จังหวัดมหาสารคาม เป็นที่รู้จักของภาคีเครือข่ายด้านการรณรงค์ “งานประเพณีปลอดเหล้า” โดยเฉพาะในช่วงปี 2553-2555 ว่า เป็นจังหวัดต้นแบบ “งานประเพณีปลอดเหล้าและการพนัน” ด้วยเงื่อนไขทางนโยบาย และกลไกจังหวัดที่ได้ให้ความสำคัญและทำหน้าที่ติดตาม อันเป็นกลไกที่มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคม (เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดมหาสารคาม) ที่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง
นายชวน ศิรินันทพร ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคยาสูบและดื่มสุราสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2554 ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามพบอัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มอายุ 15-18 ปี มากถึง ร้อยละ 8.73 และร้อยละของการได้พบเห็น/ได้กลิ่น/เห็นก้นบุหรี่ภายในสถานที่ราชการเท่ากับ 18.91 สถานที่บริการสาธารณสุขเท่ากับ 17.21 โรงเรียน/สถานศึกษาระดับต่ำกว่าอุดมศึกษาเท่ากับ 15.78 อาคารของมหาวิทยาลัยเท่ากับ 7.47 ศาสนสถานเท่ากับ 25.27 ร้านอาหาร /ภัตตาคารเท่ากับ 33.44 บริการขนส่งสาธารณะเท่ากับ 38.06 ตลาดสดหรือตลาดนัดเท่ากับ 60.82
ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความรุนแรงของปัญหาเรื่องบุหรี่ที่น่าวิตก แต่ข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่ครอบคลุมและเพียงพอต่อการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและความรุนแรง เพราะมีเพียงข้อมูลปรากฏทางกายภาพที่พบได้โดยทั่วไป ในส่วนที่ลึกลงไปกว่านี้ อาทิ อายุของผู้สูบบุหรี่มีจำนวนลดลง, ร้านค้าที่ยังลักลอบจำหน่ายบุหรี่ให้กับเยาวชนต่ำกว่า 20 ปี, การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะสร้างความรำคาญให้กับประชาชนทั่วไป ยังเป็นสิ่งที่ควรต้องจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
ในปี 2556 จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินโครงการจังหวัดมหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่ จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก โดยได้มีการจัดเวทีชี้แจง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานด้านบุหรี่ผ่าน case study หลายระดับ ได้แก่ โรงเรียนปลอดบุหรี่ สถานศึกษาปลอดบุหรี่ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองมหาสารคาม และมาตรการชุมชนในการจัดการยาสูบ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับแกนนำพื้นที่
นำร่อง 13 พื้นที่ แบ่งออกเป็นอำเภอนำร่อง 1 แห่ง และตำบลนำร่อง อำเภอละ 1 ตำบล และได้ร่วมมือกับองค์กรศาสนา เป็นแกนนำในการประสานเครือข่ายพระสงฆ์ในพื้นที่ ได้เกิดเวทีร่วมกันออกแบบแนวทางการพัฒนาเมืองมหาสารคามปลอดบุหรี่ ด้วยการใช้ SRM เป็นเครื่องมือ โดยมีแกนนำพื้นที่นำร่อง 13 พื้นที่ และภาคี เครือข่ายการทำงานระดับจังหวัดเข้าร่วมกระบวนการ SRM ซึ่งคณะทำงานโครงการสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เป็นหลักในการจัดกระบวนการ
SRM ย่อมาจาก (Strategic Route Map) หรือเรียกกันว่า แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ ซึ่งบุคลากรสายสุขภาพ จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกำหนดทิศทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาสุขภาพประชาชน ทั้งนี้ คณะทำงานได้ใช้กระบวนการ ดังต่อไปนี้ 1) การแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 9-13 คน แยกตามบริบทจริงของตำแหน่งหน้าที่ในการทำงาน หรือความเชี่ยวชาญในแต่ละคน 2) ให้โจทย์การวิเคราะห์บริบท/ สถานการณ์ออกเป็น 4 มุมมอง คือ
กลุ่มที่ 1 วิเคราะห์มุมมองด้านประชาชน กลุ่มที่ 2 วิเคราะห์มุมมองด้านภาคีเครือข่าย กลุ่มที่ 3) วิเคราะห์ด้านกระบวนการการทำงาน กลุ่มที่ 4 วิเคราะห์ด้านคณะทำงานที่เป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนโครงการมหาสารคามเมืองปลอดบุหรี่ 3) การวิเคราะห์ และสรุปจุดมุ่งหมายสู่เป้าประสงค์ต่อการแก้ไขปัญหา 4) การจัดทำตารางแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ 5) ให้ความหมาย-ขอบเขตในการทำงานตามวัตถุประสงค์และตัวชี้วัด 6) สร้างแผนปฏิบัติการ และ 7) การติดตามผล
จากกระบวนการ SRM นี้เอง ทำให้เกิดกลไกการดำเนินงาน ในรูปของคณะทำงานที่มีผู้รับผิดชอบงานหลัก มีแผนดำเนินงานร่วมกันจากกระบวนการ SRM 7 กลไก ได้แก่ 1.กลไกการบริหารจัดการโครงการ 2.กลไกการบังคับใช้กฎหมาย 3.กลไกสนับสนุนการทำงานพื้นที่นำร่อง 13 พื้นที่ 4.กลไกการบำบัดฟื้นฟู 5.กลไกสื่อสารประชาสัมพันธ์ 6.กลไกการจัดการความรู้และการประเมินผล และ 7.กลไกขับเคลื่อนนโยบาย ด้วยกระบวนการ SRM นอกจากจะส่งผลให้เกิดกลไก เกิดแผนงาน ยังนำไปสู่การปรับบทบาทการทำงานของบุคลากรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม
ด้วยการสร้างกระบวนการทางความคิดแบบมีส่วนร่วมกับภาคี เครือข่ายใน 13 พื้นที่ และภาคีเครือข่ายระดับจังหวัด ที่ตระหนักเห็นความสำคัญของงานบุหรี่ร่วมกันและในการก้าวเดินสู่การเป็นเมืองปลอดบุหรี่ คณะทำงานหลักด้วยการ ใช้ SRM เป็นเครื่องมือในการเปิดพื้นที่การทำงานกับเครือข่าย และนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับสนับสนุน ติดตามการทำงานของ 13 พื้นที่ และการทำงานกับภาคีเครือข่ายในระดับจังหวัด นี่เอง จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของจังหวัดมหาสารคามให้เป็นจังหวัดมหาสารคามปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง
ปานมณี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี