วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ที่เด็กนักเรียนและนักศึกษาต่างต้องนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียนออนไลน์ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นได้จากที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
ส่วนของภาคการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการก็ประกาศให้โรงเรียนทั่วประเทศสามารถเปิดภาคเรียน โดยสามารถสอนในห้องเรียน (On Site) ได้อย่างเต็มรูปแบบ ในเบื้องต้นโรงเรียนที่สามารถเปิดได้จะต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ เพื่อยื่นขอการอนุมัติให้เปิดเรียน เช่น โรงเรียนต้องผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรค COVID-19 (Thai Stop Covid)ในระดับสีเขียว สัดส่วนของครูและบุคลากรภายในโรงเรียนที่ได้รับวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85 และ นักเรียนและผู้ปกครองจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุด เมื่อโรงเรียนผ่านเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ ทางโรงเรียนสามารถยื่นขอพิจารณากับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดเพื่อทำการอนุมัติให้สามารถเปิดโรงเรียนได้
ถึงแม้แนวโน้มของสถานการณ์จะค่อนข้างดีขึ้น แต่หากเรามองย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาด โควิด-19ในระลอกที่ผ่านๆ มา จนถึงปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา ทั้งเกิดเป็นปัญหาใหม่ หรือเป็นฉนวนที่เร่งให้ปัญหาที่มีอยู่เดิมมีความรุนแรงมากขึ้น วันนี้ผู้เขียนจึงอยากชวนทุกท่านมารับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เปรียบเสมือนรอยบาดแผลที่ต้องเร่งรักษาให้กับระบบการศึกษาไทย
ปัญหาหลักสูตรที่ขาดความยืดหยุ่น ถือเป็นปัญหาที่มีการถกเถียงกันมาเป็นระยะเวลานานในระบบการศึกษาไทย ด้วยลักษณะของตัวหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ที่เน้นการประเมินผลผู้เรียนในลักษณะการให้คะแนนหรือการตัดเกรด มีรูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเรียนตามรายวิชาที่บังคับ และประเมินตามตัวชี้วัดหรือคุณลักษณะที่กำหนดให้ เกิดเป็นการจำกัดการเรียนรู้และสร้างค่านิยมแข่งขันกันระหว่างผู้เรียน ส่งผลให้จากรูปแบบการศึกษาที่ควรจะเป็นการเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของผู้เรียน กลับกลายเป็นการศึกษาที่สร้างความกดดันให้ตนเองต้องเป็นที่หนึ่ง และทำให้ผู้เรียนไม่สามารถค้นหา
ตัวเองได้ว่าตนเองชอบ หรือมีความถนัดในด้านใด เนื่องจากการเรียนรู้ที่จำกัดอยู่ในกรอบของรายวิชาบังคับ
ยิ่งในช่วงการเรียนออนไลน์ที่ถึงแม้ครูผู้สอนหลายคนจะมีการปรับกระบวนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่ตัวหลักสูตรเองไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนหรือมีการยืดหยุ่นให้สอดคล้องตาม ครูผู้สอนยังคงต้องมีการประเมินตามตัวชี้วัดหรือคุณลักษณะที่เดิมออกแบบมาใช้สำหรับในช่วงสถานการณ์ที่ปกติ แต่เมื่อเป็นการสอนออนไลน์ ซึ่งมีกระบวนการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและมีความจำกัด จึงส่งผลให้การประเมินผลผู้เรียนด้วยวิธีการให้คะแนนหรือตัดเกรดอาจไม่ใช่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัดทักษะและสมรรถนะของผู้เรียนมากนัก
ปัญหาการสูญเสียการเรียนรู้ (Learning Loss) คือ สภาวะการเรียนรู้ถดถอย ส่งผลให้พัฒนาการของผู้เรียนช้ากว่าปกติ จากในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้โรงเรียนและสถานศึกษา ต่างต้องมีการปิดตัว ปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นทางออนไลน์ ซึ่งอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกับการเรียนรู้ในห้องเรียน จากส่วนหนึ่งของบทความ Covid Slide : บาดแผลใหญ่ทางการศึกษา ของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า จากการที่ สพฐ. กำหนดให้ 1 ภาคการศึกษามีประมาณ 20 สัปดาห์ แต่ในช่วงภาคการศึกษาที่ผ่านมาประเทศไทยมีการปิดโรงเรียนทั่วประเทศไป 15 สัปดาห์ และปิดบางส่วนเพิ่มเติมอีก 14 สัปดาห์ แสดงว่านักเรียนไทยไม่สามารถไปโรงเรียนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไปแล้วถึง 3 ใน 4 ภาคการศึกษา และเมื่อคำนวณแล้วนักเรียนไทยจะเสียการเรียนรู้ประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ของภาคการศึกษา ปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้เรียนให้มีพัฒนาการที่ล่าช้ากว่ามาตรฐาน และในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่อาจจะได้แรงงานที่มีทักษะและศักยภาพไม่เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน
ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ควรเร่งแก้ไข โดย ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคประชาสังคม กสศ. ได้ชี้แจงข้อมูลสถิติเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา ในปีการศึกษา 2564 พบว่ามีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาจำนวนประมาณ 5,654 คน และในช่วงสิ้นปีมีการคาดการณ์ว่าจะมีเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษามากถึง 65,000 คน ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เด็กหลุดจากการศึกษามีจำนวนมากขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เด็กไม่มีความพร้อมในการเรียนออนไลน์ ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อินเตอร์เนต คอมพิวเตอร์ หรือ Smart device ต่างๆ
ซึ่งปัญหาดังกล่าวเชื่อมโยงกับปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจอีกด้วย นักเรียนที่ผู้ปกครองได้รับผลกระทบต้องหยุดงานตามมาตรการควบคุมของรัฐบาล ถูกลดเงินเดือน หรือถูกจ้างให้ออก ทำให้ผู้ปกครองไม่มีต้นทุนที่เพียงพอสำหรับการจัดหาซื้ออุปกรณ์เรียนออนไลน์ให้กับบุตรหลานของตนเองได้ หรือหากเด็กมีความพร้อมในอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ก็ตาม แต่อาจจะขาดความรู้และความเข้าใจในการใช้งานรวมทั้งผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลบุตรหลานในการติดตามและดูแลการเรียนออนไลน์ก็ส่งผลให้เด็กมีแนวโน้มสูงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษาได้
ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดถือเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญ และต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ผู้เขียนเล็งเห็นว่าการนำ หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) มาปรับใช้จะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมุ่งเน้นในหลัก การมีส่วนร่วม (Participation) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักการของหลักธรรมาภิบาล
การที่องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยรักษารอยบาดแผลที่เกิดขึ้นกับระบบการศึกษาไทยในขณะนี้ในปัญหาด้านหลักสูตร ทางกระทรวงศึกษาธิการควรมีการพิจารณาและทบทวนถึงความเหมาะสมของหลักสูตร และเปิดพื้นที่ให้ทางคุณครู และนักเรียนได้มามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และความต้องการเพื่อสามารถออกแบบหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เรียน และช่วยส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน
ปัญหาด้านการสูญเสียการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียน และคุณครู ควรหารือร่วมกันในการที่จะปรับรูปแบบการสอนหลังจากที่สามารถเปิดโรงเรียนได้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยต้องคำนึงถึงการที่ผู้เรียนต้องได้รับการชดเชยในความรู้ที่สูญเสียไปในช่วงที่เรียนออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ตามพัฒนาการของตนเอง
ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา ถือเป็นปัญหาที่ทางกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกนโยบายที่คุ้มครองและรองรับกับกลุ่มเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา และควรออกแนวทางการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันไม่ให้มีเด็กหลุดจากระบบการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ส่วนทางโรงเรียน และคุณครูควรที่จะให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนทุกคน โดยควรคำนึงถึงการเรียนรู้ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (No one left behind) เป็นสำคัญ และในส่วนของผู้ปกครองซึ่งถือเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับตัวเด็กมากที่สุดควรที่จะให้ความสำคัญ สอดส่อง และดูแลบุตรหลานของตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลุดจากระบบการศึกษา
ท้ายที่สุดผู้เขียนอยากให้ทุกคนเล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบการศึกษา ระบบที่มีหน้าที่บ่มเพาะ ปลูกฝัง และมอบองค์ความรู้ให้กับเยาวชน เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตมาเป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพ แต่สิ่งเหล่านี้ยากที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าหากทุกภาคส่วนไม่เริ่มต้นร่วมมือกันรักษาบาดแผลของระบบการศึกษาตั้งแต่วันนี้ ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ในระยะยาวรอยบาดแผลเหล่านี้อาจยากที่จะรักษา และกลายเป็นรอยแผลเป็นที่ไม่มีทางลบเลือนไปได้ในที่สุด
ภัทรชัย อ่อนน่วม Hand Social Enterprise

แม่ทัพกุ้ง ลงใต้ ส่งกำลังใจให้ชาวหาดใหญ่ เยี่ยมเจ้าหน้าที่จิตอาสา เร่งฟื้นฟูเมือง
เกาหลีนำไปอีกก้าว พัฒนาแอปฯแจ้งเตือนเหยื่อถูกสะกดรอยตาม เช็กพิกัดคนร้ายแบบเรียลไทม์
กกท.ไม่ทนแล้ว จ่อดำเนินคดี ผู้ที่นำข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปมดราม่าจัดซีเกมส์ 2025
ดร ธนกฤต ตั้งข้อสงสับพบสารพิษในร่าง ณัฐวุฒิ ปงลังกา ผู้สื่อข่าวช่องดัง
อินเดียป่วนหนัก สายการบินโลว์คอสต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน1,200เที่ยว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี