คณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาศึกษาและติดตามการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้าน “กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนของชนชั้นรากหญ้า ซึ่งกำกับดูแลโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ภาพรวมของโครงการทั้งหมดที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งชุมชนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว โดยเฉพาะกองทุนชุมชนเมืองที่ส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ บริหารจัดการไม่ดีพอจึงไม่เกิดความยั่งยืน แต่พบว่ากองทุนที่ประสบผลสำเร็จ และน่าจะเป็นแบบอย่าง สร้างความยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการได้หยิบยกกองทุนที่มีผลการดำเนินงานประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขึ้นมาพิจารณาศึกษาโดยเชิญผู้จัดการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีผลการดำเนินการเป็นที่น่าสนใจ ดังนี้
กองทุนชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ / สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ (๑.) การวางแผนในการบริหารจัดการสถาบันการเงิน อย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจน รวดเร็ว โปร่งใส ใส่ใจการให้บริการ สมาชิกสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ (๒) มีการพัฒนาด้านการให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย (๓) สร้างสถาบันการเรียนรู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มบุคคล ๒ กลุ่ม คือ ๑.สมาชิกและประชาชนในชุมชนที่ต้องการฝึกอาชีพนำไปสร้างงาน สร้างรายได้ ๒.บุคคลภายนอก(คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านชุมชนเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ นิสิต/นักศึกษาที่มาดูงาน) ในลักษณะการปฏิบัติจริง เป็นรูปธรรม
กองทุนชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ได้รับเงินงบประมาณจากรัฐบาลจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท จากนโยบายกองทุนหมู่บ้านเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเห็นว่ากองทุนมีการบริหารจัดการที่ดีและเป็นระบบ จึงอยากให้ดำเนินการตั้งเป็นสถาบันการเงินชุมชนนำร่องเพื่อเป็นกรณีศึกษา ธนาคารออมสินสนับสนุนและพัฒนาเป็นสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ และเปิดทำการเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙ โดยเริ่มแรกมีธนาคารออมสินสาขาปากเกร็ดเป็นพี่เลี้ยง/ที่ปรึกษา ส่วนสถานที่ทำการได้รับการสนับสนุนโดยบริษัท บุญตรง จำกัด (ตลาดสดพิชัย) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เดิมมีสมาชิกจำนวน ๒๙๘ คน ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน ๒,๘๐๐ กว่าคน โดยก่อนที่จะยกสถานะเป็นสถาบันการเงิน สถาบันคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก โดยสอบถามความต้องการของสมาชิกและตกลงร่วมกันกับกรรมการ และมีการนัดประชุมทุกวันที่ ๒๕ ของเดือน สมาชิกสามารถกู้ได้มากกว่ารายละ ๒๐,๐๐๐ บาท
บริการ
- รับฝากเงิน
- ถอนเงิน
- ปล่อยสินเชื่อเพื่อชุมชน
ประเภทเงินฝาก
- ฝากบัญชีออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๕ ต่อปี
- ฝากบัญชีประจำ ๒ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อปี
- ฝากบัญชีประจำ ๕ ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๖ ต่อปี
โดยได้กำหนดอัตราของการฝากประจำขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่ห้ามเกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อครอบครัว และได้รับดอกเบี้ยรายเดือนทุกเดือน
ประเภทเงินกู้
สินเชื่อเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๑.๒๕ ต่อปี
ประเภทของสมาชิก แบ่งเป็น ๓ ประเภท
๑.สมาชิกสามัญ (คนในชุมชน) มีสิทธิใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลได้ กล่าวคือ ใช้บริการบัญชี ๑-๓ ได้
๒.สมาชิกวิสามัญ ใช้บริการได้เฉพาะบัญชี ๒ กับ ๓
๓.สมาชิกสมทบ ใช้บริการได้เฉพาะบัญชี ๒ กับ ๓
การเก็บคืนเงินกู้
มีบริการรับฝากเงินและเก็บเงินในช่วงเช้าของทุกวัน และกำหนดเงื่อนไขให้สมาชิกทุกคนต้องออมเงินขั้นต่ำวันละ ๕๐ บาทต่อ๑ บัญชี เพื่อสร้างวินัยการออมให้กับสมาชิก
ด้านการจัดสวัสดิการ
- สมาชิกทุกคนต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ๓๐๐ บาทต่อปี
- สถาบันการเงินนำกำไรสุทธิร้อยละ ๑๐ เข้าสมทบกองทุนสวัสดิการ
สิทธิที่สมาชิกได้รับ
นอนโรงพยาบาลจ่าย ๑,๐๐๐ บาทต่อครั้ง คลอดบุตรจ่าย ๑,๐๐๐ บาทต่อครั้ง เสียชีวิตจ่าย ๓๐,๐๐๐ บาทต่อคน โดยสมาชิกต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ๓๐๐ บาทต่อปี และยังมีเงินปันผลจากกองทุน อีกทั้งยังมีโครงการอบรมวิชาชีพ สมาชิกอยากประกอบอาชีพใด ให้รวมกลุ่มกันให้ครบ ๑๐ คน สถาบันจะจัดอบรมให้ ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และติดตามผลด้วยรวมทั้งหาตลาดให้กับสมาชิกด้วย
ด้านการให้บริการสินเชื่อ
๑.สินเชื่อเพื่อการลงทุนค้าขาย (แปลงสินทรัพย์เป็นทุน)
๒.สินเชื่อโครงการบ้านมั่นคง (สัญญาเช่าที่ดินวัด)
๓.สินเชื่อเพื่อการศึกษา (บุคคลค้ำประกัน)
๔.สินเชื่อเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ (เสื้อวินแปลงเป็นทุน)
๕.สินเชื่อสามล้อเครื่องรับจ้าง (ทะเบียนรถแปลงเป็นทุน)
๖.สินเชื่อคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา (คอมพิวเตอร์แปลงเป็นทุน)
สมาชิกจะกู้ได้จำนวนเท่าใดขึ้นอยู่กับการลงทุนในแต่ละวันเช่น ลงทุนหนึ่งหมื่นบาทสามารถกู้ได้หนึ่งหมื่นบาท ลงทุนหนึ่งแสนบาทสามารถกู้ได้หนึ่งแสนบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้จัดการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้
๑.ปัจจุบันสถาบันไม่มีหนี้เสียแต่อย่างใด เนื่องจากสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด หากสมาชิกขาดส่งติดต่อกัน ๓ วัน สถาบันจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปติดตามทันที และสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ จะลงพื้นที่เก็บเงินทุกวันก่อนเวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา
๒.อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเป็นข้อตกลงกันระหว่างสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ กับคนในชุมชน สาเหตุที่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่สูง เนื่องจากสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก อาทิ ค่าน้ำค่าไฟ เงินเดือนเจ้าหน้าที่ค่าอาหารเลี้ยงรับรองคณะที่เข้ามาศึกษาดูงาน สวัสดิการที่สมาชิกได้รับนำไปช่วยเหลือสังคม สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ให้ดอกเบี้ยแก่สมาชิกทุกเดือน สมาชิกมาถอนดอกเบี้ยทุกเดือน
๓.อำเภอปากเกร็ดมีกองทุนทั้งหมดจำนวน ๙ แห่ง แต่ที่เป็นสถาบันการเงินมีจำนวน ๓ แห่ง โดยแบ่งอาณาเขตกันในการบริหารจัดการ แต่ทุกแห่งใช้นโยบายและหลักเกณฑ์ในการบริหารกองทุนเหมือนกัน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหมือนกันทุกแห่ง เนื่องจากกำหนดอัตราร่วมกันทั้งอำเภอ
๔.ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน ๒,๘๐๐ กว่าราย มีเงินทุนหมุนเวียน ๑๕๘ ล้านบาทต่อปี ภายใน ๑๐ ปี ซึ่งเงินหมุนเวียนทั้งหมดเกิดขึ้นจากเงินออม เงินฝาก รวมทั้งดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิก
๕.ปีที่ผ่านมามียอดเงินกู้ประมาณ ๑๐๐ ล้านกว่าบาท เงินกำไรที่ได้หลังจากปันผลให้สมาชิก หลังหักค่าใช้จ่ายอื่นแล้ว สถาบันจะนำไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซื้อบ้านอาคารพาณิชย์ไว้เป็นสมบัติของกองทุน และปล่อยให้คนเช่า
๖.การช่วยเหลือชุมชน สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ จัดทำกิจกรรมเพื่อชุมชนทุกปี เช่น การมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีนโยบายนำกำไรที่ได้จากการเก็บดอกเบี้ยจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท ไปปล่อยสินเชื่อเงินกู้แก่ผู้กู้ที่มีใครหรือสถาบันการเงินใดให้กู้เลย ซึ่งคนเหล่านี้กลับมีวินัยในการส่งคืนดีกว่าคนทั่วไปเสียอีก
๗.ในประเด็นของการสร้างความยั่งยืนต่อเนื่อง สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ มีนโยบายในการสร้างคนแถวสองกล่าวคือ นำบุคคลรุ่นลูกหลานในชุมชนเข้ามาเรียนรู้งานของสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ ตลอดเวลา
๘.คนพิการในอำเภอปากเกร็ดมีเป็นจำนวนมาก แต่มาใช้บริการสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ เป็นจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ของสถาบันการเงินชุมชนบางตลาดพัฒนา ๑
๙.ตัวอย่างที่ดีในเรื่องแปลงสินทรัพย์เป็นทุน อาทิ วินมอเตอร์ไซค์เสื้อวินมีมูลค่า ๖๐,๐๐๐ บาท สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ ให้กู้ได้ครึ่งหนึ่งของราคาเสื้อคือ ๓๐,๐๐๐ บาท โดยให้ประธานวินเป็นผู้ค้ำประกัน และเพื่อไม่ให้ผู้เซ็นค้ำเดือดร้อน ผู้กู้ทุกรายต้องจ่ายเงินสมทบเข้าบัญชีสวัสดิการของวินคนละ ๕๐๐ บาท โดยบัญชีนี้สามารถถอนออกไปใช้จำนวนเท่าใดก็ได้ แต่ต้องมีเงินสำรองไว้ ๕ คน คือ มีเงินคงเหลือในบัญชีขั้นต่ำ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ตลอดเวลา
ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้แสดงความคิดเห็นในประเด็น ดังนี้
๑.สถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี อย่างไรก็ดี หากสมาชิกกู้เงินหนึ่งหมื่นบาท ต้องส่งคืนหนึ่งหมื่นบาท และต้องออมเงินวันละ ๕๐ บาท คือ เดือนละ ๑,๕๐๐ บาท การทำเช่นนี้เท่ากับสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ ปล่อยกู้ให้สมาชิกเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากสมาชิกต้องนำเงินนั้นกลับมาออมอีกและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อาจจะสูงเกินไป
๒.ปัจจัยแห่งความสำเร็จของสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจ ๒ ในปัจจุบันมาจากผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ซื่อสัตย์ ดังนั้นการวางแผนการบริหารจัดการกองทุนให้ยั่งยืนและต่อเนื่องไปจนถึงรุ่นลูกหลานจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญ
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่คณะกรรมาธิการการสังคมเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โทร.๐๒-๘๓๑๙๒๒๕-๖ โทรสาร๐๒-๘๓๑๙๒๒๖
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคม
หรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี