การเกิดเป็นคน (ไทย เน้นว่าคนไทยบางกลุ่ม) แต่ดันไม่สามารถเลือกผู้บริหารประเทศที่มีคุณภาพ คุณธรรม คุณวุฒิ และคุณประโยชน์ ไปเป็นผู้บริหารประเทศ หรือเป็นรัฐบาลได้ ก็เท่ากับเลือกคนเข้าไปทำลายล้างประเทศชาติ
การเลือกรัฐบาลที่ดี ต้องเลือกคนที่สามารถนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองเข้าไปเป็นรัฐบาล และต้องเลือกคนที่มีคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่เลือกคนที่ดีแต่หว่านแจกเงินเพื่อซื้อเสียงจากประชาชน แล้วยิ่งดันไปเจอประชาชนที่คุณภาพต่ำไม่ต่างจากรัฐบาล โดยเฉพาะประชาชนที่ดันหลงเชื่อว่าโลกนี้มีของฟรี รัฐบาลสามารถเสกเงินไปหว่านแจกให้ประชาชน แล้วประชาชนก็ดันเข้าใจผิดคิดว่าเงินที่รัฐบาลนำไปหว่านแจกเป็นเงินที่ลอยมาจากก้อนเมฆ แล้วก็ดันเข้าใจอีกว่าเงินที่แจกนั้นเป็นเงินที่ไม่ได้มาจากงบประมาณ เมื่อเข้าใจผิดแบบไร้สติว่าเงินที่หว่านแจกไม่ได้มาจากงบประมาณ ก็เลยเข้าใจผิดแบบโง่เขลาว่า เงินนั้นไม่ได้มาจากภาษีอากร และเป็นเงินที่ประชาชนต้องร่วมกันชดใช้รับผิดชอบในอนาคต
การที่รัฐบาลจะหาคะแนนนิยมการเมืองด้วยการหว่านแจกเงินให้ประชาชน โดยไม่คำนึงว่าเงินที่ถูกใช้หว่านแจกนั้นจะกลายเป็นภาระภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้สินของประเทศชาติ แต่ที่น่าสังเวชที่สุดคือเมื่อนักการเมืองที่เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงนายกรัฐมนตรีจงใจสร้างแรงกดดันต่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยตลอดเวลาว่าไม่ตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ที่น่าสังเวชที่สุดคือหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำรัฐบาล ซึ่งสาธารณชนมองตรงกันว่าเป็นผู้ที่ไม่น่าจะเป็นคนที่มีมันสมองมากมายนัก ดันออกมาบอกว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
อันที่จริงคนไทยที่มีสติ มีปัญญา มีความละอาย ต่างรู้ดีว่าระหว่างหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำรัฐบาลกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ใครคนไหนมีความสามารถ มีสติปัญญา มีมันสมอง และมีความละอาย รู้ผิดรู้ชอบมากกว่ากัน
แต่เป็นเรื่องนี้สมเพชสังคมไทยที่ดันมีหัวหน้าพรรคซึ่งน่าจะมีปัญหาด้านสติปัญญา แล้วยังมีปัญหาเรื่องการแยกผิดแยกถูก จนไม่สามารถรู้ผิดชอบชั่วดีได้ออกมาประกาศว่าแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในมุมตรงกันข้ามนั้น ประชาชนไทยที่มีสมองมองตรงกันว่าอุปสรรคสำคัญของการพัฒนาประเทศคือหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ส่วนผู้ว่าการแบงก์ชาตินั้นเป็นผู้พยายามดึงรั้งไม่ให้เศรษฐกิจไทยไหลลงเหวนรก
รัฐบาลใดก็ตามที่ดีแต่หว่านแจกเงินเพื่อซื้อหาคะแนนนิยมการเมืองให้ตนเอง รัฐบาลเช่นนั้นคือรัฐบาลที่น่ารังเกียจ ถ้าเปรียบเป็นเรือ ก็นับเป็นเรืออัปรีย์หาประโยชน์ใดต่อผู้นั่งอยู่ในลำเรือไม่ได้ แม้แต่น้อย เพราะเรือลำนั้นจะพาให้ผู้คนทั้งหมดบนเรือจมน้ำตายพร้อมๆ กัน
การที่รัฐบาลสามานย์พยายามหาทางปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ เพราะผู้ว่าการแบงก์ชาติไม่ยอมร่วมขบวนการทำลายล้างเศรษฐกิจของประเทศชาติให้พังพินาศภายใต้การชี้นำโดยรัฐบาล นับเป็นรัฐบาลที่เลวทรามต่ำช้าโดยแท้ รัฐบาลที่มุ่งทำลายล้างชาติให้พังทลายจะเน้นเพียงการชี้นิ้วสั่งการในเรื่องผิดๆ เช่น สั่งให้พิมพ์ธนบัตรเพิ่มโดยไม่มีความจำเป็น แต่ต้องการจะนำเงินไปหว่านแจกเพื่อซื้อคะแนนนิยมทางการเมือง หรือสั่งให้ลดหรือเพิ่มอัดราดอกเบี้ยนโยบายตามที่รัฐบาลต้องการ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะพรรคของตน โดยไม่นำพากับความเป็นความตายของประเทศชาติ และประชาชน
อันที่จริงเป็นเรื่องปกตินักที่นักการเมืองเลวๆต้องบริหารประเทศด้วยนโยบายเลวๆ แต่ที่น่าสังเวช และน่าสมเพชยิ่งกว่าคือ การที่ประเทศไทยดันมีประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งมีจำนวนมากเสียด้วยหลงเลือกให้นักการเมืองเลวๆ เข้าไปบริหารประเทศ คนที่เลือกนักการเมืองเลวเข้าไปบริหารประเทศ คือคนที่จงใจฆ่าตัวเองให้ตายด้วยความไม่รู้ว่านั่นคือการฆ่าตัวตาย จึงมีคำกล่าวมายาวนานว่า เรือดีๆ มีไว้ไม่ข้ามขี่ ดันเอาเรืออัปรีย์ ไปขี่ข้าม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี