เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 6 ต่อ 3 ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุนเซนเนื่องจากมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่เป็นปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง “ไม่พิทักษ์เกียรติภูมิของชาติ ถือเอาประโยชน์ส่วนตัวในประเทศ” อันทำให้ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี การพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีของเธอ จึงเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งตามไปด้วย
หลังจากนั้น จึงเกิดดีล (Deal) หรือข้อตกลงทางการเมืองอันลือลั่น ระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน ที่เรียกกันว่า MOU หรือ MOA ทางการเมือง มีสาระสำคัญ 5 ประการคือ
1) รัฐบาลที่พรรคภูมิใจไทยจัดตั้ง ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน 2)ต้องทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้รัฐธรรมนูญต้องทำประชามติก่อน 3) ต้องเร่งผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ต้องทำประชามติ 4) พรรคภูมิใจไทยห้ามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก 5) พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน
ปัญหาที่สำคัญ คือ ข้อตกลงทางการเมือง ที่เรียกกันว่า MOU หรือ MOA นี้จะมีผลบังคับใช้กันได้จริงหรือไม่?
MOU และ MOA เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการเจรจาหรือตกลงทางธุรกิจ
MOU มาจากคำว่า Memorandum of Understanding ซึ่งแปลว่า บันทึกความเข้าใจ
MOA มาจากคำว่า Memorandum of Agreement ซึ่งแปลว่า บันทึกความตกลง
เมื่อกล่าวถึง MOU หรือ Memorandum of Understanding บันทึกความเข้าใจ คนทั่วไปจะมีความรู้สึกว่า ไม่เป็นทางการ เป็นเพียงบันทึกความเข้าใจที่ไม่มีผลผูกพัน แต่ความจริงแล้วจะผูกพันกันหรือไม่? ไม่ได้อยู่ที่ชื่อบันทึก แต่อยู่ที่ข้อความที่อยู่ในบันทึก หากมีข้อความ ที่ระบุไว้ถึง สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ของผู้ที่ลงนามทั้งสองฝ่าย ถือเป็นสัญญาประเภทหนึ่ง (แม้จะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม) ผู้ที่ลงนามในบันทึกในสัญญานี้ต้องรับผิดชอบและชดใช้ตามที่ตกลงกัน
ส่วน MOA หรือ Memorandum of Agreementบันทึกความตกลง คนทั่วไปจะรู้สึกว่า เป็นทางการและมีความผูกพันกันมากขึ้น ในระดับที่สูงกว่า MOU แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่เป็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ชื่อบันทึก แต่อยู่ที่ข้อความที่ตกลงกัน หากมีลักษณะครบถ้วนตามสัญญา ในเรื่อง สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ถือเป็นสัญญาประเภทหนึ่งที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
หาก MOU หรือ MOA ทำขึ้นระหว่างเอกชนทั่วไปด้วยกัน จะไม่เกิดปัญหาข้อสงสัย เพราะการจะใช้บังคับกันได้หรือไม่ ต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว แต่เมื่อทำขึ้นระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน 2 พรรค ทำให้เกิดข้อสงสัยทางการเมืองตามมาว่า หากพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการบังคับกันอย่างไร
คำตอบคือ ไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 กำหนดไว้ว่า
ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ และอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดี เกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย หรือร่างกฎหมาย, หน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ, การร้องขอให้เลิกการกระทำล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, คดีที่ประชาชนหรือชุมชนฟ้องหน่วยงานของรัฐเพื่อให้ได้รับประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ, การสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา, การเสนอร่างพระราชบัญญัติ ที่มีหลักการอย่างเดียวกันหรือคล้ายกันกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติที่ต้องยับยั้งไว้, คดีเกี่ยวกับการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
คดีเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา และร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา, คดีเกี่ยวกับการสิ้นสุดของความเป็นรัฐมนตรี, คดีเกี่ยวกับหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา, คดีที่ผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ร้องขอว่า การกระทำนั้นขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ, คดีเกี่ยวกับความเห็นชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม, คดีอื่นที่รัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อ MOU และ MOA ทางการเมือง ไม่สามารถยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ยังสามารถร้องต่อศาลยุติธรรมได้ แต่จะติดปัญหาตรงที่ว่า ศาลยุติธรรมไม่สามารถบังคับคดีให้เป็นไปตามข้อตกลงได้ เพราะเป็นเรื่องทางการเมือง
สิ่งที่ศาลยุติธรรมสามารถกระทำได้คือ พิจารณาในประเด็นเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น จากการไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง ซึ่งจะติดปัญหาที่ตามมาอีกคือ จะพิสูจน์ถึงความเสียหายที่เป็นจำนวนเงินได้น้อยมาก หรืออาจไม่ได้เลย
เมื่อเป็นเช่นนั้น ต้องพิจารณาถึงมาตรการทางสังคม เพื่อใช้บังคับ พรรคการเมืองที่ผิดข้อตกลงทางการเมือง ซึ่งจะกลายเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมด้วย
ดร.รุจิระ บุนนาค
กรรมการผู้จัดการ
Marut Bunnag International Law Office
rujira_bunnag@yahoo.com
Twitter : @RujiraBunnag
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี