วิถีทางสู่ความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของชาตินั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ นับตั้งแต่คณะคสช.ได้เข้ามารัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งวิธีการหนึ่งที่รัฐบาลน่าจะนำไปทบทวนและนำไปสู่การปฏิบัติเป็นเรื่องที่เร่งด่วนก็คือการพิจารณาขุดคลองเชื่อม 2 ฝั่งมหาสมุทรระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก
สำหรับเรื่องการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการที่ว่านี้รัฐบาลสามารถนำเอาผลการศึกษาของเดิมที่มีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศได้ศึกษาไว้แล้วนำมาพิจารณาได้โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาอีกเพียงแต่รัฐมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯไปศึกษาผลดีและผลเสียมาให้ครม.ตัดสินใจก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ซึ่งวิธีการที่จะนำไปสู่การปฏิบัติก็คือรัฐบาลน่าจะตั้งบริษัทมหาชนขึ้นมาโดยให้ภาครัฐถือหุ้นร้อยละ 10 ของหุ้นทั้งหมดก็น่าจะพอที่เหลือร้อยละ 90 จะเป็นหุ้นที่นำไปเสนอขายให้เอกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นการระดมทุนในฐานะบริษัทมหาชนขนาดใหญ่โดยอาจจะกำหนดสัญชาติไม่ให้มีใครมีสิทธิเหนือโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทต้องได้รับความเห็นชอบจากมติส่วนใหญ่ของผู้ถือหุ้น
นายโทนี่ ปีเตอร์ รีสตอล ผู้เชี่ยวชาญด้านพาณิชย์นาวีชาวอเมริกันได้เผยถึงผลประโยชน์อย่างมหาศาลที่ไทยจะได้รับอย่างคุ้มค่าหลังการขุดคลองไทยเส้นทาง 9 เอที่มีระยะทาง 125 กม.ว่าเมืองท่าทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรที่จะเกิดขึ้นคือ อำเภอสิเกา จ.ตรัง กับอำเภอระโนด จ.สงขลาจะเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ระดับเดียวกับแหลมฉบังและมาบตาพุดที่ไทยมีอยู่อย่างแน่นอน
โครงการนี้จะสร้างงานให้คนไทยได้ถึง 5 ล้านตำแหน่งงานเมื่อขุดคลองเสร็จแล้ว ไทยจะมีรายได้จากการที่มีเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ผ่านคลองทุกๆ วันปีหนึ่งจะมีรายได้ประมาณวันละ 5,000 ล้านบาท ทั้งจากค่าธรรมเนียมและภาษีเงินได้ในขณะที่การลงทุนต่างๆ จะใช้งบประมาณ 800,000 ล้านบาท ถึง 1 ล้านล้านบาทคาดว่าจะคุ้มทุนภายในเวลา 4 ถึง 5 ปี
ผลที่ไทยจะได้รับหลังจากขุดคลองดังกล่าวนี้เสร็จสมบูรณ์ ก็คือขนาดเศรษฐกิจของไทยจะขยายตัวเป็นประเทศอันดับหนึ่งของอาเซียนในทันทีรายได้ประชาชาติจะได้ถึงปีละ 100 ล้านล้านบาทเป็นอย่างต่ำและจะขยายตัวเป็น 200 ล้านล้านบาทภายใน 3-4 ปีต่อไปไทยจะเป็นประเทศศูนย์กลางทางด้านการเดินเรือของชาติอาเซียนทันทีและยังกลายเป็นประเทศศูนย์กลางการค้าและการลงทุนที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของโลกรองจากจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
ไทยจะเป็นประเทศศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของโลกในอันดับ 1 ใน 5 ของโลกในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้าถ้าขุดคลองเสร็จในปี 2567 ถึงปี 2577 ไทยจะมีรายได้ประชาชาติประมาณปีละ 200 ล้านล้านบาท และจะติดอันดับ 8 ของโลกอย่างแน่นอนรองลงมาจากจีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี บราซิล และฝรั่งเศส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี