หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การเมืองเริ่ม “ตั้งลำ” ได้หลังวงใหญ่ที่ สโมสรทหารบก แต่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแค่คน“รับสาร” เพื่อส่งต่อให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯนำไปพิจารณา ในเบื้องต้นการ “เคาะเบาๆ”วันเลือกตั้ง ก็นับเป็นสัญญาณที่ดี “เสือไท” หวังว่าการเริ่มต้นที่ดีครั้งนี้ จะไม่เป็นแบบ “ปิ้งปลาประชดแมว” พอถึงเวลาก็อ้างโน่นอ้างนี่ คือไหนๆประเทศต้องเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยโดยมีรัฐธรรมนูญเป็น“กติกา” จะช้าหรือเร็ว ต้องเลือกตั้ง แต่ว่าเลือกช้าหรือเร็ว มันก็มิได้เปรียบเสียเปรียบ ฉะนั้น “บิ๊กตู่” คงต้องคิดให้มากกว่า อย่างไหน“ชาติ” จะได้ประโยชน์มากกว่ากัน...
nn สิ่งที่ทำให้ คสช.-รัฐบาล คิดหนักคือ“ม็อบ” คือถ้าไม่มี“ม็อบรับจ้าง” หรือ“ม็อบการเมือง” การเลือกตั้งก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่พอมี “ม็อบรับจ้าง” มันทำให้ประชาธิปไตยบ้านเรา หรือการเลือกตั้งบ้านเรา ไม่เป็นที่ยอมรับ ฉะนั้นถ้าไม่มี“ม็อบ” สู้กันแบบแฟร์ๆ เลือกตั้งเสร็จใครชนะเอา“อำนาจ”ไป ใครแพ้ก็รอกลับมามี“อำนาจ”ทีหลัง มันเหมือน“สมบัติผลัดกันชม” อย่างนี้คือประชาธิปไตย ในประเทศ ศิวิไลซ์ เขาเล่นกัน แต่ประเทศไทย นับแต่มี“ม็อบการเมือง” มันกลายเป็น อนาธิปไตย เพราะไม่เคารพสิทธิหรือเสียงประชาชน ไม่เคารพกติกา มันก็กลายเป็น “บ้านป่าเมืองเถื่อน” สุดท้ายการเมืองกลายเป็นเรื่องการ“อาฆาตมาดร้าย” เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ฝ่ายมี“อำนาจ”ก็กลัวจะสูญเสียอำนาจ เนื่องจากเมื่อสูญเสียอำนาจ ก็กลัวพวกที่ได้“อำนาจ”จะมาเอาคืน นี่คือเหตุที่ทำให้ไม่ยอม“คายอำนาจ” ไม่กล้าลงจาก“หลังเสือ” ถ้าการเมืองเป็นเหมือนในอดีตคือ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ประชาธิปไตยแบบไทยๆก็พออยู่ได้...
nn ยุค “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็กลัวแบบนี้ เลยไม่กล้าเป็นนายกฯ ไปเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาเป็นแทน แล้ว บิ๊กบัง ก็เร่งเลือกตั้ง ตามแรง“กดดัน”ของฝ่ายการเมือง คือกติกาในการปฏิวัติในอดีต จะต้องคืนอำนาจไม่เกิน 1 ปี บิ๊กบัง ก็“สุภาพบุรุษ” ยึดอำนาจแล้ว แต่ยังจัดระเบียบไม่เรียบร้อยก็รีบคืนอำนาจให้กับประชาชน สุดท้ายเหตุการณ์มันก็“ปะทุ-บานปลาย” แต่จังหวะของ “บิ๊กบัง”ก็ลงจาก“หลังเสือ” นอกจากจะไม่โดนเสือกัด ยังได้เสือเป็นเพื่อนอีกต่างหาก การเมืองก็มีแค่นี้...
nn จริงอยู่ ในยุค“บิ๊กบัง” อาจจะไม่มี“กลุ่มการเมือง”เข้ามาแทรกซ้อนและมี“อิทธิพล”เหนือคณะรัฐประหาร แต่ในยุค บิ๊กตู่ ต้องยอมรับว่า กลุ่มการเมืองนอกสภา มีอิทธิพลเหนือ คสช. ไม่งั้นคงไม่“ลากยาว”มาจนถึง 4 ปี และวางแผนลากกันต่อไปเรื่อยๆ “เสือไท” ว่าวิธีการแบบนี้มันไม่เป็นผลดีต่อตัว “บิ๊กตู่”และประเทศชาติ บิ๊กตู่ ก็ทราบดี ว่ายังไงก็ต้องลงจาก“หลังเสือ” ส่วนจะกลับขึ้น“ขี่เสือ” ใหม่อีกครั้ง อันนี้อยู่ที่ผลการเลือกตั้งและตัวแปรอื่นๆ ที่ไม่สามารถ“ควบคุม”ได้ ถึงวันนั้นแล้วแต่“ฟ้าลิขิต” ว่าจะจบลงอย่างไร...
nn ส่วนหนึ่ง“เสือไท”รอดูการเปิดตัว พรรคพลังประชารัฐ ในเดือนหน้านี้ว่า จะมีบรรดา“ขุนพล” เข้ามาสังกัดพรรคนี้เท่าไหร่ และประเภทที่เข้ามาจะเป็น“เกรดเอ” ของจริง หรือ เกรดเอเสิ่นเจิ้น และการที่ ทักษิณ ชินวัตร บอกว่า คนเก่าออกไปก็ดี จะได้มีคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาแทนที่ อันนี้เห็นด้วย เพราะใน เพื่อไทย มีคนรอคิว ถึง 4 แถว และทักษิณ ก็เชื่อว่า คะแนนพรรค ทำให้ผู้สมัครได้รับเลือกตั้งเป็นสส. ไม่ใช่คะแนนของตัวผู้สมัครเอง ฉะนั้นคนที่ออกจากเพื่อไทย ไปพลังประชารัฐ ก็ต้องเชื่อว่าคะแนนส่วนตัวมากกว่าคะแนนพรรค ไม่งั้นก็ “สอบตก” ส่วนพรรคพลังประชารัฐ เขาก็มีการ“ทำโพลล์”ในพื้นที่เหมือนกันว่า ใครได้-ใครตก ไม่ใช่จ่ายกัน“มั่วๆ” เสียที่ไหน ถึงวันเลือกตั้ง ก็จะรู้เองว่า หลังรัฐประหารแล้ว จะล้มพรรคทักษิณ ได้หรือไม่หรือจะแพ้อีกรอบ โปรดติดตามตอนต่อไป...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี