ซาดิโอ มาเน่ : หัวใจในเกมรุกของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องกักตัว 10 วันพลาดลงเตะกับ แอสตัน วิลล่า คืนวันอาทิตย์นี้
การแข่งขันศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์นี้ มีการปะทะแข้งกันทั้งหมด 6 คู่ โดยที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าที่ออกสตาร์ทชนะมา 3 เกมรวด จะยกออกไปเยือนถิ่นวิลล่า พาร์คของ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ยอดทีมจากย่านมิดแลนด์ที่เพิ่งได้ รอสส์ บาร์คลีย์ เข้ามาเสริมแกร่งแดนกลาง
ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ หัวใจสำคัญในเกมรุกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องออกจากทีมไปกักตัว 10 วัน พลาดการลงเล่นเกมนี้ ซึ่งปีก่อนตัวเขาโชว์ฟอร์มด้วยการ ยิง 1 จ่าย 1 ให้ทีมพลิกชนะ 2-1
ในตำแหน่งของ มาเน่ คาดว่า ดีโอโก้ โชต้า ดาวเตะตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาน่าจะได้ออกสตาร์ททันที ขณะที่การจัดทัพนั้น จะต่างจากชุดที่เพิ่งตกรอบคาราบาว คัพ จากการดวลเป้าพ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล โดยยังไม่มี อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โฌเอล มาติป และคอนสแตนตินอส ซิมิกาส ที่บาดเจ็บส่วน ติอาโก้ อัลคันทาร่า อยู่ในระหว่างกักตัวหลังถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่กัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สันยังไม่ฟิต คาดว่า ฟาบินโญ่ จะคุมแดนกลางร่วมกับ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม และนาบี เกอิต้า ส่วนสามประสานในแนวรุก โมฮาเหม็ดซาลาห์ เล่นกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และอีกคนคือ โชต้า
ความพร้อมของเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่ฟอร์มดีชนะมา 2 เกมมี 6 แต้ม แต่เกมนี้ยังไม่มี เวสลีย์ และบียอร์น เอนเกลส์ที่ยังบาดเจ็บ แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรเพราะตัวหลักรายอื่นๆ นั้นอยู่กับครบ ส่วน รอสส์ บาร์คลีย์ ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ น่าจะยังสำรองไปก่อนเปิดทางให้ คอเนอร์ เฮาริฮาน ได้ประสานงานกับ ดั๊กลาส ลุยซ์และจอห์น แม็คกิน โดยมี มาห์มูด เทร์เซเกต์, โอลลี่ วัตกิ้นส์และแจ็ค กรีลิช เป็นสามประสานในแนวรุก
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม แอสตันวิลล่า (4-3-3) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, แมทธิว แคช. เอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงค์ส, แมตต์ ทาร์เก็ตต์, คอเนอร์ เฮาริฮาน, ดั๊กลาส ลุยซ์, จอห์น แม็คกิน, มาห์มูด เทร์เซเกต์, โอลลี่วัตกิ้นส์ และแจ็ค กรีลิช
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, มฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และดีโอโก้ โชต้า
สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะชนะได้ 4 ครั้ง พร้อมกดไป 13 ประตู ส่วนที่พ่ายครั้งเดียวคือเกม ลีก คัพ เมื่อปีที่แล้ว 5-0 โดยในวันนี้ใช้แข้งเยาวชนลงเล่นทั้งทีม ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ ลิเวอร์พูล เล่นในแอนฟิลด์เอาชนะได้ 2-0 จากการทำประตูของ ซาดิโอมาเน่ และเคอร์ติช โจนส์
ขณะที่คู่เอกอยู่ที่ช่วงเวลา 22.30 น. “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตนายเก่าของ “ผีแดง” จะได้มาบุกถิ่นเดิมอีกด้วย
ความพร้อมของเจ้าถิ่นเพิ่งบุกไปถล่ม ไบร์ทตัน มา 3-0 ในเกมลีก คัพ รอลุ้นอาการบาดเจ็บของสองผู้เล่นตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และบรูโน่ แฟร์นันด์ส น่าจะผ่านความฟิตลงเป็นตัวได้แบบไม่มีปัญหา นอกนั้นเล่นได้หมด โดยแข้งที่ได้พักจากกลางสัปดาห์จะกลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ปอล ป๊อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด และอองโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วน อั๊กเซล ตวนเซเบ้ และฟิล โจนส์ สองแนวรับที่บาดเจ็บพักมานานแล้วแทบจะไร้ประโยชน์ในการทำงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
ทางฝั่ง สเปอร์ส ที่หักด่านสิงห์บลูส์ดวลเป้าลิ่ว 8 ทีมลีกคัพ ความพร้อมยังไม่มี แกเร็ธ เบล แข้งใหม่ที่ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนในรายของ ซน ฮึง มิน ที่บาดเจ็บจากเกมเสมอนิวคาสเซิ่ล 1-1 ต้องลุ้นเช็คความฟิต เกมนี้มีแนวโน้มว่า โชเซ่ มูรินโญ่ อาจจะปรับมาเล่นในระบบหลัง 3 วาง ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ คุมแดนกลางร่วมกับ แฮร์รี่ วิงค์ส และโจวานนี่ โล เซลโซ่ โดยให้ ลูคัส มูร่า และแฮร์รี่ เคน เป็นตัวยืนในเกมรุก
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา, อารอน วาน-บิสซาก้า, เอริค ไบญี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, เนมานย่า มาติช, ปอล ป๊อกบา, เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และอองโตนี่ มาร์กซิยาล
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส : สองแกนหลักของ แมนฯยูไนเต็ด โดนเข็นลงในนัดดวลแข้งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่จะรับมือกับ สเปอร์ส บิ๊กแมทช์วันอาทิตย์นี้ เวลา 22.30 น.
สเปอร์ส (3-5-2) : ฮูโก้ ญอริส, ดาวินซอน ซานเชซ, เอริค ดายเออร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, โจวานนี่โลเซลโซ่, แอร์รี่ วิงค์ส, ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, เซร์คิโอ้ เรกีล่อน, แฮร์รี่ เคน และลูคัส มูร่า
สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุด แมนฯยูไนเต็ด ดูดีกว่าชนะได้ 3 ครั้ง เสมอ 1 และสเปอร์ส ชนะ 1 ครั้ง โดยการเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ของปีนี้ แมนฯยูไนเต็ด บุกเสมอ 1-1
ขณะที่การดวลแข้งอีก 4 คู่มีปรีวิวการดวลแข้งดังต่อไปนี้
18.00 น. เลสเตอร์-เวสต์ แฮม : เจ้าบ้านกำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ เกมนี้ยังไม่มี วีลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ริคาร์โด้ เปเรยร่าที่บาดเจ็บ ส่วนแข้งใหม่อย่าง เซนกิซ อุนแดร์ และเวสลีย์ โฟฟาน่ายังต้องรอไปก่อน คาดว่า นอมปาลิส เมนดี้ จะปักหลักตัดเกมแดนกลาง ปล่อยให้ เดนนิส ปร้าต์ และเจมส์ แมดดิสัน คอยขับเคลื่อนเกมให้กับแนวรุกอย่าง อโยเซ่ เปเรซ, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และเจมี่ วาร์ดี้
“ขุนค้อน” ที่ชนะมา 1 แพ้ 2 เกมนี้ไม่มีแบ๊กขวาอย่าง ไรอัน เฟรเดริคส์ ที่บาดเจ็บ ส่วน อิสซ่า ดิยอป และจอช คัลเลน ติดไวรัสโควิด-19 ต้องกักตัวเช่นเดียวกับตัวกุนซืออย่าง เดวิด มอยส์ ที่เหลือไม่มีปัญหาอะไรลงเล่นได้หมด นำโดยแกนหลักอย่าง เดแคลน ไรซ์, โทมัส ซูเซ็ค, ปาโบล ฟอร์นาร์ลส์, จาร็อด โบเว่น และมิคาอิล อันโตนิโอ
18.00 น. เซาแธมป์ตัน-เบิร์นลี่ย์ : “นักบุญ” เพิ่งเก็บชัยชนะนัดแรกกับการบุกไปเฉือน เบิร์นล่ีย์ มา 1-0 ยังคงไม่มีนาธาน เรดมอนด์ ที่บาดเจ็บ ส่วนกองหลังตัวใหม่อย่าง โมฮาเหม็ดซาลิซู ยังไม่ฟิต นอกนั้นถือว่าลงได้ทั้งหมด จัดทัพชุดเดิมมีโอริโอล โรเมอู คุมจังหวะแดนกลางร่วมกับ เจมส์ วอร์ด พราว์ส ปล่อยให้ มุสซ่า เฌเนโป และสจ๊วต อาร์มสตรอง ขึ้นเกมริมเส้นสนับสนุนคู่หัวหอก เช อดัมส์ และแดนนี่ อิงค์ส
ทางฝั่ง “เดอะ แบ๊กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่ทำพลาดการเก็บ 3 คะแนนแรกของซีซั่นหลังนำ 3-0 ก่อนจะโดนเชลซีไล่ตามตีเสมอ เกมนี้ออกมาเยือนด้วยการไม่มี คีแรน กิ๊บส์ แบ๊กซ้ายที่ยังติดโทษแบน รวมไปถึงหัวหอกอย่าง เคนเน็ธ โซฮอร์ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนบรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยังไม่ฟิต ทำให้เกมนี้ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่แนวรุกอย่าง กราดี้ เนียงกาน่า, มาเตอุสเปเรยร่า และคัลลั่ม โรบินสัน
20.00 น. อาร์เซนอล-เชฟฯยูไนเต็ด : “ปืนใหญ่” ชนะ 2 แพ้ 1 มี 6 แต้ม เกมนี้ยังคงไม่มี คัลลั่ม แชมเบอร์ส, กาเบรียลมาร์ติเนลลี่, ปาโบล มารี และสโคดราน มุสตาฟี่ โดยแข้งที่ได้พักจากเกมลีก คัพ ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ ลิเวอร์พูล จะคืนตัวจริงทั้งหมด แนวรุกนำโดย วิลเลี่ยน, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง
ทีมเยือน “ดาบคู่” ที่ปีนี้ผลงานดร็อปลงไปแบบน่าใจหายแพ้รวด 3 เกม โดนกาหัวว่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่จะตกชั้น เสริมทัพด้วยการคว้า ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกดาวรุ่งจากลิเวอร์พูลมาร่วมทัพ ด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ คาดว่า คริส ไวลเดอร์ กุนซือจะใช้งานทันที ทำให้ เดวิด แม็คโกลดริค และโอลิเวอร์แม็คเบอร์นี่ ต้องแย่งตำแหน่งกัน
20.00 น. วูลฟ์ส์-ฟูแล่ม : “หมาป่า” เพิ่งบุกไปโดน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยำมาเละแบบหมดสภาพ 4-1 เกมนี้ได้กลับมาเล่นในรังของตัวเอง ยังคงไม่มี จอนนี่ อ๊อตโต้ และเฟอร์นานโดมาร์ชาล สองฟูลแบ๊กที่กอดคอพากันบาดเจ็บ ทำให้ รูเบน วีนาเกรจะได้เล่นแทน ส่วน ดาเนี่ยล โพเดนซ์ ไม่ฟิตโอกาสจะตกเป็นของ เปโดร เนโต้ ที่จะลงไปประสานงานกับ อดาม่า ตราโอเร่ และราอูล ฆิเมเนซ ในแนวรุก
ทีมเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่แพ้มา 3 เกมรวดยังคงตั้งหาหาคะแนนแรกในลีกสูงสุด เกมนี้ขาดแบ็กขวาอย่าง เคนนี่ติเต้ ส่วน มาริโอ เลมิน่า และแฮร์ริสัน รีด ต้องเช็คความฟิตถ้าเล่นไม่ได้คู่กลางจะใช้ ฟร้องค์ ซามโบ้ อองกิสซ่า เล่นกับทอม เครนีย์ ขณะที่แนวรุกไว้วางใจ นีสเก้นส์ เกบาโน่ ประสานงานกับจอช โอโนมาห์ และอีวาน คาวาเลยโร่ โดยมี อเล็กซานดาร์มิโตรมิช ปักหอก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี