เหมือนโรงพักภูธรทั่วไปในภาคใต้ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สังกัด บช.ภ.8 ที่มุ่งเน้นการป้องกันปราบปราม การแพร่ระบาดของยาเสพติด และยิ่ง 10 กว่าปีมานี้ที่น้ำกระท่อม หรือสี่คูณร้อย ได้กำเนิดบนแผ่นดินด้ามขวาน แม้พิษภัยจะไม่รุนแรง แต่จัดอยู่ในบัญชียาเสพติด ขณะที่คดีอาชญากรรมอื่นๆ ก็พอมีให้ตำรวจได้ใส่กระสุนปืน งานมวลชนสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับตำรวจฝ่าย ป.
ถึงแม้จะเป็นโรงพักทั่วๆ ไป แต่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ของโรงพักฉวางก็ไม่ธรรมดา พ.ต.ท.บำรงค์สามล รอง ผกก.ป.สภ.ฉวาง หรือ รงค์ นายตำรวจตงฉิน วัย 57 ปี ชาวอำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นที่รู้จักของชาวบ้านในชื่อ สารวัตรผึ้ง จากการเปิดอบรมหลักสูตรการเลี้ยงผึ้ง ให้ชาวบ้านในพื้นที่มีอาชีพสร้างรายได้ นอกเหนือจากการทำสวนยางพาราและผลไม้ต่างๆ ที่ราคาจะไม่ค่อยสู้ดีนัก
พ.ต.ท.บำรงค์ จบนักเรียนพลตำรวจ ตชด.รุ่น 150/2 เริ่มรับราชการปี 2529 เติบโตจากสาย ตชด. ด้วยการเป็นครูแดร์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นปี 2547 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกส่งไปเป็น ผบ.หมวด ที่ จ.ยะลา ก่อนย้ายเข้าภูธรขึ้น สวป.สภ.บ้านโสร่ง สว.กก.สืบสวน ภ.จว.ปัตตานี สวป.สภ.ช้างกลาง รอง ผกก.ป.สภ.พรหมคีรี จนปลายปี 2558 เป็น รอง ผกก.ป.สภ.ฉวาง
“ปี 2538 สอบได้นายร้อยใจอยากเป็นครูต่อ แต่อีกใจอยากถือปืนจับผู้ร้าย ปรึกษาครูอีกคนบอกว่าอย่าเป็นเลยครู เทียบระหว่างครูซี 7 เป็น ผอ.กับ ร.ต.ต. ให้แต่งเครื่องแบบทั้งคู่ไปเดินตลาด เขาไม่ได้มองครูหรอก แต่จะมองตำรวจมากกว่า แต่ผมคิดว่าในอาชีพตำรวจ กว่าจะขึ้นแต่ละขั้นมันต้องแก่งแย่งกัน ทำให้มีการซื้อขายตำแหน่ง แต่สำหรับผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่มีที่ต้องไปเสียเงินกับเรื่องแบบนั้น”
รอง ผกก.ป.ฉวาง เล่าต่อว่าสมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร. มีนโยบายว่าใครมีคุณสมบัติครบจะให้ขึ้น สารวัตร หากย้ายมาอยู่ภูธรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนั้นคิดว่า ไหนๆ ก็อยู่กับเมรุแล้ว ไม่กลัวหรอกจะเป็นผี ต่อมาเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2553 ตอนนั้นอยู่ กก.สืบสวน ภ.จว.ปัตตานี เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะยืนเข้าแถวเคารพธงชาติหน้า สภ.เมืองปัตตานี
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ประมาณ 50 นาย เสียชีวิต 1 นาย และตนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผ่าตัดเอาสะเก็ดออก เลยเข้าเกณฑ์รักษาตัวเกิน 20 วัน ถือว่าบาดเจ็บสาหัส สามารถย้ายกลับภูมิลำเนาได้ ตั้งแต่ปี 2554 จึงรับราชการอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราชพอมาอยู่โรงพักฉวางได้มีคำถามในใจว่า ตำรวจมีอะไรบ้างที่ให้ชาวบ้าน นอกจากไปจับเขาอย่างเดียว?
ตนจึงนำเอาอาชีพเสริมจากที่ทำจนประสบความสำเร็จ คือ การเลี้ยงผึ้ง แนะนำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงการเก็บน้ำผึ้ง โดยได้รับความร่วมมือจาก ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เปิดศูนย์อบรมให้ความรู้ ตนจะเป็นคนอบรมเองทั้งหมด เพื่อสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง เราทำกินเองแทนที่จะไปซื้อน้ำผึ้งราคาแพง ผลตอบรับขณะนี้ชาวบ้าน หันมาเลี้ยงผึ้งกันมาก โดยเฉพาะใน 8 ตำบลของ สภ.ฉวาง
“ต้นทุนแค่ชาวบ้านไปหาเศษไม้ ลองไปดูรถผมหลังโรงพักได้ พอชาวบ้านเชื่อใจเราแล้ว เรื่องเบาะแสต่างๆ เขาจะบอกเราหมด นี้คือวิธีการคิดของเรา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ผมทำแบบนี้ตลอด การใช้ชีวิตก็เหมือนกัน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ผมไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เพราะเป็นครูแดร์มาก่อน เราไปสอนนักเรียนเรื่องยาเสพติด ถ้าชาวบ้านเอาเหล้ามาให้ผมไม่กิน ไปทำบุญก็คือทานข้าวทีเดียวจบ”
สารวัตรผึ้ง กล่าวถึงมาตรการป้องกัน เหตุอาชญากรรมว่า ทุกคืนจะมีจุดตรวจทุกตำบล เรียกว่า ทางเสือผ่าน มีอาสาตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผู้ใหญ่บ้าน ให้ความร่วมมือดี ตนกำชับเสมอว่าสายตรวจแต่ละตำบล ต้องรู้หมดว่าเส้นทางไหนเป็นทาง อโคจร ส่วนเรื่องยาเสพติดมีทุกประเภท โดยเฉพาะน้ำกระท่อม ที่กินกันแทบทุกบ้าน เราได้มีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่พอเห็นเด็กเริ่มเสพยาบ้าก็รู้สึกหดหู่ใจ
บางครั้งการทำงานก็มีความยาก เพราะมีบางส่วนที่ต่อต้านตำรวจ แต่เชื่อว่าถ้าทำงานด้วยจิตวิญญาณ ยังไงชาวบ้านก็ศรัทธาในตัวตำรวจจับอย่างไรให้ชาวบ้านยิ้มได้ จุดเด่นของตน คือชอบงานมวลชนสัมพันธ์ เราต้องแสวงหาความร่วมมือจากชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ให้ได้ การเลี้ยงผึ้งเป็นอีกหนึ่งตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน ทุกคนจะรู้ดีว่าตนเป็นคนจริงจัง และซื่อตรง
“ถ้าใครได้ข่าวว่า รอง ผกก.ป.สภ.ฉวาง ไปตุกติกเรียกรับผลประโยชน์ ให้ช่วยมาบอกผมด้วย เราต้องทำงานยืนหยัด อยู่บนหลักการความถูกต้อง ชอบธรรม ต้องไม่หวังเรื่องผลประโยชน์ เพราะว่าผมเติบโตมาจากการเป็นครูตำรวจตระเวนชายแดน และเรื่องลาภยศต่างๆ ผมไม่เคยสนใจ” นายตำรวจตงฉินแห่งเมืองคอน กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี