วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...ภัชชา เหมหงษา
ลงมือสู้โกง โดย...ภัชชา เหมหงษา

ลงมือสู้โกง โดย...ภัชชา เหมหงษา

ภัชชา เหมหงษา
วันพุธ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
เมื่อความผิดถูกปกปิดด้วยผ้าเหลือง

ดูทั้งหมด

  •  

“มีพนักงานบริษัทคนหนึ่งตอนกลางวันเป็นที่นับหน้าถือตาของลูกค้า ทุกคนในองค์กรต่างไว้ใจแต่พอตกกลางคืนกลับแอบยักยอกขโมยกำไรบริษัทไปใช้จ่ายส่วนตัว ปรนเปรอชีวิตหรูหราให้ตัวเองเรื่อยมา”

คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ไม่พอใจ? โกรธ? หรือคิดว่าถ้าคนส่วนมากพบเห็นการทุจริตจะรีบเข้าไปต่อว่าประจานคนทำไหม?


ทีนี้ก่อนจะตอบคำถาม ผู้เขียนขออนุญาตเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเรื่องราวเล็กน้อย…

ถ้าบริษัทที่ผู้เขียนเล่ากลายเป็นวัดแห่งหนึ่งกำไรบริษัทกลายเป็นเงินบริจาค และ “พนักงานบริษัท” กลายเป็น “พระ” แทนล่ะ?

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังทำให้คำตอบของคุณเปลี่ยนไปจากเดิมไหม? หรือเมื่อมีเรื่องของศาสนา ความศรัทธา และบทบาทในฐานะพระสงฆ์เข้ามาจะทำให้มุมมองเดิมถูกเปลี่ยนแปลง?

สถิติจากศูนย์ข้อมูลกลางทางด้านศาสนาได้ระบุไว้ว่าคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธถึงร้อยละ 92.52 มีวัดรวมแล้วประมาณ 43,005 แห่งและการบรรจุเรื่องศาสนาพุทธในบทเรียนนับตั้งแต่สมัย ร.5 แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและศาสนาพุทธที่มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะความเคารพของคนไทยที่มีต่อพระสงฆ์ในฐานะผู้เผยแพร่คำสอน

แต่ถึงอย่างงั้นเราก็มักได้พบเห็นข่าวพระสงฆ์กระทำความผิดขัดกับคำสอนหรือกฎหมายอยู่เรื่อยๆ อย่างกรณีล่าสุด “พระคม-พระหมอ” ที่ร่วมมือกับพรรคพวกยักยอกเงินของวัดรวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท รวมถึงมีพฤติกรรมชอบเสพเมถุนกับทั้งฆราวาสทั้งพระด้วยกัน และอีกเคสของหมอปลาที่ไลฟ์สดแฉ “พระอ๋อย” ที่มีพฤติกรรมชอบให้สีกาเข้ามาหลับนอนในกุฏิ(ใครนึกไม่ออกก็คือพระที่หยิบยางมัดผมมาคาดหัวอ้างว่าแก้ปวดหัวนั่นแหละ) แต่ทั้งสองเคสมีจุดร่วมกันคือทุกครั้งที่มีการเปิดโปงความผิดขึ้น มักจะมีสาวกบางส่วนออกมาร่วมปกป้องเข้าข้างผู้กระทำผิดอยู่เสมอ และบางครั้งคนกลุ่มนี้ยังแสดงให้เห็นว่าพอจะรู้พฤติกรรมการคอร์รัปชันนี้มาโดยตลอด แต่ก็เลือกจะศรัทธากราบไหว้ผู้กระทำผิดอยู่ดี ยังมีแม้แต่สาวกช่วยกันพระผู้กระทำผิดหลบหนีจากการจับกุมเสียด้วยซ้ำสิ่งนี้เกิดจากอะไรกันแน่?

อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่าศาสนาพุทธถูกซึมลึกอยู่ในเมืองไทยมานาน ผ่านการสร้างภาพจำว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” เป็นสิ่งที่อยู่สูงเหนือกว่าคนทั่วไป รวมไปถึงตัวพระสงฆ์ก็ถูกมองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งในโครงการวิจัยพุทธศาสน์ศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สำรวจแล้วพบว่าคนไทยไม่เพียงมองพระสงฆ์ในฐานะสาวกพระพุทธเจ้า แต่ยังมองว่าเป็นผู้มีความสำคัญในการชี้นำศีลธรรมความดี พัฒนาชุมชน รักษาวัฒนธรรม และสงเคราะห์ผู้คนยามยากอีกด้วย ฉะนั้นการจะวิพากษ์หรือตรวจสอบผู้ที่นุ่งขาวห่มผ้าเหลืองจึงเป็นเรื่องที่ชาวพุทธบางส่วนหวาดกลัวว่าจะเป็นการสร้างบาปให้ตนเอง หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่ากลัว “นรกจะขึ้นหัว” ก็ว่าได้

เมื่อสังคมแปะป้ายมองว่าพระสงฆ์คือตัวแทนความดีมีศีลธรรม ก็ตรงกับแนวคิดของ Edward Lee Thorndike นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน กับทฤษฎี Halo Effect กระบวนการคิดเชิงเทิดทูน เป็นความคิดลำเอียงเชิงอคติด้วยการนำเอารูปลักษณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สถานะ หรือของสิ่งหนึ่งมาบดบังคุณสมบัติหรือข้อเท็จจริงที่เหลือ เหลือไว้เพียงแต่ “ข้อดี” ที่อยากจะมอง เช่นเดียวกับการที่คนบางกลุ่มเลือกเชื่อว่าบุคคลที่บวชสวมผ้าเหลือง หรือผ้าขาวต้องเป็นคนดีจิตใจบริสุทธิ์อย่างแน่นอน

แล้วหากถลำลึกลงไปอีกจะนำไปสู่ แนวคิด Belief Perseverance คือการเกิดความเชื่อศรัทธาในตัวบุคคลหรือบางอย่างผนึกแน่นอยู่ในหัว แม้จะมีหลักฐานแสดงความผิดต่อหน้า แต่ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงมุมมองที่บูชาสิ่งนั้นไปแล้ว ซึ่งผู้นำเผด็จการเองก็มักนิยมในการปลูกระดมแนวคิดแบบนี้ให้ประชาชนเคารพเทิดทูนโดยไม่ตั้งคำถาม ฉะนั้นจากแนวคิดอคติลำเอียงและความกลัวผิดบาป จึงอธิบายได้ว่าทำไมเมื่อมีดราม่าในวงการสงฆ์เราจึงพบเห็นสาวกที่ยังศรัทธาพร้อมที่จะช่วยเหลือ ปกปิด หรือเห็นดีเห็นงามด้วยแม้เรื่องนั้นจะเข้าข่ายฉ้อโกงหรือผิดกฎหมายมาตราอื่นๆ ร่วมด้วยก็ตาม

จากปัญหาที่ได้เล่ามาจะพบได้ว่าการกระทำของสาวกเหล่านี้ แม้อาจจะทำไปด้วยจิตศรัทธาด้วยความเข้าใจผิดว่ากำลังทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชน แต่ก็กลายเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการทุจริตในวงการสงฆ์ขึ้น (และยังรวมถึงผิดกฎหมายด้วย) เพื่อเป็นการป้องกันพุทธศาสนิกชนควรตระหนักระลึกถึงคำสอนจากพระพุทธเจ้าให้ดี โดยผู้เขียนได้ขอหยิบคำสอนที่เกี่ยวข้องบางส่วนมาดังนี้

“ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา”

(พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค)

จากประโยคที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวแปลความได้อย่างชัดเจนว่าสำหรับศาสนาพุทธแล้ว ไม่เคยได้สอนให้นับถือบูชาใน “ตัวบุคคล” อย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นพระพุทธเจ้าเองก็ตาม แต่ควรยึดถือคำสอนระลึกเอาธรรมะเป็นหลัก และยังรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ตามในพุทธศาสนสุภาษิต

นิธีนํว ปวตฺตารํ ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ

นิคฺคยฺหวาที เมธาวี ตาทิสํ ปญฺฑิตํ ภเช

ตาทิสํ ภชมานสฺส เสยฺโย โหติ น ปาปิโย ฯ

ผู้ฉลาด ควรเห็นว่า ผู้ที่ชี้โทษตักเตือน ในเมื่อเห็นความผิด,

กล่าวปรามให้เว้นความชั่ว, เป็นผู้มีปัญญาดี,นั้นเป็นเสมือน

ผู้บอกขุมทรัพย์ให้ และควรคบบัณฑิตเช่นนั้น

เพราะเมื่อคบอยู่มีแต่ทางดี ไม่มีทางเสียเลย

ในพุทธศาสนสุภาษิตเองพระพุทธเจ้ายังเปรียบผู้ตักเตือนเมื่อเห็นความผิดเป็นดั่งผู้บอกขุมทรัพย์ นั่นรวมไปถึงการตักเตือนพระภิกษุด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการว่ากล่าวตักเตือนพระภิกษุที่ทำผิด จึงไม่ใช่เรื่องผิดบาปอย่างที่เราโดนฝังหัวกันมานาน

เรื่องสุดท้ายที่จะพูดถึงคือเรื่องมุมมองความเชื่อว่าผู้สวมจีวรหรือห่มขาวต้องเป็นคนดีเสมอ ทุกคนต้องอย่าลืมว่าแม้แต่ในพุทธกาลเองยังมี “พระเทวทัต” ผู้ตามจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้าเรื่อยมา เขาได้กระทำความผิดมากมายทั้ง พูดยุแหย่พระสงฆ์ให้แตกคอ, ยุแยงให้ลูกชายก่อกบฏสังหารบิดา และ พยายามปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า ความผิดบาปเหล่านี้พระเทวทัตได้ก่อขึ้นในขณะที่มีสถานะออกบวชอยู่ และสุดท้ายตามในเรื่องพระเทวทัตก็ถูกธรณีสูบทั้งที่ยังห่มจีวรเสียด้วยซ้ำ สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดว่าแค่เพียงการออกบวชมาอยู่ใต้ร่มศาสนา ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะเป็นคนดีถูกต้องเสมอไป ซึ่งควรเป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบป้องกันไม่ให้ “มารในคราบผ้าเหลือง” ได้เข้ามากัดกินทำลายศาสนา หากเอาแต่ปล่อยเฉยหลับตากราบไหว้กัน ต่อไปนี้เราคงจะได้เห็นข่าวการทุจริตของพระสงฆ์บั่นทอนความศรัทธาของคนทั่วไปอยู่ตลอดแม้จะเป็นอนาคตข้างหน้าก็ตาม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:23 น. รวบเขมรลอบเข้าเมือง! ซิมเถื่อน200เบอร์-เงินแสนในมือ คาดโยงแก๊งอาชญากรข้ามชาติ!
22:45 น. เปิดละเอียดยิบ 12 ข้อกังขาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘กมธ.กาสิโนสว.’ส่งหนังสือถาม‘นายกฯ’
22:36 น. จยย.เฉี่ยวรถยนต์ ร่างลอยกระแทกขอบปูนหมดสติ ยื้อไม่ไหวเสียชีวิต
22:25 น. โค้งสุดท้ายหนุ่มอุ้มไหแห่นาค ไหว้ท้าวเวสสุวรรณขอเลขก่อนเข้าโบสถ์บวชพระ
22:16 น. จนท.คุมเพลิงได้แล้ว ไฟไหม้โรงงานสระบุรี พบเสียชีวิตพุ่ง8ศพ-สูญหาย2
ดูทั้งหมด
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
'ปานเทพ' พอใจภาพรวมชุมนุม 28 มิ.ย. เผยยอดเงินหนุน 'มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน' 24 ล้านแล้ว
ดูทั้งหมด
วิกฤตกัญชาในพายุการเมือง
ขำกันหลังวันม็อบ
กูไม่ออก?
รัฐบาลแพทองธารปรับครม.ไม่ได้ เพราะคดีร้ายแรง
ถ้าไม่มีนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ประเทศไทยดีกว่านี้
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รวบเขมรลอบเข้าเมือง! ซิมเถื่อน200เบอร์-เงินแสนในมือ คาดโยงแก๊งอาชญากรข้ามชาติ!

ศาลสั่งคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา 2 ผู้ต้องหาแก๊งเถื่อน ลอบขุดดิน‘ร่อนทอง’อุทยานฯทองผาภูมิ

ล่าตัวลูกชายโหด! โมโหแทนแม่ ยิงเจ้าหนี้ทวงเงินหน้าบ้าน

จยย.เฉี่ยวรถยนต์ ร่างลอยกระแทกขอบปูนหมดสติ ยื้อไม่ไหวเสียชีวิต

แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน

(คลิป) จับตา! 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ 'อุ๊งอิ๊งค์' พ้นเก้าอี้ 'นายกฯ'

  • Breaking News
  • รวบเขมรลอบเข้าเมือง! ซิมเถื่อน200เบอร์-เงินแสนในมือ คาดโยงแก๊งอาชญากรข้ามชาติ! รวบเขมรลอบเข้าเมือง! ซิมเถื่อน200เบอร์-เงินแสนในมือ คาดโยงแก๊งอาชญากรข้ามชาติ!
  • เปิดละเอียดยิบ 12 ข้อกังขาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘กมธ.กาสิโนสว.’ส่งหนังสือถาม‘นายกฯ’ เปิดละเอียดยิบ 12 ข้อกังขาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘กมธ.กาสิโนสว.’ส่งหนังสือถาม‘นายกฯ’
  • จยย.เฉี่ยวรถยนต์ ร่างลอยกระแทกขอบปูนหมดสติ ยื้อไม่ไหวเสียชีวิต จยย.เฉี่ยวรถยนต์ ร่างลอยกระแทกขอบปูนหมดสติ ยื้อไม่ไหวเสียชีวิต
  • โค้งสุดท้ายหนุ่มอุ้มไหแห่นาค ไหว้ท้าวเวสสุวรรณขอเลขก่อนเข้าโบสถ์บวชพระ โค้งสุดท้ายหนุ่มอุ้มไหแห่นาค ไหว้ท้าวเวสสุวรรณขอเลขก่อนเข้าโบสถ์บวชพระ
  • จนท.คุมเพลิงได้แล้ว ไฟไหม้โรงงานสระบุรี พบเสียชีวิตพุ่ง8ศพ-สูญหาย2 จนท.คุมเพลิงได้แล้ว ไฟไหม้โรงงานสระบุรี พบเสียชีวิตพุ่ง8ศพ-สูญหาย2
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อความผิดถูกปกปิดด้วยผ้าเหลือง

เมื่อความผิดถูกปกปิดด้วยผ้าเหลือง

24 พ.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved