ไร่ มาจากชาวบ้านซึ่งบุกรุกป่าผิดกฎหมาย หรือ กว้านที่ ส.ป.ก. ที่เจ้าของสิทธิ์ทำกินรวบรวมกันขายให้นายทุนซื้อทำสนามกอล์ฟ หรือซื้อที่ธรณีสงฆ์อย่างคลุมเครือทางกฎหมาย เป็นหลายพันไร่ กลายเป็นสนามกอล์ฟและบ้านจัดสรร จนเกิดปัญหาเรื้อรังฉันใด เจ้าของสวนปาล์มในอินโดนีเซียก็มีพื้นที่ปลูกปาล์มหลายร้อยไร่มีความคลุมเครือทางกฎหมายฉันนั้น
เมื่อเหตุการณ์คล้ายกัน ถือโอกาสนี้ นำบทความพิเศษสำนักข่าวรอยเตอร์ส เรื่อง “ความกลัวปกคลุมทั่วอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันเมื่อทหารยึดสวนปาล์ม..” มาแชร์ความเห็นกัน
รอยเตอร์สเปิดฉากที่เมืองซัมพิต ว่า ทหารอินโดนีเซีย ในชุดพรางเดินแถวเข้าสวนปาล์มของเอกชนในเกาะบอร์เนียว เมื่อปลายเดือนมิถุนายน แล้วติดป้ายประกาศว่า “ทรัพย์สินนี้อยู่ภายใต้การควบคุมบริหารจัดการของรัฐบาล”
ปฏิบัติการครั้งนั้นเกิดขึ้นที่สวนปาล์มเมลาตี ฮานจาลิปัน เป็นตัวอย่างหนึ่งที่รัฐบาลใช้ทหารเข้ายึดสวนปาล์มเอกชนได้สร้างความหนาวสะท้านไปทั่วแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก และมีแรงงานในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันกว่า 16 ล้านคน จากพื้นที่ถูกยึด 3.7 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 25 ล้านไร่) และครึ่งหนึ่งของสวนปาล์มที่ยึดได้ถูกโอนไปเป็นของบริษัทอากรีนาส นาสเซนนูซันตารา ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ เป็นบริษัทน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดหากนับจากพื้นที่ได้ยึด
การยึดสวนปาล์มที่อยู่ในข่ายทำผิดกฎหมายป่าไม้ ทำตามคำสั่งประธานาธิบดี ซูเบียนโต ปราโบโว ที่ต้องการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอินโดนีเซีย เป็นเหตุให้พื้นที่ปลูกปาล์ม 5 ล้านเฮกตาร์ (ประมาณ 350 ล้านไร่) อยู่ภายใต้การตรวจสอบของทหาร นั่นหมายความว่า 30% ของปาล์มน้ำมันทั่วประเทศ
พื้นที่ยึดได้ในที่สุดถูกโอนให้บริษัทอากรีนาส ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า อากรีนาส มีเครื่องมือแย่มาก และผู้บริหารไม่มีความรู้ความสามารถไม่มีประสบการณ์
“เราตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่มีคอร์รัปชั่นอีก ไม่มีคดีที่ไม่อาจตรวจสอบได้อีก” ปราโบโว กล่าวต่อคณะรัฐมนตรีวันที่ 20 ตุลาคม 2024 ระหว่างตรวจสอบบัญชีที่พื้นที่ต้องยึด
ปราโบโว ตั้งอดีตผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ เป็นผู้นำการยึดสวนปาล์มตามคำสั่ง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ปราโบโวได้ขยายบทบาททหารในกิจการพลเรือนอย่างกว้างขวาง และได้สร้างความหวาดกลัวว่าอำนาจนิยมในยุคซูฮาร์โตจะหวนคืนมา
นอกจากนั้น เขาแต่งตั้งนายพลนอกราชการ เป็นประธานบอร์ดบริหารอากรีนาสและตั้งกองกำลังเฉพาะกิจทหาร ตำรวจ และอัยการตรวจสอบสวนปาล์ม ที่บุกรุกป่าสงวนตามคำสั่งของประธานาธิบดี
รอยเตอร์สสัมภาษณ์ผู้บริหารสิบกว่าบริษัทและผู้ปลูกปาล์มทั่วประเทศ รวมทั้งสัมภาษณ์ผู้ตรวจสอบอุตสาหกรรมปาล์มพบว่าความกลัวแพร่กระจายทั่วไปเกี่ยวกับอนาคตผู้ประกอบการ
และกลัวว่าผลผลิตตกต่ำลงส่งผลกระทบการขายทั่วโลก
นับเป็นครั้งแรกที่สามบริษัทปลูกปาล์มน้ำมันรายใหญ่กล่าวว่า พวกเขาลดใส่ปุ๋ยปาล์มที่คาดว่าจะถูกยึด ทำให้ผลผลิตลดลงในรอบเก็บเกี่ยวที่จะมาถึง
“ไม่มีบริษัทไหนกล้าทักท้วงหรือต่อต้านการยึดหรือจัดตั้งอากรีนาส” ผู้บริหารคนหนึ่งกล่าวโดยไม่ขอเปิดเผยนาม...“เมื่อรัฐบาลใช้ทหาร ตำรวจ บริษัทเอกชนอย่างเราทำอะไรได้จะประท้วงหรือ คุณคิดว่าเรากล้าไหม” ผู้บริหารคนหนึ่งกล่าว และ เสริมว่า อินโดนีเซียมีเดิมพันสูงมาก กว่าครึ่งหนึ่งของการบริโภคน้ำมันปาล์มทั่วโลกผลิตในอินโดนีเซียและส่งออกมูลค่าปีละกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนการปราบปรามกลุ่มอุตสาหกรรม Gapki คาดการณ์ว่าผลผลิตจะสูงขึ้นเล็กน้อย ปี 2025 ถึง 53.63 ล้านตัน แต่ประธาน แออดี้ มาร์โตโน กล่าวว่า ความไม่แน่นอนอาจทำให้ผลผลิต
ต่ำลง เหมือนต้นปีที่แล้ว
ทีมงานขับรถโฟร์วีลจากเมืองแซมพา ผ่านป่าดงดิบและถนนฝุ่นประมาณ 2 ชั่วโมงไปถึง เทลาตี ฮานจาลิปัน นิคมสวนปาล์มในพื้นที่ 105 เฮกตาร์ (ประมาณ 680 ไร่) ที่เผชิญกับความไม่แน่นอนว่าในอนาคตจะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือไม่ เป็นเหตุให้ผลผลิตตกลงเหลือ 23 ตัน จากปกติ 80-100 ตัน หัวหน้านิคม ซาบารานี่ กล่าว
เขาอธิบายว่าผู้ดูแล และหุ้นส่วนไม่อยากรักษาเก็บพื้นที่ไว้เนื่องจากปัญหาขัดแย้งทางกฎหมาย “ทำไมรัฐกลายเป็นราชาแห่งโจรไปได้?” เขาถาม
ซาบารานี่ ยอมรับว่าพื้นที่ตรงนี้เดิมเป็นป่าดงดิบที่บริษัทดัตช์ตัดไม้ไปขายจนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ทิ้งร้างหลายทศวรรษและเป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง ครั้งหนึ่งนิคมของเขาได้รับสัมปทานจากรัฐบาลท้องถิ่น และเมื่อหมดอายุสัมปทาน รัฐบาลกลางออกกฎหมายใหม่พื้นที่กลายเป็นป่าสงวนที่ต่อสัมปทานใหม่ไม่ได้
กรณี เมลาตี ฮานจาลิปัน จึงเป็นกระจกสะท้อนประสบการณ์ผู้ปลูกปาล์มจากที่ดินบรรพบุรุษเคยทำกินมาก่อน บัดนี้ถูกกล่าวว่า บุกรุกป่าสงวน การยึดสวนปาล์มส่งผลกระทบเกษตรรายย่อยหลายหมื่นราย โดยสมาคมที่เป็นตัวแทนพวกเขากล่าวว่า “เราไม่ต้องการร่วมกับอากรีนาสโดยไม่มีกฎหมายรองรับ” ซาบารานี่ กล่าว “เราไม่ต้องการถูกใช้เป็นเครื่องมือทำงานให้พวกเขาแต่ยังคงผิดกฎหมาย”
ปราโบโว สร้างชื่อเสียงด้วยโครงการจัดหาอาหาร และพลังงานจำเป็นให้พอเพียงภายในห้าปี และอากรีนาส ได้ทดสอบความสำเร็จของเขา โดยการผลิตไบโอดีเซลผลิตจากน้ำมันปาล์ม และควบคุม 30% ของตลาดน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ
กองกำลังเฉพาะกิจจัดตั้งในเดือนมกราคม และควบคุม โดย อากุส ซูโตโม อดีตผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ เป็นมือทำงานให้ปราโบโว และ สนับสนุนอากรีนาส เขาไม่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมน้ำมัน แต่มีเป้าหมายปราบปรามกลุ่มบริษัทปาล์มน้ำมันสงสัยอยู่ในข่ายฟอกเงิน
ถึงเดือนกันยายน ซูโตโม เข้าควบคุม สวนปาล์ม 1.5 ล้านเฮกตาร์ และ กล่าวว่าตั้งเป้าหมายให้ได้ 3 ล้านเฮกตาร์ภายในปี 2025 “งานของผมเคยปิดบังหลบซ่อน แต่บัดนี้ผมได้รับคำสั่งให้ดูแลปาล์มน้ำมัน” เขากล่าวในสภา “นี่เป็นอาณัติ เป็นเกียรติ ถึงแม้ว่าผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลย”
ซูโตโม กล่าวด้วยว่า กองกำลังเฉพาะกิจจับตาที่อุตสาหกรรมชื่อดังบางแห่ง บริษัทย่อยจดทะเบียนในสิงคโปร์เช่น Wilmar, Guthrie, Sinar Mas Group และ Gargill บริษัทเหล่านี้อยู่ในบัญชีจับตาของกรมป่าไม้ฐานละเมิดกฎหมายป่าสงวน
Wilmar รายงานผลผลิตเพิ่มขึ้น 5% ครึ่งแรกของปีถึงแม้เจออุปสรรค “แต่ผลสรุปตลอดทั้งปีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง” เจ้าหน้าที่ของ Wilmar บอกรอยเตอร์ส เขากล่าวว่า Wilmar มีส่วนร่วมกับอากรีนาส สองสามแปลง และสนับสนุนการตรวจสอบสวนปาล์มผิดกฎหมาย
Cargill กล่าวว่า บริษัททราบเรื่องการสอบสวน และมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ SD Guthrie ไม่แสดงความคิดเห็นจากคำถาม แต่กล่าวว่าสวนปาล์มของบริษัทได้รับผลกระทบ 3% ในเดือนสิงหาคม First Resources และ Muslim Mas ไม่ให้ความเห็นจากคำถามรอยเตอร์ส
การยึดสวนปาล์มสะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายที่ดินคลุมเครือ ซับซ้อนมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่ปาล์มน้ำมันบูมในทศวรรษ 1990 ผู้ประกอบการปาล์มน้ำมันบุกร้างถางป่ากันอย่างมโหฬาร ในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และบนพื้นที่เปลี่ยนเจ้าของหลายมือ หลายทอดจนยากจะตามหาผู้บุกรุกป่าคนแรกได้ แม้แต่หลังจากรัฐบาลออกกฎหมายป่าไม้ใหม่ก็ยังมีการบุกรุกป่าตลอดเวลา
ผู้บริหารระดับสูงสามรายกล่าวว่า พื้นที่ปลูกปาล์มของพวกเขาได้รับเอกสารสิทธิถูกต้อง แต่รัฐบาลกล่าวว่า ได้เอกสารสิทธิมาอย่างคลุมเครือ แม้แต่โฉนดที่ดินถาวรที่บริษัทถือครองมานานก็ยังถูกตรวจสอบทำให้นักลงทุนกังวลอย่างมาก
ความกังวลของนักลงทุนอาจเป็นผลฉุดรั้งผลผลิตไปอีกหลายปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตเชื่องช้าลงเนื่องจากต้นปาล์มแก่และการขออนุญาตปลูกใหม่ในพื้นที่ดั้งเดิมก็ยากลำบาก ผลิตผลลดลงอย่างมีนัยส่งผลกระทบ ถึงตลาดการบริโภคน้ำมันทั่วโลก และมันตึงตัวมากขึ้นเมื่ออินโดนีเซียใช้น้ำมันปาล์มเป็นไบโอดีเซลทั้งหมด
รัฐมนตรีกลาโหม ผู้นำหน่วยเฉพาะกิจ กล่าวว่า “อากรีนาสต้องรับประกันว่าผลผลิตไม่ตก” แต่การสัมมนาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในมุมไบ นักวิเคราะห์เตือนว่าผลผลิตลดลงอย่างมีนัยหากยังคงเดินหน้ายึดสวนปาล์มเอกชน
“เราประเมินว่าผลผลิตจากอินโดนีเซียจะสูงขึ้น 0.7 ล้านตันปีหน้า แต่ผมไม่แปลกใจหากการขยายตัวกลายเป็นลดลงในเมื่อการลงทุนลดลง” โธมัส ไมเอลกี ผู้คาดการณ์น้ำมันโลกกล่าว
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมโตราบ มีซาตี สะท้อนความกังวล“การคุกคามโดยยึดเป็นของรัฐทำให้ผลผลิตตกลงทันที”
บริษัท/เจ้าของสวนปาล์มที่ใช้ป่าสงวนและใช้พื้นที่ของรัฐผิดกฎหมาย เป็นปัญหาเรื้อรังยากจะแก้ได้เนื่องจากทุจริตคอร์รัปชั่น และอิทธิพลการเมืองเข้ามาพัวพัน ซึ่งก็คล้ายกับปัญหาที่ดินเขากระโดง และสนามกอล์ฟอัลไพน์ในประเทศไทย แตกต่างกันตรงที่รัฐบาลอินโดนีเซีย ใช้อำนาจเผด็จการผสมประสานกับการบังคับใช้กฎหมาย อินโดนีเซียถึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ระดับหนึ่ง
ส่วนประเทศไทยใช้อิทธิพลการเมืองปนกับหลักกฎหมายในการแก้ปัญหาการฮุบที่ดินของรัฐ ฮุบที่ดินป่าสงวนฯ ตลอดถึงที่ดินธรณีสงฆ์ การใช้อิทธิพลทางการเมืองปนกับบังคับใช้กฎหมายร้อยปีก็แก้ปัญหาฮุบที่รัฐไม่ได้ ตราบใดที่คนไทยเลือกนักการเมืองไม่โปร่งใสมาเป็นฝ่ายบริหาร
สุทิน วรรณบวร

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี