nn พายุใหญ่ชื่อ “ปาบึก” ผ่านไปแล้วบ้านเรือนพี่น้องชาวใต้พังระเนระนาดซึ่งต้องซ่อมแซมกันสักพักก็คงจะฟื้นคืนกลับมาได้ดังเดิม....แต่พายุใหญ่ลูกใหม่กำลังจะพัดเข้าถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมเหล็กของไทย... ซึ่งอันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้หรือไม่...
เรื่องของเรื่องก็คือ...คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง....ที่มีรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน...กำลังจะยุติการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้า (เซฟการ์ด)เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดม้วนและไม่เป็นม้วน...
ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการเซฟการ์ดสินค้าเหล็กฯในปี 2557-2560 เพื่อเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการนำเข้าสินค้าเหล็กฯจากหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี อียิปต์ ฯลฯ...จนทำให้ผู้ผลิตในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก และส่อว่าจะเกิดความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ....และมีความเห็นว่าควรจะขยายเวลาการใช้มาตรการออกไปอีก 3 ปี (2560-2563 ) เพื่อให้อุตสาหกรรมในประเทศได้มีการปรับตัว...
ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ไทยจะต้องประกาศขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการ...ซึ่งคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง ก็ได้ทำข้อสรุปเตรียมที่จะเสนอคณะกรรมการสมควรจะมีการขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการต่อไป...เนื่องจากเห็นว่าอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศยังอ่อนแอ....
แต่ในการประชุมคณะกรรมการครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา....ต้องบอกว่ามีอะไรแปลกๆ ให้ชวนกังขาอยู่เหมือนกัน....ซึ่งแต่เดิมนั้นคณะกรรมการนัดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะอนุกรรมการในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา...แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด ประธานคณะกรรมการสั่งเลื่อนการประชุมกะทันหัน...ก่อนที่จะมีการประชุมเพียงไม่กี่ชั่วโมง...แล้วก็มีการแก้ไขเอกสารการประชุมใหม่....เนื้อหาที่แก้ไขนั้น สาระสำคัญอันน่าตกใจก็คือหาเหตุผลมาหักล้างข้อเสนอของคณะอนุกรรมการ...แล้วก็นัดประชุมใหม่ในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา...
ทันทีที่เปิดเวทีการประชุมซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง...ประธานก็เปิดประเด็นเลยว่า...มีความจำเป็นอีกหรือที่ต้องขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการ เพราะเห็นว่าผู้ผลิตเหล็กในประเทศดีขึ้นแล้ว...และถ้าขืนขยายเวลาออกไป เกรงว่าจะถูกผู้ผลิตเหล็กต่างประเทศตอบโต้เอาได้....
โถๆ..ท่านประธานครับ...ไปฟังข้อเสนอจากที่ปรึกษาคนไหนมาล่ะครับ...!! ประเทศไทยใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆชนิดม้วนและไม่เป็นม้วน...ปีละ 8 ล้านตัน...มีการนำเข้า 5 ล้านตัน..ผู้ผลิตของไทย 2 รายใหญ่...ผลิตได้แค่รายละล้านกว่าตัน....!! มันดีขึ้นตรงไหนกัน????
และทุกประเทศในโลกนี้ที่มีอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ...เขาก็ประกาศใช้มาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศกันทั้งนั้น...รุนแรงกว่าไทยมากด้วย..แล้วที่บอกว่ากลัว....เกาหลี....ตุรกี...อียิปต์...จีน...จะตอบโต้ทางการค้าสินค้าส่งออกของไทย....เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เส้นใยประดิษฐ์ ฯลฯ....ลองไปเช็คดูสิว่าคนส่งออกสินค้าพวกนี้เป็นบริษัทของคนไทยหรือเปล่า...หรือเป็นบริษัทจากเกาหลี ไต้หวัน...ที่เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย....!! แต่ที่แน่ๆ อุตสาหกรรมเหล็กของไทยที่กำลังจะพินาศไปด้วยน้ำมือ
ของท่าน....คนไทยทั้งนั้น...คนไทยต้องตกงานอีกกี่แสนคน...และที่ต้องบอกว่าอีกอย่าง...คือแบงก์กรุงไทย แบงก์ไทยพาณิชย์...ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ ผลิตเหล็กรายใหญ่ของไทย....คงจะกระอักเป็นเลือดแน่ๆ....หนี้ที่มีอยู่ 6 หมื่นล้านบาท จะได้คืนภายในชาติไหน...(เสียดายเนื้อที่หมด...มาว่ากันต่อพรุ่งนี้ใน “โลกการค้า” ครับ)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี