สำนักวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้วิเคราะห์หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หรือ MAJOR เราคาด MAJOR จะมีกำไรสุทธิ 2Q22F ที่ 137 ล้านบาท เทียบกับ 2Q21 มีผลขาดทุน-218 ล้านบาทและ 1Q22 ที่กำไรสุทธิ 24 ล้านบาท (หากไม่รวมรายการพิเศษรับเงินประกันจากไฟไหม้สาขา สุขุมวิท-เอกมัย ใน 2Q22F 70 ล้านบาท บริษัทจะมีกำไรจากธุรกิจหลัก 67 ล้านบาท เทียบกับ 2Q21 ที่ขาดทุน 183 ล้านบาท และเทียบกับ 1Q21 ที่หากไม่รวมบันทึกกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่าสาขาสุขุมวิท แคราย แจ้งวัฒนะ จะขาดทุนธุรกิจหลัก 111 ล้านบาท) คาดรายได้รวม 2Q22F อยู่ที่ 1,589 ล้านบาท (+264%YoY, +41%QoQ) มาจากรายได้ตั๋วหนังจากเรื่อง Doctor Strange 230 ล้านบาท, Jurassic World 160 ล้านบาท, Fantastic Beasts 80 ล้านบาท, Top Gun 77 ล้านบาท, แดงพระโขนง 40 ล้านบาท ด้านรายได้ธุรกิจ snackPopcorn มียอดขายเพิ่มขึ้น 200%YoY ได้รับการตอบรับดีจากการยอดขายผ่าน delivery ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามรายได้หนังและ Popcorn ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 2% และมีอัตรากำไรสุทธิ 9%
คาดรายได้หนังกลับมา
เรายังประมาณการเดิมคาดผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก จากหนังใหญ่ที่เข้าฉายหลายเรื่อง รอบฉายหนังกลับมาปกตินั่งได้ 100% และการเปิดฉายรอบต่อโรงเพิ่มเป็น 6-7 รอบจากเดิมช่วงโควิด 5 รอบต่อโรง โดยใน 3Q22F หนังไทยเรื่องเด่น “บุพเพสันนิวาส 2” เปิดตัว 28 กรกฎาคม 2565 รายได้ 3 วันแรก ทำเงินกว่า 134 ล้านบาท ได้รับกระแสการตอบรับดีทำสถิติหนังไทยเรื่องแรกในปีนี้สำหรับใน 3Q22F บริษัทจะบันทึกรายการพิเศษ 2 รายการ คือ กำไรจากการขายหุ้นไทยทิคเก็ต เมเจอร์ 123 ล้านบาทก่อนภาษี และบันทึกตั้งด้อยค่าของ MJLF ที่บริษัทถือหุ้น 33% จากการที่บริษัทคาดว่าจะได้รับส่วนลดจากทาง MJLF คาดจะรู้ผลใน 3Q22F ซึ่ง MJLF ยังมีระยะเวลาสัญญาเช่าที่ดินเหลืออีก 45 ปีเรายังคงประมาณการเดิม สำหรับหนังใหญ่ที่จะเข้าฉายครึ่งปีหลังได้แก่Avatar 2, Black Panther, Thor, Black Adam, Shazam, Minions และหนังไทยอีกหลายเรื่อง เราคาดกำไรสุทธิปี 2022F อยู่ที่ 528 ล้านบาท คาดรายได้ปี 2022F จะเพิ่มขึ้น 134% จากคาดสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายหนังฟอร์มใหญ่พร้อมเข้าฉาย
ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลายไม่มีการล็อกดาวน์ ประกอบการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ที่เข้มงวดช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ชมและค่ายหนังใหญ่และหนังไทยเริ่มกลับมาฉายได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 25.5 บาท
ความเสี่ยง : 1) เศรษฐกิจซบเซา 2) การล็อกดาวน์จากสถานการณ์ COVID-19 หากรุนแรงขึ้น
ที่มา : สำนักวิจัยบล.ทิสโก้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี