แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...
nn การลาออกจากตำแหน่งรมว.แรงงาน ของ “พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล” หลังจาก“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้าคสช.ได้ใช้อำนาจ มาตรา 44 สั่งย้ายสลับตำแหน่ง ระหว่างอธิบดีกรมการจัดหางาน กับรองปลัดกระทรวงแรงงาน ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า แท้ที่จริงแล้ว เบื้องหลังที่ทำให้ “พอ.อ.ศิริชัย” ลาออกนั้น เกิดมาจากเหตุผลอะไรกันแน่...
nn เชื่อกันหรือไม่ กับเหตุผลที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ยกมาอ้างว่า อดีตเจ้ากระทรวงจับกังคนนี้ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปประกอบธุรกิจส่วนตัว?...
nn “สื่อไม่ต้องมาถามผมอีกเรื่องกระทรวงแรงงาน ท่านลาไปประกอบธุรกิจของท่าน ทุกคนก็ต้องออกตาม ไม่ต้องมาถามผม เรื่องผู้ช่วยรัฐมนตรี มีคนทำงานและรับผิดชอบอยู่แล้วไม่ต้องกังวล ทุกกระทรวงผมกำกับดูแลหมด”...
nn เหตุผลอย่างนี้ “คชสีห์” ถือว่า มันง่ายเกินไป เพราะถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง หรือหยามกันหนักจริงๆ ก็ไม่น่าจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวทิ้งตำแหน่ง ทิ้งอำนาจไปดื้อๆ...
nn อย่าลืมกันว่าทั้ง “พล.อ.ประยุทธ์” และ “พล.อ.ศิริชัย” ถือเป็นน้องรักและคนใกล้ชิดของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” โดย “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นตท.12 ส่วน “พล.อ.ศิริชัย” เป็นตท.13 เรียกว่า เห็นหน้าเห็นหลัง เดินตามเบียดไหล่ ไล่หลังกันมาติดๆ โดยตำแหน่งในกองทัพ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นผบ.ทบ. ส่วน “พล.อ.ศิริชัย” เคยโดดเด่นในทัพบก เคยเป็นอดีตเสนาธิการทหาร อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แต่สุดท้ายต้องหลุดวงโคจร 5 เสือทบ. ไปเกษียณที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม...
nn “คชสีห์” จำได้แม่นยำว่า เมื่อมานั่งเจ้ากระทรวงจับกัง เคยเสียหน้า คล้ายๆ กับถูกมองข้ามหัวมาแล้วสดๆ ร้อนๆ เมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว จากปัญหาการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการประจำ...
nn เป็นที่รู้กันทั้งกระทรวงแรงงานว่า “พล.อ.ศิริชัย” ผลักดัน “สุเมธ มโหสถ” อดีตอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ให้ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง ท่ามกลางกระแสข่าวลือหนาหูว่า อาจจะมีคนนอกกระทรวงย้ายข้ามห้วยมาเป็นปลัดฯแรงงานแทน ขณะที่ “พล.อ.ศิริชัย” ก็ยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่มีคนนอกย้ายข้ามห้วยแน่นอน ปลัดฯแรงงาน ต้องเป็นคนในเท่านั้น แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่า ตำแหน่งปลัดฯแรงงาน ต้องตกเป็นของ “จรินทร์ จักกะพาก” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น!!...
nn ถาม “คชสีห์” ว่า เจอ “พล.อ.ประยุทธ์” ริบโควตาแบบนี้เสียหน้าหรือไม่ ตอบแทน “พล.อ.ศิริชัย” ได้ว่า เรื่องพรรค์นี้มันยิ่งกว่าเสียหน้าซะอีก แต่ก็ต้องกลืนเลือด พูดอะไรไม่ออกเพราะน้ำท่วมปาก แต่มารอบนี้ ดันหนักกว่าเดิม เพราะรู้กันทั้งกระทรวงว่า “วรานนท์ ปีติวรรณ” เป็นเด็กในคาถา และเพิ่งจะแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมการจัดหางานได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น...
nn หนักไปกว่านั้น ถ้าไม่พอใจกันจริงๆ การโยกย้ายสลับตำแหน่งข้าราชการประจำ สามารถทำได้ด้วยคำสั่งปกติ แต่กลายเป็นว่า “พล.อ.ประยุทธ์” กลับเลือกที่จะใช้อำนาจหัวหน้าคณะคสช.งัดมาตรา 44 มาจัดการแทน ซึ่งเท่ากับว่า ตัวเจ้ากระทรวงไม่ได้รับรู้อะไรด้วย เจอเข้าไปติดๆ กัน 2 ดอก อย่างนี้ ลองพิจารณากันดูว่า ตัว “พล.อ.ศิริชัย”เลือกที่จะทนอยู่หรือลาออกจากตำแหน่งไปเอง!!...
nn เอาล่ะ เมื่อว่ากันถึงเรื่องการถูกข้ามหัวในการทำงาน ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักแล้ว ก็ต้องไปดูกันต่อว่า การบริหารงานในกรมการจัดหางานมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว ทางกระทรวงแรงงาน สมควรที่จะต้องเอาตัวเลขอย่างเป็นทางการออกมากางให้ดูกันเลยว่า จดไปแล้วเท่าไหร่ แต่ “คชสีห์” ขอดูถูกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่ทันแน่นอน ยังไงๆ ก็ต้องยืดเวลาผ่อนผันออกไปอีก!!...
nn ล่าสุด “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาถามรัฐบาลว่า “ผมติดใจว่า ทำไมรัฐบาลไม่ตอบคำถามตรงไปตรงมาว่า การลาออกครั้งนี้เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่าลาออกเพื่อไปทำธุรกิจ สิ่งสำคัญในเรื่องความเห็นไม่ตรงกันมีเพียงเรื่องเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เซ็นคำสั่ง มาตรา 44 โยกย้ายอธิบดีกรมการจัดหางาน โดยที่อดีตรมว.แรงงาน ไม่ได้รับทราบ ซึ่งในเชิงบริหาร การใช้มาตรา 44 ไม่สะท้อนแบบอย่างการมีธรรมาภิบาลและความโปร่งใส หากการโยกย้ายดังกล่าวมีสาเหตุจากการบริหารภายในกรมพบความไม่ชอบมาพากลก็น่าจะมีเหตุผลให้แก่สาธารณะ แต่จนถึงตอนนี้ไม่ชัดเจนว่าเหตุผลคืออะไร...สิ่งที่เป็นห่วงกระทรวงแรงงาน คือการขยายเวลาจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวที่หวังว่าจะทำให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ตนมองว่ายังไม่เรียบร้อย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องจำนวนต่างด้าวที่ต้องขึ้นแรงงาน แต่ยังมีเงื่อนไขในกฎหมายเกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าวที่ปฏิบัติยาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้แก้กฎหมายภายใน 120 วัน ถามว่าวันนี้เขาแก้ไขหรือยัง นี่คือปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลต้องไปดู...”...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี