กลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตลอดมาจนสัปดาห์ใหม่ กับวาทกรรมที่กลั่นกรองจากสมองนางปราชญ์ผู้ฉลาดแสนรู้ไปเสียทุกอย่างแม้จะเป็นเพียงการอ่านสคริปต์เท่านั้นก็ตาม โดยเฉพาะประเด็น “อิสระ ... ของธนาคารแห่งประเทศไทย” ... นางผู้ชาญฉลาด/อุ๊งอิ๊ง-แพธารทอง ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยโจมตีใส่ร้าย“ธนาคารแห่งประเทศไทย/แบงก์ชาติอย่างเต็มพิกัด อ้างว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคฟื้นเศรษฐกิจ กดดันรัฐบาลใช้แต่นโยบายการคลัง” เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศชาติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ การที่แบงก์ชาติไม่ยอมลดดอกเบี้ยทำให้เกิดภาระหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น”
“เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญมากๆ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายทางด้านการคลังถูกใช้งานเพียงด้านเดียวมาโดยตลอดและทำให้ประเทศของเรามีหนี้สูงมากขึ้นและสูงเพิ่มมากขึ้นทุกปีจากการตั้งงบประมาณที่ขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและไม่ยอมให้ความร่วมมือ ประเทศของเราจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้เลย”
แน่นอนสิ่งที่นางปราชญ์สำรอกสำรากออกมาไม่ผิดด้วยตรรกะทางเศรษฐศาสตร์
และการออกมา “โชว์สกิลด้านเศรษฐกิจแสดงผลึกวิสัยทัศน์ด้านการเงินการคลัง” ฟาดแรงตีแสกหน้าแบงก์ชาติของ “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย”ซึ่งไม่มีหน้าที่ในการดูแลบริหารนโยบายรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ ดูเหมือนไม่ส่งผลใดๆ ต่อธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งในด้านนโยบายและการบริหารงานบุคคล หากเสียงเห่าหอน กระโชกข่มขู่นี้ไม่ใช่เสียงฉอเลาะจาก “ดีเอ็นเอนักโทษเด็ดขาดชายคดีฉ้อฉลโกงกินประเทศชาติบ้านเมือง-ทักษิณชินวัตร”
บุคคลที่สังคมไทยปฏิเสธไม่ได้มันว่าคือ“นายใหญ่ –เจ้าของพรรคเพื่อไทย” ตัวจริง และนางคนนี้คือบุคคลที่ถูกวางบทบาทให้สืบทอดเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” คนที่สามของตระกูล “ชินวัตร”
“แบงก์ชาติ” คือมาตรฐานการเงินของชาติมาตรฐานของประเทศ ของประชาชน ไม่ตกอยู่ในอาณัติใคร พรรคการเมืองไม่ให้สามารถสอบ
ผลประโยชน์ทางการเงินของชาติเหมือนเมื่อ 15-20ปีที่ผ่านมา จนต้องมีการตราพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทยให้อิสระในการปฏิบัติภารกิจมากขึ้น เหมาะสม-โปร่งใส สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายการเมือง
และนี่คือ “ผลึกวิสัยทัศน์ในระบอบทักษิณ”จึงไม่แปลกที่รัฐบาลเพื่อไทยมองว่าการแทรกแซงครอบงำ เหยียบไว้ใต้อุ้งเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการบริหารประเทศภายใต้ “ตรรกะระบอบทักษิณ”
จึงไม่แปลกที่นักวิชาการบางคนที่เป็นติ่งสัมภเวสีที่นิยามความเป็นแบงก์ชาติว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ และมีภารกิจเพื่อเป็นงานของธนาคารกลาง ทำงานในหน่วยงานรัฐจึงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยผู้กำกับดูแลก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เป็นฝ่ายการเมือง
ที่ผ่านมา รัฐบาลลุงตู่เพียร “สร้าง-รักษา”มาตรฐานประเทศไทย, เสถียรภาพระบบการเงินการคลังของประเทศ จนประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักหนี้ครัวเรือนในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019/โรคโควิด-19
พฤติกรรมการโชว์ “ผลึกวิสัยทัศน์” ชัดเจนว่าเป็นสคริปต์ที่ถูกเขียนให้ “นางปราชญ์” ฆ่าตัวตายเพราะสังคมไทยย่อมวัดคุณค่า, ภูมิปัญญาและศรัทธาของคู่กรณีได้เป็นอย่างดี
ฤๅนี่คือกับดักฟาดกลับนายใหญ่ คือหลุมมรณะที่บางกลุ่มในพรรคเพื่อไทยเขียนเพื่อสกัดกั้น “ศูนย์อำนาจพรรคเพื่อไทย”ตอบโต้การปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนพรรคเพื่อไทยไม่นานมานี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี