บรรดาสาวกพรรคเพื่อแม้วดูเหมือนจะกระหายหวังกลับสู่สภาพการเมืองแบบเดิมๆ เต็มแก่ด้วยการดาหน้าออกมาเคลื่อนไหวใช้ข้ออ้างสารพัดเร่งให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วที่สุด ทั้งๆ ที่ถึงอย่างไรการเลือกตั้งก็จะต้องมีขึ้นแน่ๆ ไม่เกินปลายปีหน้าตามกรอบของรัฐธรรมนูญหลังจากที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆ แล้วเสร็จ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง หนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อแม้ว พยายามอ้างว่า ความไม่แน่นอนจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่จะทำให้นักลงทุนทั้งหลายไม่กล้าลงทุน อีกทั้งการเลือกตั้งจะนำไปสู่การสร้างความปรองดอง เช่นเดียวกับที่ นายนพดล ปัทมะ ทนายหน้าหอของนายใหญ่ระบอบแม้ว ให้ความเห็นทำนองว่า หากมีการเลือกตั้งจะเป็นการปลดล็อกความแตกแยกในชาติ
แต่ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย(สปท.) กลับแสดงความเป็นห่วงที่มีการนำการเลือกตั้งและการสร้างความปรองดองมาเป็นตัวประกัน โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างว่าถ้าไม่มีการปรองดองก็อาจไม่มีเลือกตั้ง ขณะที่บางพรรคการเมืองอ้างว่าการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการปรองดอง ซึ่งตรรกะทั้งสองแบบกลายเป็นแค่กลเกมการเมืองเท่านั้น เพราะไม่มีใครประกันได้ว่าเลือกตั้งแล้วจะปรองดองได้จริง ซ้ำร้ายกลุ่มนักการเมืองที่มาพูดเรื่องปรองดองพอมีอำนาจก็จะสร้างเงื่อนไขความแตกแยกใหม่ๆ เกิดขึ้นหลังชนะเลือกตั้ง ดังนั้นคสช.ควรเร่งเดินหน้าสร้างความปรองดองและการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งให้เห็นเป็นรูปธรรมเพราะถือเป็นพันธกิจที่คสช.สัญญาไว้กับประชาชน
พรรคเพื่อแม้วออกมาเรียกร้องเร่งให้มีการเลือกตั้งเพื่อสร้างความปรองดอง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วต้นเหตุของวิกฤติความแตกแยกในชาติลึกซึ้งอย่างไม่เคยมีมาก่อนและเหตุการณ์ความรุนแรงซึ่งสร้างความบอบช้ำให้ชาติบ้านเมืองอย่างหนักตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ล้วนเกิดจากระบอบแม้วอันประกอบด้วยแก้ว 3 ประการ เพื่อเป็นเครื่องมือยึดครองประเทศอันได้แก่ พรรคบริษัทตระกูลชิน ซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม พลังมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง และกองกำลังใต้ดินติดอาวุธโดยมีแนวคิดที่เป็นภัยต่อสถาบันหลักของประเทศ
พรรคเพื่อแม้วซึ่งมีสถานะไม่ต่างจากบริษัทการเมืองจำกัดที่อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับเจ้าของเพียงคนเดียว โดยบรรดาสส.มีบทบาทเป็นแค่พนักงานบริษัทที่คอยรับคำสั่งจากเจ้าของแทนที่จะทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของราษฎร พรรคเพื่อแม้วยังเป็นพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมมาตั้งแต่ต้น โดยใช้ผลประโยชน์ทุกรูปแบบกวาดต้อนซื้อสส.กลุ่มต่างๆ เพื่อให้เป็นพรรคใหญ่ ขณะเดียวกันก็ซื้อเสียงเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ต่างจากการซื้อประชาธิปไตย ซื้ออำนาจรัฐ ซื้อประเทศ จากนั้นใช้อำนาจเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมทำสั่งชั่วร้ายตามใจชอบทั้งทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารและย่ามใจเพื่อถอนทุนบวกกำไรมหาศาล ขณะเดียวกันก็ใช้อำนาจรัฐฉ้อฉลทุกรูปแบบทั้งทางตรงทางอ้อมหวังผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศในระยะยาว
จากความชั่วร้ายของระบอบแม้วทั้งปวงรวมทั้งพฤติการณ์จาบจ้วงเป็นภัยต่อสถาบันเบื้องสูง เป็นต้นเหตุของความแตกแยกในชาติทำให้มวลมหาประชาชนที่เห็นธาตุแท้สัญญาณอันตรายของระบอบธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมออกมาแสดงพลังขับไล่โดยฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนหลายล้านคนออกมาแสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คือการออกมาขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ภายใต้การชักใยของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก ผู้เป็นพี่ชาย ที่พยายามหักดิบผลักดัน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าอำพรางเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงหวังลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นายทักษิณ เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกในคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาล
คดีโครงการรับจำนำข้าวภายใต้สโลแกน “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างโครงการภายใต้พรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อแม้วซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติและต้นเหตุของการรัฐประหารถึง 2 ครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ควรจะปฏิรูปตัวเองให้พ้นจากความเป็นพรรคตระกูลชินและพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมก่อนที่จะมาพูดถึงเรื่องการเลือกตั้ง และที่สำคัญตัวแปรซึ่งจะกำหนดอนาคตของชาติบ้านเมืองก็คือประชาชนที่จะต้องตื่นรู้เท่าทันเพราะหากยังขืนเลือกพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าจนได้เสียงมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล นั่นหมายถึงเคราะห์กรรมของประเทศที่กลับไปสู่วังวนของวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายที่จะกลับมาหลอกหลอนก่อวิกฤติให้กับชาติบ้านเมืองอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี