หลังหลบหนีโทษความผิดไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลในคดีโครงการรับจำนำข้าวและเก็บตัวเงียบมานานหลายเดือน จนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีโทษจำคุกเริ่มเผยโฉมด้วยการเดินฉุยฉายตามห้างหรูกลางมหานครลอนดอนของอังกฤษ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาว่า การที่อดีตนายกฯผู้อื้อฉาวยอมเผยโฉมหรือเป็นเพราะมั่นใจว่าจะไม่ถูกคุมตัวส่งกลับไทยเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลจากการได้สถานะผู้ลี้ภัยโดยทางการอังกฤษ
แต่จนล่าสุดก็ยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจนจากทางการอังกฤษว่าได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วหรือไม่ โดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าจนบัดนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์
แต่มีข้อน่าสังเกตว่าจนบัดนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ถูกส่งตัวกลับไทยเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งๆ ที่ไทยและอังกฤษมีการลงนามในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน
การได้สถานะผู้ลี้ภัยแล้วหรือไม่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงต้องจับตาดูกันต่อไป แต่ที่น่าสนใจก็คือ ความพยายามของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการทำเรื่องขอลี้ภัยในอังกฤษด้วยข้ออ้างว่า ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าวและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร
การตะแบงอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งในคดีโครงการรับจำนำข้าวถูกจับเท็จจากหลายฝ่ายก่อนหน้านี้ ยกตัวอย่าง นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและทีมงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้ความเห็นไว้ว่า คดีโครงการรับจำนำข้าวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญาไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นคดีอาญาที่เกิดขึ้นตามกระบวนการยุติธรรมปกติอันเกิดจากนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งระหว่างที่ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมีหลายฝ่ายทักท้วงตักเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะหัวหน้าหน้ารัฐบาล แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับยืนกรานเดินหน้าโครงการโดยไม่ฟังคำท้วงติงตักเตือนแต่อย่างใดทั้งสิ้น ศาลจึงพิพากษาลงโทษฐานปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและสร้างความเสียหายแก่ประเทศ
อีกทั้งคดีโครงการรับจำนำข้าวมีการฟ้องร้องดำเนินคดีมาตั้งแต่ก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเข้ายึดอำนาจ ซึ่งแม้จะไม่มีการรัฐประหารของคสช. คดีก็ต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติอยู่ดี นอกจากนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ก่อตั้งขี้นตั้งแต่ปี 2540 ไม่ใช่ศาลที่คสช.ตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการเฉพาะ
การอ้างถูกกลั่นแกล้งโดยคสช.ยังขัดแย้งกับข้อเท็จจริงและพฤติกรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างสิ้นเชิง เพราะหลายปีที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งทีมทนาย และเบิกพยานให้ปากคำต่อสู้คดีโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ขั้นตอนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนที่เกิดคสช. และหลังคสช.ยึดอำนาจก็ตั้งทีมทนายมือดีและเบิกพยานจำนวนมากแก้ต่างในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนานนับปี
ที่สำคัญระหว่างการต่อสู้คดีโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศมาตลอดว่าพร้อมที่จะสู้คดีโครงการรับจำนำข้าวจนถึงที่สุดโดยมาให้การต่อศาลจนถึงวันแถลงปิดคดีและยืนยันที่จะไปฟังคำพิพากษาของศาลในวันที่ 25 ส.ค.ปีที่แล้ว โดยยืนยันมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่แล้วก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา 2 วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับหลบหนีออกนอกประเทศผ่านทางชายแดนกัมพูชาโดยไม่กล้าพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมดังที่ประกาศไว้
ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย เป็นอีกผู้หนึ่งที่เคยชี้ว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากการรัฐประหารของคสช.เพื่อขอลี้ภัยในอังกฤษก็ควรจะร้องเรียนตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจใหม่ๆ แต่นี่เวลาผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี จนศาลมีคำพิพากษา
ข้ออ้างของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองยังถือเป็นการบ่อนทำลายภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทยในสายตานานาชาติ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แม้แต่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและเป็นเขยตระกูลชินวัตรเคยประกาศว่าศาลพึ่งได้ในความเที่ยงธรรมปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้อง นายสมชาย ในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
จากเหตุผลทั้งหมดข้างต้นจึงหักล้างข้ออ้างการขอลี้ภัยทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างสิ้นเชิงอย่างไรก็ตามถึงที่สุดแล้วการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นนักโทษหนีคุกจะได้ลี้ภัยหรือไม่เป็นเอกสิทธิ์ของทางการอังกฤษ และจะเป็นการพิสูจน์มาตรฐานความเที่ยงธรรมของประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้ดีต้นแบบของประชาธิปไตย
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี