วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn สภาพของอุตสาหกรรมยาสูบไทยตอนนี้ต้องบอกว่ายังต้องดิ้นรนกันสุดๆ...โดยธรรมชาติ (แบบปกติ) ของตลาดปริมาณการบริโภคบุหรี่จะลดลงอยู่แล้ว 10%ต่อปี...และตลาดยาสูบของไทยปัจจุบันก็ไม่ปกติเสียด้วยสิ...เพราะโดนแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก“บุหรี่เถื่อน” ที่ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 25%...ซ้ำยังโดนซ้ำเติมจาก“บุหรี่ไฟฟ้า” ที่เข้ามาโดดร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดด้วย...ตอนนี้ก็เลยทำให้ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ผลิตบุหรี่ได้เพียงปีละหมื่นกว่าล้านมวนเท่านั้น...ทั้งที่เครื่องจักรของโรงงานยาสูบมีศักยภาพการผลิตได้สูงถึงกว่า 3 หมื่นล้านมวนต่อปี....!! แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่า คุณภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งามผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย...จะมองเห็นทางออกของชีวิตการยาสูบฯแล้ว...จึงได้ประกาศรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ 2 สายพันธุ์จากชาวไร่แบบไม่อั้น...คือสายพันธุ์ “เตอร์กิช และ เบอร์เลย์”...ซ้ำชาวไร่รายไหนดูแลการผลิตได้ดีจนทำให้มีปริมาณมากกว่าที่แจ้งยื่นโควตาไว้...ในส่วนเกินนี้การยาสูบฯก็จะรับซื้อในราคาที่เพิ่มขึ้นอีก 10% ด้วย...!! ทางออกที่ท่านผู้ว่าการฯมองเห็นก็คือ เร่งเพิ่มบทบาทของการยาสูบฯในฐานะผู้ค้าใบยาสูบให้มากขึ้น...ซึ่งปีก่อนก็ทำเงินได้ 300-400 ล้านบาท...แล้วด้วยภาวะตลาดใบยาสูบโลกที่เจอกันผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมที่แย่ลงทำให้ปริมาณผลผลิตโลกลดลงทำให้ความต้องการในตลาดจึงเพิ่มสูงขึ้น...ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้ก็จะกินเวลาต่อเนื่องไปอีกถึง 3-4 ปี ...นอกจากนี้คุณภูมิจิตต์..ยังเร่งพัฒนาคุณภาพบุหรี่ของ ยสท.ให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศมากขึ้น...เช่น มีการลงนามใน MOU กับการยาสูบของจีน...ผลิตบุหรี่แบรนด์ “Thai Touch” ซึ่งมีรสชาติที่ตรงใจกับลูกค้าชาวจีน...ที่ชอบบุหรี่ที่นิโคตินต่ำๆ แต่มีความหอมและรสชาติหวานๆ หน่อย..ตามลักษณะของใบยาสูบสายพันธุ์“เวอร์จิเนีย”...ไม่เพียงเท่านั้นตอนนี้ฝ่ายวิจัยของ ยสท. ก็ได้รับมอบนโยบายจากผู้ว่าการฯว่าให้ลองคิดผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่มาจากใบยาสูบที่ไม่ใช่บุหรี่...ซึ่งตอนนี้ก็มีออกมาแล้วทั้งน้ำหอม...ครีมล้างมือ...อโรม่า...ซึ่งที่กำลังจะตามออกมาอีกก็คือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอาง...!! แต่ก็อย่างที่บอกครับว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของช่องทางหารายได้ใหม่ๆ ของ ยสท...ซึ่งจริงๆ แล้ว ยสท.ก็ยังมีช่องทางอื่นๆ อีกที่จะหารายได้ได้มากกว่านี้เช่น...เปิดโอกาสให้โรงงานยาสูบสามารถรับจ้างผลิตบุหรี่ได้มากกว่านี้จากเดิมที่กำหนดว่ารับจ้างผลิตได้เฉพาะที่ส่งออกเท่านั้น...หากแก้กฎหมายว่าให้ ยสท.สามารถรับจ้างผลิตได้แม้จะขายในประเทศ...ลูกค้าวิ่งเข้ามาอีกบานเลย...กำลังการผลิตที่เหลือกว่า 1.5 หมื่นล้านมวนต่อปี...ก็จะกลับมาสร้างรายได้ให้ยสท.มากมายมหาศาล...ที่สำคัญคนที่จะได้ประโยชน์ตามมาคือ..เกษตรกรชาวยาสูบ...เพราะความต้องการใบยาสูบในประเทศก็จะเพิ่มแน่นอน...ถึงตรงนี้มองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม...คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง...ในฐานะกำกับการยาสูบฯ...จึงจะไม่ควรช่วยผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายการยาสูบฯ...เพราะสุดท้ายแล้วชาวไร่ยาสูบก็คือผู้ได้ประโยชน์...ซึ่งชาวไร่ยาสูบทั้งประเทศก็คือฐานเสียงสำคัญของ“พรรคเพื่อไทย”ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์

ลำบากมาก! ชาวอ่างทองเดินลุยน้ำท่วมเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นแมลงวันชุกชุม
'ลุลา กันยารัตน์'ชวนร่วมงาน CONTEMPORARY TALK 'ด้นกลับไป เพื่อใจเติบโต'(ถก เทศน์ ทอล์ค)
'อนุทิน'เปิดเอง! 3 แคนดิเดตนายกฯภูมิใจไทย ควง'เอกนิติ-ศุภจี'ร่วม
ไฟลุก! PROXIE นำทีมคนไทย ชวน 'เชียร์ไทยในบ้านเรา' ปลุกกระแสซีเกมส์ 2025 ให้เป็นตำนาน
ทรงพลัง 'วีนา' ในรอบชุดประจำชาติ Miss Universe 2025 กับชุด 'สุวรรณรากษา พญาพิทักษ์สุวรรณภูมิ'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี