สี่เท้ายังรู้พลาด กิ้งกือยังเดินตกท่อ นับประสาอะไรกับพ่อค้าบ้านจัดสรรอย่าง“เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของ“นักโทษเทวดา” ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะ“พลัดตก” จากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี กรณีตั้ง“ทนายถุงขนม-พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
คนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าการตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีรอบสองในคณะรัฐบาล“เศรษฐา 1/1”ครั้งนี้ เป็นใบสั่งของนายใหญ่ที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร” ลำพังนายเศรษฐา ทวีสิน คงไม่ใส่ใจอะไร ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี เท่ไปวันๆ ก็พอ งานการที่เป็นเรื่องเป็นราวไม่เคยทำ ถนัดแต่เรื่อง“โชว์ออฟ”
เพราะที่แท้จริงแล้ว คนทำงานจริง ๆ คือ “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นสายตรงของ“นายใหญ่นายหญิง”แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า
นายเศรษฐา ทวีสิน ไปลั้ลลาอยู่ในยุโรป ที่ฝรั่งเศสวันแรกก็ไม่มีอะไรเป็นโล้เป็นพาย เห็นภาพนายเศรษฐามีผ้าขาวม้าลาย “เพ็ชรราชวัตร”ของจังหวัดเพชรบุรี ผูกคอตอนลงจากเครื่องบินเดินบนพรมแดง ที่ท่าอากาศยาน“ปารีส-ออร์ลี” (Paris-Orly Airport) จากนั้นก็ตามนิสัยถาวรที่เสพติดโลกโซเชียล ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin” ว่า
"ผมเดินทางถึงฝรั่งเศสแล้วครับ เช้านี้อากาศอยู่ที่ 11 องศา เย็น ๆ มีฝนเล็กน้อย ผมหยิบผ้าลายอย่าง ที่ได้มาเมื่อตอนไปประชุม ครม. ที่ จ.เพชรบุรี มาพันคอ ตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน และจะพันคอตลอดการทำภารกิจที่ฝรั่งเศสด้วย เพื่อเป็นการช่วยโปรโมทผ้าให้กับร้านผ้าบ้านชะอาน SME ท้องถิ่นของบ้านเรา ผ้าลายนี้คือ ลาย “เพ็ชรราชวัตร” เป็นลายที่มีมานาน ตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นภูมิปัญญาของคนไทยเราครับ" (วันที่ 16 พฤษภาคม 2567)
จากนั้นบินต่อไปเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ไปดูโรงงานผลิตผ้าของ“Zegna”ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชายระดับไฮเอนด์ และเยี่ยมชมห้องเสื้อ'Versace' แล้วไปเดินโชว์สวมเสื้อลายผ้าขาวม้า เดินกลางเมืองมิลานกับคณะ มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ที่หมดรูปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินตามก้นอยู่ไม่ห่าง นายเศรษฐาพูดถึงเสื้อที่สวมว่า “ดูอินเตอร์ ไม่ได้อายใคร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแผนนำผ้าไทยมาทำเป็นแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ของประเทศไทยเพื่อขายในระดับโลกอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งดูจะมีความสุขที่ได้ออกเดินสายในต่างประเทศโดยใช้เงินภาษีของประชาชน จากที่เคยไปมาแล้ว 17 ครั้งใน 15 ประเทศตลอดช่วงเวลา 8 เดือนที่เป็นนายกฯ แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นเรื่องเป็นราว ได้ตอบผู้สื่อข่าวว่า “ก็พยายามอยู่ แต่เรื่องพวกนี้เราเร่งไม่ได้ อยู่ดี ๆ ของไม่เคยถูกนำมาฉายในเวทีโลก แต่เพิ่งทำออกมาในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะมีความคาดหวังให้ไปได้เร็วไม่ได้ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป”
ที่อิตาลี นอกจากจะเป็นเซลส์แมนขายผ้าขาวม้าและผ้าไทยแบบฝันลมๆ แล้งๆ ที่เป็นเรื่องของอนาคต โดยได้ไปดูโรงงานผลิตผ้าของ“Zegna”ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชายระดับไฮเอนด์ และเยี่ยมชมห้องเสื้อ'Versace' แล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ดูจะเป็นเรื่องเป็นราว แต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่ใช่ เพราะโครงการนี้ยังอยู่ในอากาศ คือโครงการ“ก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง” จังหวัดเลย ที่มีการพบหารือกับผู้บริหารบริษัท Leitner (แล็กเนอร์) ผู้ผลิตกระเช้าไฟฟ้าของอิตาลี
ส่วนกรณีนาย พิชิต ชื่นบาน และเกี่ยวพันมาถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นั้น สมาชิกวุฒิสภา 40 คน ได้ยื่นเรื่องผ่านประธานวุฒิสภาเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของ นายพิชิต ชื่นบาน ซึ่งตามคำร้องของกลุ่ม สว. เห็นว่าทั้งนายเศรษฐา และนายพิชิต มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ(5) คือขาดความซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
และเวลานี้ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของ 40 สว.ที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เสนอไว้เรียบร้อยแล้วตามระบบสารบรรณ ซึ่งจะต้องจับตาดูว่า วันที่ 23 พฤษภาคมอีกสามวันข้างหน้า ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุม และองค์ประชุมจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่อย่างไร และถ้าหากองค์ประชุมรับคำร้อง จะสั่งให้นายเศรษฐา ทวีสิน และนายพิชิต ชื่นบาน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวด้วยหรือไม่นั้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะต้องติดตาม
ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ได้กำหนดไว้ว่า “เมื่อ (ศาลรัฐธรรมนูญ)รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สมาชิกผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย”
หากนายเศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้จะขาดนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังมีนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีลำดับหนึ่งรักษาราชการแทน และถ้าจะว่าไป ถึงรัฐบาลจะขาดนายเศรษฐาไปคนหนึ่ง ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร นอกจากภาพลักษณ์และเครติดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เพราะทุกวันนี้อย่างที่กล่าวในตอนต้น คนทำงานจริงๆ คือ นายภูมิธรรม กับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่เป็นสายตรงของบ้านจันทร์ส่องหล้า
ปัญหาจริงๆ ที่จะเกิดก็คือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับนายพิชิต ชื่นบาน นั่นแหละเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเมื่อความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกันด้วย และประเด็นที่นายเศรษฐามั่นใจเนื่องจากเชื่อว่า ได้มีการสอบถามไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วก็ตาม แต่เป็นคนละมาตรากับที่ 40 สว.ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
มาตรา 170 (4) ที่ 40 สว.ร้อง กำหนดว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลงเมื่อมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และมาตรา 160 (7) ทั้งนี้ มาตรา 160 ระบุว่า ต้องมี“ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง” และมาตรา 160 (7) ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
พิจารณาจากมาตรา 160 (7) แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน และนายพิชิต ชื่นบาน ไม่น่าจะรอด ซึ่งมาตรานี้ระบุว่ารัฐมนตรีต้อง “ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท”
นายพิชิต ชื่นบาน นั้น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะมือกฎหมายของตระกูลชินวัตร ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีมทนายความของ“ทักษิณ ชินวัตร” กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ต่อสู้“คดีที่ดินรัชดา” และเคยตกเป็นข่าวดัง เมื่อศาลมีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล จากกรณีมีข่าวหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฯ ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันเป็นคดีเดียวกับที่ทักษิณถูกศาลฯพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รองลงอาญา ส่วนคุณหญิงพจมานศาลฯสั่งยกฟ้อง
ชัดเจนว่า นายพิชิต ชื่นบาน เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว แต่นายเศรษฐา ทวีสิน ก็ยังดันทุรัง โดยจะรู้หรือไม่รู้หรือเพราะ“นักโทษเทวดา”ที่เป็นนายใหญ่สั่งก็ตาม ได้ตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรี ดังนั้น นายเศรษฐาก็ย่อมต้องเข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 คือ ทั้งไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ถึงวันนั้น นายเศรษฐ ทวีสิน ก็ต้องกลับไปเป็นพ่อค้าบ้านจัดสรรตามเดิม แต่สิ่งที่ได้จากเป็นนายกรัฐมนตรีก็คือ ได้เที่ยวต่างประเทศฟรี ได้เกาะเกี่ยวคอนเนคชั่นกับผู้นำระดับโลก และนักลงทุนต่างชาติในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งยังมีชื่อว่าได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และมีชื่อเซ็นในธนบัตรในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฯลฯ
แค่นี้ก็มากพอแล้ว“นิด”เอ้ย !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี