ช่วงนี้บ้านเมืองมีแต่ข่าวด้านลบที่เครียดวุ่นวายระส่ำระสายจนครอบครองพื้นที่สื่อทุกสำนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวด้านลบของคนในภาครัฐที่ก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อผู้คนในบ้านเมืองซึ่งนอกจากกรณีฉาวนาฬิกาหรู 25 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมแล้ว ยังมีอื้อฉาวต่อเนื่องที่สะท้อนความเน่าเฟะในวงการสีกากียุคที่มี
“บิ๊กป้อม”เป็นผู้กำกับดูแล
ในกรณีนาฬิกาหรู“บิ๊กป้อม” ที่ขณะนี้ลุกลามบานปลายเริ่มจะเสี่ยงที่จะกลายเป็นวิกฤติศรัทธาต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อล่าสุด ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ประธานคณะอนุกรรมการ ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(คตช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ปลด“บิ๊กป้อม” พ้นจากการเป็นกรรมการคตช.จากกรณีนาฬิกาหรูสุดอื้อฉาว
หลังยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ดร.ต่อตระกูล ส่งสัญญาณเผยเป็นนัยๆ ว่า หากข้อเสนอที่ยื่นไปไม่ได้รับการตอบสนองมีความเป็นไปได้ที่กรรมการในคตช.หลายคนซึ่งล้วนเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอาจโบกมือลา ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการฉีกหน้ารัฐบาลอย่างแรง และจะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเคลื่อนไหวกดดัน “บิ๊กป้อม” มากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องเน่าเฟะในวงการสีกากีที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวบานปลายช่วงนี้เห็นจะเป็นกรณีคำพูดสุดอื้อฉาวฮือฮาที่ว่า “อาชีพตำรวจของผมเป็นแค่ไซด์ไลน์”ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือ “บิ๊กอ๊อด” อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)โดยกรณีนี้ซ้ำเติมภาพลบของวงการสีกากีที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้จมดินมากขึ้น โดยล่าสุด พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ถึงกับเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจดำเนินการถอดยศ “บิ๊กอ๊อด”
คำพูด “ตำรวจไซด์ไลน์” ของ “บิ๊กอ๊อด” สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ “บิ๊กอ๊อด” ตกเป็นข่าวกรณีเงินปริศนา 300 ล้านบาท ที่ยืมมาจาก เสี่ยกำพล วีระเทพสุภรณ์ เจ้าของสถานอาบอบนวดวิคเตอเรีย ซีเครท ที่ฝ่ายปกครองและทหาร บุบกวาดล้างดำเนินคดีฐานค้ามนุษย์ก่อนหน้านี้ โดย “บิ๊กอ๊อด” ให้สัมภาษณ์สื่อสำนักหนึ่งอ้างว่า ตัวเองทำธุรกิจมานานแล้ว ส่วนอาชีพตำรวจเป็นแค่ “ไซด์ไลน์” เท่านั้น ส่วนเงิน 300 ล้าน ที่ยืมจาก เสี่ยกำพล ซึ่งเป็นเพื่อนกันมานานแล้วก็เพื่อนำไปลงทุนทำธุรกิจบางอย่างโดยเฉพาะหุ้น ซึ่งปริศนาเงิน 300 ล้านบาท ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)กำลังขยายผลสอบหาเบื้องหลังความเป็นมาว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่
กรณี “บิ๊กอ๊อด” ไม่ได้สั่งสะเทือนแค่วงการตำรวจและ “บิ๊กอ๊อด” เท่านั้น แต่อาจลามไปถึงอำนาจรัฐคสช.โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” เพราะ “บิ๊กอ๊อด” มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ “บิ๊กป้อม” ซึ่งกำกับดูแลสตช. อีกทั้ง “บิ๊กอ๊อด” ได้เป็น ผบ.ตร. รวมทั้ง สนช.ก็ในยุคอำนาจรัฐคสช.
อีกกรณีเน่าเฟะของวงการสีกากีคือคลิปภาพตำรวจลูกแถวในเครื่องแบบจากหลายท้องที่ของกทม.ราว 60 คนเข้าแถวรับอั่งเปาจาก ร.ต.ต.มนัส เติมธนศักดิ์ รองสารวัตร กองกำกับการ 4 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งมีปูมหลังพัวพันกับธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะบ่อนลอยฟ้ามานานนับสิบปี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ยอมรับว่าได้ข่าวมากว่า 10 ปีแล้วว่า ร.ต.ต.มนัส พัวพันกับธุรกิจสีเทา นอกจากนี้จากการตรวจสอบไปยังหน่วยงานต้นสังกัดแล้วยังพบว่า ร.ต.ต.มนัส ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่เดินทางไปต่างประเทศถึง 96 ครั้งโดยไม่ได้ขออนุญาตตั้งแต่ปี 2558
นายตำรวจใหญ่บางคนพยายามปกป้องอ้างว่าเป็นเรื่องน้ำใจระหว่างพี่กับน้อง ทั้งๆ ที่ความจริงนอกจากไม่เหมาะสมแล้ว ยังเป็นการขัดคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชติ(สตช.)ก่อนหน้านี้ที่ห้ามตำรวจรับเงินหรือสิ่งของในช่วงเทศกาลต่างๆอย่างเด็ดขาด
คำถามก็คือ ร.ต.ต.มนัส ทั้งๆที่พัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายมานานนับสิบปี และยังขาดราชการเป็นว่าเล่น แต่กลับรับราชการอยู่ได้อย่างลอยนวล ซ้ำยังได้เลื่อนยศจากเดิมเป็นตำรวจชั้นประทวนยศนายดาบได้เลื่อนเป็น ร.ต.ต. แสดงว่ามีเส้นใหญ่แข็งโป๊กหนุนหลัง
จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นสะท้อนความเน่าเฟะในวงการสีกากีที่ฝังรากลึกทั้งๆ ที่อยู่ในยุคอำนาจรัฐพิเศษของคสช. แต่ธุรกิจสีเทาดูเหมือนจะยังเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้ไม่มีทางเปิดเย้ยกฎหมายได้อย่างเด็ดขาดถ้าตำรวจท้องที่ไม่มีส่วนรู้เห็น ยังไม่ต้องพูดถึงส่วยธุรกิจสีเทาและการวิ่งเต้นเซ็งลี้เก้าอี้ในวงการสีกากีที่แม้ขณะนี้ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นได้แต่หวังว่าจะมีการปฏิรูปตำรวจจย่างจริงจังในยุคอำนาจรัฐคสช. ด้วยการล้างตำรวจน้ำเน่าออกไปแล้วสนับสนุนตำรวจน้ำดีขึ้นมามีอำนาจ ซึ่งหากหาตำรวจน้ำดีไม่ได้ก็รับสมัครทหารเข้ามาเป็นตำรวจแทน รวมทั้งผ่าตัดโครงสร้างองค์กรตำรวจด้วยการกระจายอำนาจ ไม่งั้นเท่ากับยึดอำนาจมาทั้งทีกลับทำเสียของ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี