ทุกวันนี้มีคำถามส่งเข้ามาทาง Messages ของเพจ THE MONEY COACH อยู่ทุกวัน วันหนึ่งเป็นร้อยคำถาม
แม้จะตอบช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งเป็นปณิธานตัวเองอยู่เสมอก็คือ ตั้งใจและใส่ใจตอบทุกคำถาม ไม่ใช่ตอบแบบส่งๆ หรือตอบแบบขอไปที
ทั้งนี้เพราะ 70% ของคำถามเป็นเรื่องหนี้ ซึ่งผมเข้าใจดีว่า มันต้องอยู่ในสถานการณ์ที่หนักมาก คนเราถึงเริ่มคิดที่จะสอบถามเพื่อหาทางออกจากคนอื่น เพราะเงินเป็นเรื่องที่เราไม่อยากพูดคุยกับใคร
ทั้งนี้ทุกคนที่ถามเข้ามา ผมจะแนะนำให้เราเริ่มต้นคุยกันด้วย งบการเงิน 2 รายการ นั่นก็คือ งบรายรับรายจ่าย และรายการทรัพย์สินหนี้สิน
ทำไม? ...
เพราะหัวใจของการแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยความรู้ทางการเงิน ต้องเริ่มต้นจากการเห็นสถานะทางการเงินที่แท้จริงของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และถ้าจะให้ผมช่วย อยากให้ผมแนะนำ ผมก็ต้องเห็นข้อมูลนี้ก่อนเช่นกัน
เมื่อเห็นข้อมูลเราจะได้คุยกันต่อ ตามแนวทางแก้ไขหนี้เบื้องต้นอันได้แก่ ลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้
และหากคุณเป็นคนที่มุ่งมั่นถึงการจะเปลี่ยนชีวิต ผมก็จะสอนและคุยกันถึงเรื่องของการ “สร้างทรัพย์สิน” ในระหว่างที่เป็นหนี้ไปด้วยเลย
ซึ่งทั้งหมด ผมจะพยายามให้ผู้ถามคำถามมีส่วนร่วมในการคิด ไม่ใช่ให้ผมหาคำตอบให้อยู่ฝ่ายเดียว
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ชอบ และไม่ค่อยแนะนำ ในการแก้ไขปัญหาหนี้ก็คือ การสู้ด้วยแนวคิดด้านกฎหมายเพียงอย่างเดียว ดังคำถามต่อไปนี้
- หนี้แบบนี้ มีอายุความมั้ย ถ้าเราหนีจนสิ้นสุดอายุความจะได้หรือเปล่า
- เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยแพงเกินกฎหมายกำหนด อย่างนี้เราเอาผิดเขาได้มั้ย หรือ
- ที่จริงยืมมา ก็ไม่ได้ทำสัญญากันไว้ แบบนี้ถือว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดเราใช่หรือเปล่า (อันนี้กรณียืมเพื่อนเลยทีเดียว) ฯลฯ
วิธีการคิดหาทางแก้ไขหนี้ด้วยแนวทางแบบนี้ ในมุมมองของผมถือว่าใช้ไม่ได้ และเป็นคนไร้ความรับผิดชอบทางการเงินอย่างมาก
ก่อนยืมเงินเขา คุณก็ทราบเงื่อนไขทุกอย่าง ต่อให้เงื่อนไขเขาไม่เป็นไปตามกฎหมาย แต่ก็เป็นคุณเองไม่ใช่หรือ ที่รับทุกเงื่อนไขเวลาต้องการได้เงินเขา
ดอกเบี้ยแพงเท่าไหร่ ก็ไม่เกี่ยง ข้อกำหนดโหดร้ายแค่ไหน ก็รับได้
แล้วทำไมพอถึงเวลาใช้คืน กลับกลายเป็นคนผิดคำพูด ผิดคำสัญญา แล้วหยิบเอาประเด็นทางกฎหมายมาเล่นงานเจ้าหนี้หละ
ที่พูดแบบนี้ ผมไม่ได้อยู่ข้างเจ้าหนี้นะครับ แต่ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ยืมเงินเขามาก็ต้องคืน สัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น
และนี่จึงเป็นเหตุผลส่วนตัว ที่ผมเลือกใช้แนวคิดแก้ปัญหาทางการเงิน ด้วยความรู้ทางการเงิน ซึ่งผมใช้แล้วได้ผล แก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จและบูรณาการ เพราะ
- เราเลือกยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ไม่โทษคนอื่น และการยืนยันสู้บนกติกาที่มีอยู่เดิม หรือการพยายามเจรจา จะทำให้วิธีคิดของคุณต่อปัญหาเปลี่ยนไปในทางบวก
- เมื่อคุณแสดงความรับผิดชอบทางการเงิน การเรียนรู้ทางการเงินของคุณจะเริ่มต้นขึ้น ความบาดเจ็บ ความทุกข์ที่เกิดจากหนี้ จะบ่มเพาะคุณให้เข้าใจถึงผลเสีย และทำให้คุณได้เรียนรู้จากสิ่งที่ตัดสินใจทำไปในอดีต ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้เข้าใจ และรู้จักกับหนี้มากขึ้น ไม่ใช่เกลียดมัน และใช้ประโยชน์จากมันไม่เป็นในอนาคต
- เมื่อคุณคุยเรื่องการแก้ไขปัญหากับผม โดยใช้ความรู้ทางการเงิน คุณจะเก่งเรื่องเงินมากขึ้น ลูกศิษย์ผมหลายคน เมื่อแก้หนี้ด้วยความรู้ทางการเงิน พวกเขาก็เก่งเรื่องเงินมากขึ้น และมีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้น
ทั้งหมดคือ กลไกที่ผมเชื่อและยืนยันว่าแก้ปัญหาได้จริง
หนี้บนโลกนี้ มีทั้งหนี้จน และหนี้รวย คนที่เกิดปัญหา คือ คนที่พลาดไปพบกับหนี้จน และทำให้ชีวิตมีปัญหา
ดังนั้น ถ้าคิดจะแก้ปัญหา ขอให้เริ่มจากการเรียนรู้เรื่องการเงิน อดทนทำความเข้าใจกับความผิดพลาดตัวเอง ดีกว่าเริ่มต้นโดยการโทษคนอื่นเพราะวิถีทางนั้น ไม่ทำให้คุณฉลาดทางการเงินขึ้นเลย
และจงรู้ไว้ว่า ... เงินจะอยู่กับคนที่มีความฉลาดทางการเงินเท่านั้น
ใครไม่ชอบแนวทางนี้ ไม่ต้องส่งคำถามมานะครับ เพราะผมคงช่วยท่านไม่ได้ ลองคุยกับคนที่แนวคิดตรงกับท่านน่าจะดีกว่าครับ
---------------------------------------------------
ฟรี! เรียนรู้แนวทางการเปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพทางการเงิน จากหนังสือเสียง ได้ที่นี่ https://goo.gl/EQHoXT
---------------------------------------------------
หรือ ฟรี! ศึกษาแนวทางเปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพทางการเงินได้จากวีดีโอนี้ https://youtu.be/eDvE0vYun6E
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี