‘พรีเมียร์ลีก’ต้องไปต่อ
พรีเมียร์ลีก เรียกประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาแนวทางกันต่อไปในซีซั่นนี้
ผมเชื่อว่าว่า ยังไม่ใช่บทสรุปทั้งหมด แต่นาทีนี้เฟ้นมา 3 ข้อหนัก ๆ ในการ “ดำเนินการต่อในซีซั่น2019-20” ว่าจะไปในทิศทางใด
1.โมฆะ-ยกเลิก
2.ยุติ-ตัดจบ
3.เตะต่อ-รอสถานการณ์
กอร์ดอน เทย์เลอร์ ประธานบริหารสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) เผยว่าหากมีการตัดสินใจโมฆะเกมพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมสำหรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก อาจจะต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางกฎหมายจากสโมสรที่โดนสั่งให้ตกชั้น ถ้าหากพวกเขาตัดสินใจจบฤดูกาลนี้พร้อมกับยึดตารางคะแนนในปัจจุบัน หรือไม่มีการตกชั้น แล้วนำ 2 ทีมจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพเลื่อนชั้นขึ้นมา และซีซั่นหน้าตกชั้น 5 ทีม
มีข่าวรั่วมาตลอดโน่นนั่นนี่ อันนี้ไม่ใช่ "เฟคนิวส์" แต่เป็น "เทียนนิวส์" อันนี้เป็นที่เลื่องลือในยุทธจักรของสื่อเมืองผู้ดีมาช้านาน.............
ข่าวมันปั่นป่วนสุด ๆ
เริ่มจากปิดซีซั่นไปเลยด้วยการ "โมฆะ" ซึ่งกวักมือให้คนไร้สปิริตเปิดตัวกันอย่างจริงจังมากมาย.....
มากจนเกินพอดี
จากนั้นมีข่าวว่า 19 ทีมยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล
ต่อด้วย เวสต์แฮม-สเปอร์ส ไม่โอเคยกแชมป์ให้ลิเวอร์พูล
หนักสุดคือ คาร์เรน เบรดี้ ผู้บริหารเวสต์แฮม ที่เธอตัดสินใจพลิกลิ้นบอก ลิเวอร์พูล ควรได้แชมป์ หลังจากเคยแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวว่า ควรตัดจบโมฆะไปเลย ก่อนจะโดนถล่มแทบจมธรณี
ทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่เกิดขึ้น และการประชุมครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นการ "หยั่งเสียง" กันอีกครั้ง น่าจะยังไม่มีแบบฟันธงลงมาทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่า โคโรนาไวรัสในอังกฤษ ยังไม่มีสัญญาณที่ดีขึ้นเลย
ไวรัส เป็นผู้กำชะตานี้อยู่
โชคดีตรงนี้ที่เวลานี้ ยังไม่มีบุคลากรเกี่ยวกับสโมสรใดติดเชื้อเพิ่มจาก มิเกล อาร์เตต้า กับ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย
อย่างไรก็ดี ย้ำอีกทีว่า ตัวผมเองยัง"แอบไม่เชื่อ"ว่า บอลอังกฤษ จะกลับมาเตะได้หลัง 3 เมษายนนี้ เพราะมันย้อนแย้งกับนโยบายการรักษาของที่นั่น
เชื่อเหลือเกินว่าในช่วงเวลาที่หยุดไป 2 อาทิตย์กว่านี้ น่าจะไปร่วมกันหาทางออกในซีซั่นนี้กันต่อไป การเรียงลำดับก่อนหลัง และความสำคัญต่อทุกทีมสำคัญมาก
อย่าลืมว่า เดิมพันพรีเมียร์ลีกสูงมาก ๆ ปีละ 150 ล้านปอนด์บวกๆ
อีกทั้งทุกทีมมีหุ้นเมื่อได้อยู่ในลีกสูงสุด ตกชั้นก็ต้องคืนหุ้น เคยเตะกับทีมใหญ่สร้างรายได้ แต่ถ้าตกชั้นก็นะ ดังนั้นมีผลต่อทีม “ขึ้นชั้น-ตกชั้น” ไม่น้อยกว่าตำแหน่งอื่น
หากจะให้พูดเรื่องแชมป์ ไม่เกี่ยวกับว่า ลิเวอร์พูล เอฟซี นำ 25 คะแนน หรือด้วยการที่รอแชมป์มานาน 30 ปี
เหตุผลเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์มาคัดกรอง
เพราะไม่ว่า “ใครจะเป็นทีมนำ” หรือว่า "นำอยู่กี่คะแนน"
เหตุผลในการตัดสินคือ คนที่อยู่อันดับ 1 คือทางเดียว
ต่อให้นำ 1 คะแนนก็คืออันดับ 1
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ กรณีที่แข่งต่อแล้ว เริ่มช้ากว่ากำหนดเดิม(หลัง 3 เมษา) นอกจากจะไม่สามารถแข่งขันได้จบตามกำหนดแล้ว
มีโอกาสที่จะยืดเยื้อออกไปถึงเดือนกันยายนนี้
ตอนนี้มีนักบอล 69 คนหมดสัญญาสิ้นสุดเดือนมิถุนายนนี้
อันนี้ก็ต้องมาหาทางออกกันอีกที น่าเห็นใจคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด การตัดสินใจแต่ละเรื่องเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องรอบคอบทุกภาคส่วน ทั้งการเป็นแชมป์, การตกชั้น และเลื่อนชั้น
สโมสร-นักบอลก็จะไม่ได้รับผลดีอะไรเลย ถ้าหากฟุตบอลซีซั่นนี้มันยืดเยื้อออกไป
เพราะทุกคนไม่เคยเจอกับ โควิด-19
หากถามว่า ทิศทางควรไปทางไหนมากที่สุด ผมเชื่อว่าจะแข่งขันต่อ แม้จะต้องเตะแบบปิดสนามก็ตามที
ว่ากันว่า นับเฉพาะ"เงินในระบบ"ที่สโมสรแต่ละสโมสรในพรีเมียร์ลีก พึงได้รับจาก "แมทช์เดย์"
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มากที่สุด เมื่อเฉลี่ยจากซีซั่นก่อนนัดละ 4 ล้านปอนด์ หรือกว่า 160 ล้านบาท ส่วน บอร์นมัธ ได้เฉียด ๆ 300,000 ปอนด์ต่อเกม หรือ 12 ล้านบาท ได้ค่าเหนื่อย คัลลัม วิลสัน ทั้งเดือนได้เลย
สำคัญสุด ๆ ก็คือ การถ่ายทอดสด ที่ยังค้างคาอยู่นับไปนับมาถึง 92 นัดเลยทีเดียว
เมื่อ ยูฟ่า อุตส่าห์เปิดทางขนาดนี้ เลื่อนยูโร2020 ให้ไปเป็น ยูโร2021 พร้อมกับเงื่อนไข “เตะต่อให้จบ”
ทรงนี้ยังไงก็น่าจะเตะกันต่อ อยู่ที่ว่า เมื่อไร
สุขภาพคือสิ่งสำคัญ ชีวิตคือสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่าสิ่งใด
ชีวิตต้องไป และฟุตบอลก็ต้องไปต่อครับ.................
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี