วันศุกร์ ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2564
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...นันท์วดี แดงอรุณ
ลงมือสู้โกง โดย...นันท์วดี แดงอรุณ

ลงมือสู้โกง โดย...นันท์วดี แดงอรุณ

นันท์วดี แดงอรุณ
วันพุธ ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.

Corruption VS. COVID-19 จุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ปัญหาคือ'ประชาชน'

ดูทั้งหมด

  • Tweet

ตลอดช่วงระยะเวลาที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤติจาก COVID-19 ตั้งแต่เริ่มปักหมุดรับมือการป้องกันโรคระบาดเมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่พบนักท่องเที่ยวจากเมืองจีนป่วยรายแรกในเมืองไทย ยกระดับสู่การปิดเมืองหลังจากเกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคในเขตเมืองอย่างรวดเร็วเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว ที่ทุกภาคส่วนในสังคมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ ป้องกัน ช่วยเหลือ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ แต่ปัญหาที่พบเห็นชัดเจนที่สุดในวิกฤติครั้งนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ป้องกันสำหรับประชาชน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการป้องกันสุขภาพร่างกายของตนเอง กลับขาดแคลน และมีราคาที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว แต่นับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโรคจนถึงวันนี้ผู้เขียนเองก็ยังไม่พบว่าหน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคที่เกี่ยวข้องจะกลับมาซื้อขายได้ในราคาปกติ หรือหาซื้อได้ง่ายอย่างที่เคยผ่านมา

การขาดแคลนและความยากลำบากในการหาซื้ออุปกรณ์ป้องกันโรคไม่ได้เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่บุคลากรทางการแพทย์เองที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยไม่ว่าจากโรค COVID-19 โรคอื่นๆ หรืออุบัติเหตุ กลับไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย, หน้ากาก Face Shield, อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (ชุด PPE), อุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ อย่างเพียงพอได้ จนเกิดการระดมทุนจากภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปเพื่อจัดซื้อ และจัดส่งของจำเป็นเหล่านี้ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ แต่สุดท้ายเรากลับเห็นข่าวที่หลายท่านทั้งผู้มีชื่อเสียง และบุคลากรทางการแพทย์กล้าออกมาเปิดโปงว่าของที่ประชาชนและหน่วยราชการส่วนกลางส่งไปให้กับโรงพยาบาลนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้ แต่ถูกกักตุนไว้เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม หรือเพื่อรักษาหน้าตาของผู้ที่มีอำนาจใน
โรงพยาบาล


นอกจากการกักตุนอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้วยังมีประเด็นที่ส่อทุจริตในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกัน แก้ปัญหา และเยียวยาผลกระทบจากวิกฤติ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ข่าวที่เราเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างชัดเจน และมีประชาชนให้ความสนใจมากที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการจัดซื้อชุดแคร์เซตคนชรา 16.3 ล้านบาทที่จังหวัดลำพูน โดยทาง อบจ.ลำพูน ได้ทำการจัดซื้อสินค้ารวมทั้งสิ้น 27,700 ชุด ในราคาชุดละ 590 บาท จากเอกชนรายหนึ่ง แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนเป็นจำนวนมากว่าสินค้าที่จัดซื้อมาไม่สมกับราคางบประมาณที่จ่ายไป จนเป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียล ประชาชนที่มีข้อมูล และสื่อหลักหลายสำนักให้ความสนใจ ขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลังกับประเด็นดังกล่าว จนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน และพบการจัดซื้อไม่ชอบด้วยระเบียบการช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณภัย เป็นผลให้เกิดความเสียหายเต็มจำนวนกว่า 16 ล้าน 3 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเป็นทั้งข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำประมาณ 10 คน จะถูกดำเนินการสอบวินัยต่อไป

จากเหตุการณ์ที่ผู้เขียนได้ยกตัวมาข้างต้นนั้นเราจะเห็นจุดสำคัญที่ทำให้ปัญหาการทุจริตในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และนำไปสู่การแก้ไขได้เร็วขึ้น ได้แก่ 1) มีคนกล้าออกมาเปิดโปง
ให้เบาะแส การกักตุน หรือการทุจริตอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ โดยไม่กลัวอันตราย และแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี 2) เกิดการตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลไปอย่างไม่คุ้มค่า เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐได้ง่าย และ 3) การใช้สื่อ Social Mediaทำให้ประเด็นปัญหาต่างๆ ถูกส่งต่อ และถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กว่าที่เราจะรู้ตัวว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เราส่งไปช่วยโรงพยาบาลนั้นไปไม่ถึงผู้ที่ต้องการใช้อย่างแท้จริง อาจจะกินเวลาไปเป็นปีก็ได้

หากเราสามารถนำจุดเปลี่ยนสำคัญทั้ง 3 ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมาสร้างเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และจับตาการทำงานของภาครัฐได้ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี้ อาจจะไม่ยากเกินไปเพราะหากได้ติดตามการทำงานของภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านต่อต้านคอร์รัปชันต่างๆ ที่ผ่านมานั้น มีเครื่องมือที่เตรียมพร้อมให้ประชาชนได้นำไปเป็นหูเป็นตา และร่วมจับตาการทำงานของภาครัฐได้เป็นจำนวนมาก เช่น หากประชาชนต้องการเปิดโปง ให้เบาะแสการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐ มีทั้งเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน และเพจต้องแฉที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนส่งข้อมูลการทุจริตได้อย่างปลอดภัยและนำมาทำงานร่วมกับเครือข่ายเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือถ้าเรายังไม่มีเบาะแสการทุจริตแต่เกิดความสงสัยในการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ก็สามารถหาข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ทั้งงบประมาณที่ใช้ บริษัทผู้รับจ้างงานนั้นเป็นใคร มีความเกี่ยวข้องเหมาะสมกับงานหรือไม่ได้ที่ฐานข้อมูล ACTAi (https://actai.co) และสุดท้ายพลังของสื่อ Social Media ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่เพจชื่อดังหรือสำนักข่าวเท่านั้น แต่ทุกคนมีสื่อSocial Media ในมือเพียงแค่ช่วยกันส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกไปสู่เพื่อนๆ รอบข้าง ก็นับว่าเป็นการใช้พลังของสื่อในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้แล้ว

ในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็ได้ยินว่าองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันพัฒนา Crowdsourcing Platform เพื่อเป็นเครื่องมือให้ประชาชนนำไปใช้ในการส่งเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชัน และเป็นพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาเข้ามาทำงานร่วมกับข้อมูลจากประชาชนได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ก็เริ่มมาตรการต่อเนื่อง “การปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตท่ามกลางวิกฤติิการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19”โดยทำการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ตามกรอบแนวคิดการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต (ScenarioAnalysis) ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการสอดส่อง และให้เบาะแสการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันได้เป็นอย่างดี

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายใช้งบประมาณเพื่อกอบกู้วิกฤติ COVID-19 จำนวนมากถึง 1.9 ล้านล้านบาทนั้น หากประชาชนร่วมกันเฝ้าติดตาม จับตาการใช้งบประมาณผ่านข่าวสารที่เชื่อถือได้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านเครื่องมือต่างๆ ก็อาจทำให้ปัญหาโรคระบาดและการทุจริตคอร์รัปชันในสังคมลดลงได้ในคราวเดียว นำมาซึ่งสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายของประชาชน และสุขภาพของสังคมไทยในอีกไม่นาน

  • Tweet
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:15 น. 'พุทธะอิสระ'แขวะ'ธนาธร'ขายฝันนานนับปี จนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ
07:05 น. เปิดไทม์ไลน์หนุ่ม 27 พลัดตกผาเดียวดาย ซื้อตั๋วเข้าอุทยานฯ จุดสุดท้ายผ่านแยกป้อมขึ้นเขาเขียว
07:00 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564
06:51 น. ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศา ยอดดอยยังหนาวจัด-หมอกหนา กทม.ต่ำสุด 19 องศา
06:00 น. บทความพิเศษ : เมื่อ‘ธนาธร’ขุดหลุมฝังศพตัวเอง
ดูทั้งหมด
ด่วนที่สุด!‘กกต.’ประกาศรับรอง29นายกอบจ.-สมาชิกอบจ.1,949คน75จังหวัด
โขดหิน หาดทราย โผล่กลางโขงเป็นแนวยาวจาก 'เขมราฐ'ไปจนถึง'โขงเจียม'
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ ระหว่างวันที่ 17 ถึง 23 มกราคม พ.ศ. 2564
ทั้งสวยและเก่ง! จากครูสอนภาษาไทยสู่การเป็นผอ. ที่อายุน้อยที่สุด
'บิ๊กตู่'เหลืออดแล้ว! ซัดกลับ'ธนาธร'บิดเบือน สั่งดำเนินคดีแพร่ข้อมูลเท็จ
ดูทั้งหมด
ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้ ‘เราชนะ’ ได้?
เสือ(เกือบ)ร้องไห้
หัวหน้าบ๊อง ลูกน้องตายหมด
อาณาจักรโล่เงิน : 22 มกราคม 2564
บุคคลแนวหน้า : 22 มกราคม 2564
ดูทั้งหมด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดไทม์ไลน์หนุ่ม 27 พลัดตกผาเดียวดาย ซื้อตั๋วเข้าอุทยานฯ จุดสุดท้ายผ่านแยกป้อมขึ้นเขาเขียว

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564

'การ์ดรุ่นใหญ่'ชี้ถ้าแผนสำเร็จ'เยล'คือวีรบุรุษ แต่ตอนนี้โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว

เซ่นพิษโควิด-19! ยลทะเลสาบเดดซี ในวันที่ไม่มีผู้มาเยือน

‘ชูวิทย์’เหน็บซักฟอกเสียวซ้ำรอย‘ฝ่ายค้านเทียม’ ฟันฉับรบ.พังเพราะโควิดมากกว่า

ไฟไหม้โรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 ใหญ่ที่สุดในโลกที่อินเดีย

  • Breaking News
07:15 น. 'พุทธะอิสระ'แขวะ'ธนาธร'ขายฝันนานนับปี จนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ
07:05 น. เปิดไทม์ไลน์หนุ่ม 27 พลัดตกผาเดียวดาย ซื้อตั๋วเข้าอุทยานฯ จุดสุดท้ายผ่านแยกป้อมขึ้นเขาเขียว
07:00 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2564
06:51 น. ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศา ยอดดอยยังหนาวจัด-หมอกหนา กทม.ต่ำสุด 19 องศา
06:00 น. บทความพิเศษ : เมื่อ‘ธนาธร’ขุดหลุมฝังศพตัวเอง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

Ecosystem กับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน

Ecosystem กับการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน

16 ธ.ค. 2563

‘ฉลาดเกมส์โกง’ ละครที่ไม่ได้สะท้อนแค่ตัวเรา

‘ฉลาดเกมส์โกง’ ละครที่ไม่ได้สะท้อนแค่ตัวเรา

23 ก.ย. 2563

Corruption VS. COVID-19 จุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ปัญหาคือ\'ประชาชน\'

Corruption VS. COVID-19 จุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ปัญหาคือ'ประชาชน'

13 พ.ค. 2563

‘คนไทย’กับบทบาทในการขับเคลื่อนกลไก เพื่อแก้ไขกลโกง

‘คนไทย’กับบทบาทในการขับเคลื่อนกลไก เพื่อแก้ไขกลโกง

18 ธ.ค. 2562

ประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อนสังคมไทยให้โปร่งใสด้วยเทคโนโลยี

ประเทศไทย 4.0 ขับเคลื่อนสังคมไทยให้โปร่งใสด้วยเทคโนโลยี

22 พ.ค. 2562

‘โรงเรียน’ จุดแก้โกง หรือ จุดเริ่มโกง

‘โรงเรียน’ จุดแก้โกง หรือ จุดเริ่มโกง

16 ม.ค. 2562

พลเมืองตื่นรู้ สู้โกง ยุค 4.0

พลเมืองตื่นรู้ สู้โกง ยุค 4.0

26 ก.ย. 2561

‘คงต้องฝากความหวังไว้กับเด็กยุคใหม่’ ช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือ?

‘คงต้องฝากความหวังไว้กับเด็กยุคใหม่’ ช่วยแก้ปัญหาได้จริงหรือ?

16 พ.ค. 2561

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved