วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
หลายปัจจัยลบกดGDPต่ำกว่าเป้า คลังอยากได้กระสุนเพิ่ม....ธปท.ต้องการความยั่งยืน

ดูทั้งหมด

  •  

nn สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง...ได้ปรับลดประมาณการ การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) ไทยปี 2567 ลงเหลือขยายตัว 2.4% (ช่วงคาดการณ์ที่ 1.9-2.9%) จากประมาณการเมื่อเดือนมกราคมที่ 2.8% ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่จะรั้งท้ายเพื่อนบ้านในอาเซียน และปัจจัยที่ทำให้ สศค. ต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงมาจาก การส่งออกสินค้าที่หดตัวมากกว่าที่คาดการณ์โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 โดยตัวเลขทั้งปีน่าจะขยายตัวได้เพียง 1.8-2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 4-5% ซึ่งการส่งออกที่ลดลงยังส่งผลต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัว ซึ่งสะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index : MPI) โดยเฉพาะสินค้าในหมวดยานยนต์และหมวดชิ้นส่วนและแผงวงจร
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ขณะที่ผลผลิตภาคการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้เกิดภาวะฝนแล้ง และฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ส่วนภาคการคลังก็มีเม็ดเงินออกมาน้อย เพราะยังคงใช้การเบิกจ่ายตามงบประมาณตามปี 2566 ไปพลางก่อน

ทั้งนี้ อัตราขยายตัวที่ 2.4% สศค.มองว่าสูงขึ้นจากปี 2566 ที่ขยายตัว 1.9% โดย สศค.คาดว่ายังได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นสำคัญ รวมถึงบทบาทสนับสนุนของนโยบายการคลังในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดย สศค. คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะอยู่ที่35.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.7% ต่อปี นับว่ายังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิดเมื่อปี 2562 ที่ 39.9 ล้านคน


อย่างไรก็ตาม ตัวเลขประมาณการล่าสุดนี้ยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวได้ 1.7-1.8% และเหตุที่ยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เข้าไป เนื่องจากต้องการใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงแล้ว นอกจากนี้ประมาณการล่าสุดก็ยังไม่รวมเม็ดเงินจากโครงการเติมเงิน10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ด้วย โดย สศค. คาดว่า หากสามารถเริ่มมีการใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นที่ 3.3% ต่อปี (กรณีประชาชนใช้จ่ายเม็ดเงินส่วนใหญ่ภายในสิ้นปี 2567)

นอกจากนี้ สศค.ยังระบุอีกว่าประมาณการGDP มีความไม่แน่นอนสูง เพราะต้องติดตามปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่างๆ ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นข้อจำกัดและส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น หรือการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลักและปัญหาสถาบันการเงินในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนเรียกร้องว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อ่อนแรง จึงอยากจะเห็นมาตรการทางการคลังที่มีผล(Effective) รวดเร็วกว่านโยบายการเงินที่กว่าจะเห็นผลก็อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งทาง สศค.ก็ได้ชี้แจงว่าทางกระทรวงการคลังจะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 นอกจากนี้ปัจจุบันก็ยังมีมาตรการทางการคลังอื่นๆ เช่น ทางภาษีและการลดหย่อนภาษีหลายมาตรการที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีมาตรการใหม่อื่นๆ ยกเว้น “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและหนุน GDP ให้เพิ่มขึ้นที่ 3.3% ต่อปี และ สศค.ก็ยังย้ำอีกว่า “กระสุนการคลังมีอยู่เท่านี้ และหากใช้มาตรการภาษีเพิ่มเติม มากกว่านี้ ก็จะไปส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ด้วย

“คาดว่าในครึ่งหลังของปี คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจาก
ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐได้ทยอยปรับลดดอกเบี้ย MRR ลงไปแล้ว นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆโดยเฉพาะในภาคส่งออกและภาคอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะช่วยเป็นหลักฐานให้ กนง. ประกอบการตัดสินใจ”พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าว

ดูเหมือนคำกล่าวทิ้งท้ายของ ผอ.สศค.จะเป็นแรงกดดันเล็กๆ ที่ส่งจากกระทรวงการคลังไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ขณะเดียวกันท่าทีของ ธปท.ล่าสุด จากคำให้สัมภาษณ์ของ คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Street Signs Asia” ของสำนักข่าว CNBC เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา...ดูเหมือนว่า ธปท.ก็ยังให้ความสำคัญกับปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยเป็นหลักโดยเขาได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเป็นระดับที่สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้ว และสอดคล้องกับความพยายามที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องรักษาสมดุลไม่เพิ่มภาระให้ครัวเรือนมากจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามไม่ให้ประชาชนก่อหนี้ใหม่มากจนเกินไปด้วย โดย ธปท. ประเมินว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 2.6% และปีหน้าขยายตัวได้ 3.0% โดยยังคงได้แรงหนุนสำคัญจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอ่อนแรงในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ แต่มองว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นและกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ระหว่าง 1-3% ภายในสิ้นปีนี้ และอยากให้เน้นการลงทุนของภาครัฐให้มากขึ้น มากกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น

“ปัญหาเชิงโครงสร้างทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอน โดยจำเป็นต้องมีการเพิ่มผลิตภาพในขณะที่ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและประชากรวัยทำงานหดตัวลง ขณะเดียวกันก็ควรจะต้องลดและผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึงเรื่องความยากง่ายในการประกอบธุรกิจด้วย”คุณเศรษฐพุฒิ กล่าว

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:25 น. ธรรมนัส สั่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าไข่ไก่ แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ
14:24 น. ‘อุ้ม-ตัง-มุ้ย’มาแล้ว!‘จู๊ดเบลล์’ประเดิมช้างศึกแบโผแข้งชี้ชะตาเอเชียนคัพ
14:21 น. นายกฯลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า 'บิ๊กต่าย' แถมมี 'สมอลหนู' คอยดู ท้าผู้หวังดีบอกชื่อจริง อย่าเผยแค่ตัวย่อ
14:15 น. ‘สหมงคลฟิล์มฯ’ คอนเฟิร์ม ‘เสือ’ ได้ไปต่อ!ขยาย ‘จักรวาลเสือ’
14:13 น. ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ไปปีหน้า คดีหวย ‘หงษ์ทอง’ ขายเกินราคา เหตุจำเลยยังไม่ทราบนัด
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 2-8 พ.ย.68
โป๊ะแตก!!! 'นักเขียนดัง' แฉเบื้องหลัง 'นิสิตจุฬาฯ' ชูป้ายด่า'อภิสิทธิ์'
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
'โบว์ ณัฏฐา'โพสต์'อภิสิทธิ์'ตอบชัดทุกปม ซัดนิสิตจุฬาฯการรับฟังแย่มาก
ดูทั้งหมด
เชื่อข้อมูลปั่นจนหยามหมิ่น
‘หนู-อนุทิน’คำรามอย่าง‘ราชสีห์’
สนามการเมืองไทยจะคึกคักอย่างมีสาระเนื้อหาหรือไม่?
จองเวร?
เดินหมากทีละตา ลำดับความสำคัญ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘อุ้ม-ตัง-มุ้ย’มาแล้ว!‘จู๊ดเบลล์’ประเดิมช้างศึกแบโผแข้งชี้ชะตาเอเชียนคัพ

มาเลเซียจับตัวแร็ปเปอร์ดัง'เนมวี' เอี่ยวคดีอินฟลูฯสาวไต้หวันดับคาอ่างโรงแรม

'เจิมศักดิ์'โพสต์คลิปย้อนเหตุการณ์'นปช.เผาบ้านเผาเมือง' เปิดกะโหลกนิสิตจุฬาฯไม่รู้ความ

'กัมพูชา'แถลงเดือด! อ้างไทยขู่ยึดปราสาทตาควายโดยกำลังทหาร ลั่นสูญเสียความไว้วางใจแล้ว

'บิ๊กต่าย'ขอก้มหน้าก้มตาทำงาน พร้อมโต้กลับ'ให้สำนึกบุญคุณ อย่าทำร้ายบ้านตัวเอง'

เขมรขาดอาหารลอบสั่งไส้กรอก ลูกชิ้น 3 กระสอบจากไทยซุกป่าอ้อย เตรียมลอบนำข้ามแดน

  • Breaking News
  • ธรรมนัส สั่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าไข่ไก่ แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ ธรรมนัส สั่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าไข่ไก่ แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ
  • ‘อุ้ม-ตัง-มุ้ย’มาแล้ว!‘จู๊ดเบลล์’ประเดิมช้างศึกแบโผแข้งชี้ชะตาเอเชียนคัพ ‘อุ้ม-ตัง-มุ้ย’มาแล้ว!‘จู๊ดเบลล์’ประเดิมช้างศึกแบโผแข้งชี้ชะตาเอเชียนคัพ
  • นายกฯลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า \'บิ๊กต่าย\' แถมมี \'สมอลหนู\' คอยดู ท้าผู้หวังดีบอกชื่อจริง อย่าเผยแค่ตัวย่อ นายกฯลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า 'บิ๊กต่าย' แถมมี 'สมอลหนู' คอยดู ท้าผู้หวังดีบอกชื่อจริง อย่าเผยแค่ตัวย่อ
  • ‘สหมงคลฟิล์มฯ’ คอนเฟิร์ม ‘เสือ’ ได้ไปต่อ!ขยาย ‘จักรวาลเสือ’ ‘สหมงคลฟิล์มฯ’ คอนเฟิร์ม ‘เสือ’ ได้ไปต่อ!ขยาย ‘จักรวาลเสือ’
  • ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ไปปีหน้า คดีหวย ‘หงษ์ทอง’ ขายเกินราคา เหตุจำเลยยังไม่ทราบนัด ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ไปปีหน้า คดีหวย ‘หงษ์ทอง’ ขายเกินราคา เหตุจำเลยยังไม่ทราบนัด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

5 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

29 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

22 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

15 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

8 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

1 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

หมุนตามทุน : สแกน 3 ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ‘ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.’

24 ก.ย. 2568

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

หมุนตามทุน : เครือซีพีผนึกกำลัง..สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

17 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved