อาจารย์อาร์ม ตั้งนิรันดร เป็นแขกรับเชิญประจำคอลัมน์ทางแนวหน้า ของผมมาตลอด วันนี้อาจารย์อาร์มเขียนเรื่อง “จีนกับเศรษฐกิจ QR Code” เอาไว้ใน 101 https ://www.the101.world/thoughts/qr-code-economy/เนื้อหาสาระส่วนใหญ่จะนำไปสู่การทำความเข้าใจว่า จีนในละครหลังข่าวที่เราเคยดู จีนกับความวุ่นวายโกลาหล กับจีนในแง่มุมของการพัฒนาทางระบบการเงินและการให้บริการต่อประชาชนในแง่ประชาชนด้วยกันเองหรือต่อร้านค้านั้น มีความพัฒนาไปมากมายแค่ไหน
อาจารย์อาร์ม ตั้งนิรันดร อดีต Internship ยุวประชาธิปัตย์ จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ปริญญาโทจาก Harvard Law School และ Stanford Law School มีความสนใจด้านกฎหมายจีน กฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและการพัฒนาเศรษฐกิจ ปัจจุบัน เป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้อำนวยการศูนย์ยุทธศาสตร์ไทย-จีน ประจำสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
เรามาติดตามเรื่องราวของจีนกับวัฒนธรรมทางการเงินใหม่ โดย อาจารย์อาร์ม ตั้งนิรันดร กันต่อเลยก็แล้วกันครับ..
……………………
คนจีนในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องถือกระเป๋าสตางค์กันแล้วครับขอแค่มีสมาร์ทโฟนติดตัวสักเครื่องเวลาจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการนอกบ้านก็ให้ร้านค้าสแกน QR Code จากสมาร์ทโฟนเพื่อชำระเงินค่าสินค้าและบริการ
เมื่อปีที่แล้ว ชาวจีนใช้จ่ายเงินด้วยสมาร์ทโฟนคิดเป็นเงิน 38 ล้านล้านหยวน (5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเป็นจำนวนเงินกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศจีนเลยทีเดียว มูลค่าการใช้จ่ายผ่าน Mobile Payment ในจีนสูงกว่าในสหรัฐอเมริกา 50 เท่า โดยเฉลี่ยคนจีนจะสแกน QR Code 10-15 ครั้งต่อวัน อาจกล่าวได้ว่าคนจีนที่มีสมาร์ทโฟน(มีอยู่ราว 550 ล้านคน) คุ้นเคยกับโลกรอบตัวที่เต็มไปด้วย QR Code
ประวัติของ QR Code
QR Code เริ่มใช้ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นโดยเป็นเทคโนโลยี Barcode2 มิติ เป็นภาพจุดดำกระจัดกระจายบนกรอบสี่เหลี่ยมสีขาว QR คือตัวย่อของคำว่า Quick Response เพราะ QR Code จะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าและอ่านข้อมูลได้เร็วกว่า Barcode ปกติถึง 10 เท่า
แต่เดิม QR Code ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นเพื่อเก็บและประมวลข้อมูลภายในคลังสินค้าด้วยการสแกน QR Code ที่ตัวสินค้าต่อมาในช่วงค.ศ. 2000 สมาร์ทโฟนในญี่ปุ่นเริ่มมีฟังก์ชั่นสามารถอ่าน QR Code ได้ธุรกิจในญี่ปุ่นหลายแห่งจึงเริ่มมีการใช้ QR Code เพื่อโฆษณาและให้ข้อมูลสินค้า
ในเมืองจีนยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ Mobile Payment ทั้ง Alipay ของอาลีบาบาและ Wechat Pay ของเครือ Tencent ล้วนนำเทคโนโลยี QR Code มาใช้ โดยคนจีนเมื่อเปิดบัญชี Alipay หรือ Wechat Pay (ผูกเข้ากับบัญชีธนาคาร) ก็จะได้ QR Code ของตัวเอง
เมื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าตามร้านค้าก็เพียงแต่เปิด QR Code ในมือถือของตนให้เจ้าหน้าที่แคชเชียร์สแกน ก็จะสามารถชำระเงินได้ทันที
ส่วนถ้าเป็นร้านค้าแผงลอยเล็กๆ ข้างทาง ที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องสแกน QR Code ตัวเจ้าของร้านก็จะยื่น QR Code ของบัญชี Alipay หรือ Wechat Pay ของตนให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าหยิบมือถือขึ้นมาสแกน QR Code ดังกล่าวก็สามารถสั่งจ่ายเงินเข้าบัญชีของเจ้าของร้านได้ทันที
เมื่อ QR Code สร้างวัฒนธรรมใหม่
ลองดูตัวอย่างที่น่าสนใจเหล่านี้ดูครับ
ร้านอาหารให้พนักงานแขวนป้าย QR Code ของแต่ละคน ลูกค้าสามารถสแกน QR Code ของพนักงานเพื่อให้ทิปได้
เจ้าสาวแขวนป้าย QR Code ของตนเพื่อให้แขกที่มาร่วมงานสแกนและให้เงินเป็นของขวัญแก่เธอโดยตรง (สุดท้ายเลยทะเลาะกับแม่ยายที่คาดหวังว่าจะเป็นผู้รับซองของขวัญในงานแต่งงาน)
ขอทานพิการในจีนแขวนป้าย QR Code ผู้ที่ต้องการให้เงินช่วยเหลือเขาสามารถสแกน QR Code จ่ายเงินได้ทันที
QR Code ยังช่วยให้เกิดธุรกิจใหม่หลากหลายรูปแบบในจีน เช่น ธุรกิจเช่าจักรยานเมื่อสแกน QR Code ที่ติดอยู่ที่จักรยานและชำระเงินก็จะได้รหัสเพื่อปลดล็อกจักรยานคันนั้นโดยอัตโนมัติ
แม้แต่การแจกแต๊ะเอียในช่วงตรุษจีน ปัจจุบันคนจีนก็ใช้วิธีสแกน QR Code ส่งเป็นแต๊ะเอียอิเล็กทรอนิกส์แทน
ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีการส่งแต๊ะเอียอิเล็กทรอนิกส์รวม 46,000 ล้านซองพอใกล้ๆ ตรุษจีนชาวจีนจะแชร์ QR Code ของตนในโซเชียลมีเดีย พร้อมลุ้นว่าปีนี้จะได้แต๊ะเอียอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ใหญ่ใจดีกี่ซอง
เป็นคำถามที่น่าคิดนะครับว่า QR Code ทำให้คนจีนสมัยใหม่มีความเข้าใจคุณค่าของ “เงิน” และมีพฤติกรรมการใช้เงินแตกต่างจากเดิมหรือไม่? หลายคนมองว่าคนจีนยุคใหม่จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะการจ่ายเงินสุดแสนจะง่ายแค่ปลายนิ้ว จะจ่ายเงินจำนวนสูงๆ ก็คลิกเดียวจบ ไม่ต้องมานั่งนับธนบัตร (พร้อมพยายามข่มใจระงับกิเลส) เช่นในอดีต
สำหรับคนจีนสมัยใหม่ เงินไม่ได้มีไว้เพียงจับจ่ายใช้สอย แต่ยังมีไว้ใช้สร้างสัมพันธ์กับคนรอบตัวด้วย ใครเคยให้ความช่วยเหลือหรือทำอะไรถูกใจ ก็สามารถตอบแทนหรือตบรางวัลได้ทันที
หลายคนยังตั้งข้อสังเกตว่าคนจีนสมัยใหม่สามารถแชร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในกลุ่มเพื่อนด้วยกันได้ง่ายขึ้น ไม่มีแล้วที่จะมีพ่อบุญทุ่มเลี้ยงเขาไปทั่ว เพราะการโอนเงิน(และทวงเงิน) สะดวกรวดเร็วเพียงแค่ยื่น QR Code ของตนให้อีกฝ่ายสแกนเพื่อส่งเงินให้ก็จบ
เมื่อไม่ได้ใช้จ่ายด้วยเงินสด ทำให้สามารถตรวจสอบบัญชีของตนเองได้ว่า ใช้เงินไปเมื่อไร อย่างไรบ้าง ส่วนในระดับร้านค้าหรือธุรกิจ (รวมทั้งตัว Alipay และWechat Pay เอง) ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก Big Data ประมวลข้อมูลผู้บริโภคมหาศาลและทำการวิเคราะห์ว่าผู้บริโภคกลุ่มใดชอบสินค้าหรือบริการแบบใดมีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยอย่างไร
QR Code และ New Retail ในจีน
ในจีนนักธุรกิจใหญ่ๆหลายคนมักพูดถึงแนวคิด “New Retail” โดยมองว่าการค้าปลีกยุคใหม่จะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างโลกออนไลน์และร้านค้าออฟไลน์อย่างสมบูรณ์
E-Commerce ในโลกออนไลน์ไม่สามารถแทนที่ร้านค้าออฟไลน์ได้ เพราะคนยังต้องการเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า ต้องการดูสินค้าจริง ต้องการสัมผัสและทดลองสินค้า แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ชอบความสะดวกสบายของการสั่งซื้อสินค้าในโลกออนไลน์ ถ้าการสั่งซื้อทำได้ง่าย จ่ายเงินสะดวกและจัดส่งรวดเร็ว
นอกจากการใช้ QR Code ในการรับชำระเงินแล้วธุรกิจต่างๆ ในจีนยังใช้ QR Code เพื่อเชื่อมร้านค้าเข้ากับหน้าเว็บ ดังนั้นตามร้านค้าต่างๆ จะมี QR Code ให้สแกนเพื่อให้ add ติดตามร้านค้าใน Wechat หรืออาจให้สแกน QR Code เพื่อนำสู่หน้าเว็บสั่งสินค้าออนไลน์ ลูกค้าอาจมาดูสินค้าตัวจริงที่ร้านแต่สามารถเดินออกจากร้านตัวเปล่าไม่ต้องแบกของพะรุงพะรัง แล้วค่อยกดสั่งออนไลน์ให้ไปส่งถึงบ้าน
อนาคตของ QR Code ในประเทศอื่นๆ
QR Code เป็นที่นิยมอย่างสูงและมีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนจีนตั้งแต่เช้าจรดค่ำดังที่กล่าวมาเช่นเดียวกัน QR Code ก็ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แม้อาจไม่ถึงกับในระดับเดียวกับจีน
แต่ QR Code ไม่เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาหรือในยุโรปเพราะคนที่นั่นยังนิยมใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตผู้บริโภคจำนวนมากมีบัตรเครดิต แตกต่างจากในจีนและในหลายประเทศในเอเชียซึ่งมีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่มีบัตรเครดิต นอกจากนั้น App ที่เป็นที่นิยมของสหรัฐอเมริกา เช่น Facebook Whatsapp หรือระบบการจ่ายเงินของ Apple Pay ก็ไม่ได้เชื่อมโยงกับ QR Code ดังเช่นตัว AliPay หรือ Wechat ของจีน
มีข่าวว่า EMVCo ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มผู้ให้บริการระบบชำระเงินยักษ์ใหญ่ของโลกประกอบด้วย MasterCard, Visa Inc. และ China Union Pay Co.ได้ร่วมกันวางมาตรฐานสากลในการชำระเงินด้วย QR Code สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะส่งผลให้มีการส่งเสริมระบบการชำระเงินด้วย QR Code ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นในประเทศต่างๆ
โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวันตอนนี้วงการฟินเทคของไทยก็กำลังพัฒนาและอาจก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วเมื่อถึงจุดหนึ่ง
ไม่แน่ไทยเองก็อาจกลายเป็นเศรษฐกิจ QR Code ในอนาคตอันใกล้
สำหรับประเทศไทยเราไม่ได้ล้าหลังเลยในเรื่องนี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่จุดนั้น เราเริ่มแล้วด้วยการวางระบบทางการเงินที่มืออาชีพโดยแบงก์ชาติ QR Code กำลังมาถึงในเวลาอันไม่ไกลนักครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี