วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คำว่า “ปฏิวัติ” คุ้นหูคนไทยมาตั้งแต่ในสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 แล้ว และยิ่งกลายเป็นคำฮิตมากขึ้นเมื่อมีการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังจาก “คณะราษฎร” ยึดอำนาจจากพระมหากษัตริย์ได้สำเร็จแล้วแย่งชิงอำนาจกันเอง
พร้อมกันนั้นข่าวสารการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองในประเทศต่างๆก็หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งล้วนเป็นเรื่องฝ่ายคอมมิวนิสต์ต่อสู้กับฝ่ายครองอำนาจเดิมทั้งสิ้น จึงยิ่งส่งเสริมให้คำนี้ติดปากคนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ หรือสังคมนิยม (ช่วงแรกของระบอบคอมมิวนิสต์)
คำว่า “ปฏิวัติ” มีความหมายว่าการเปลี่ยนแปลงระบอบ (regime) ในด้านการเมือง ในด้านวัฒนธรรมทางการเมือง อุดมการณ์ทางการเมือง เป็นต้น การปฏิวัติจึงไม่ต่างจากการเปลี่ยน “กระบวนทัศน์” ทางการเมือง (political paradigm) ซึ่งเกิดได้ยากกว่ารัฐประหาร
ส่วนคำว่า “รัฐประหาร” มีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงระบอบทางการเมือง (political system) โดยการยึดอำนาจเพื่อเป็นประมุขแห่งรัฐหรือเป็นผู้นำรัฐบาลเท่านั้น เช่นเปลี่ยนจากระบอบประชาธิปไตยเป็นเผด็จการ เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะมีการนิยามหรือให้ความหมายอย่างไร คำทั้ง 2 ก็มีความหมายไม่แตกต่างกันนัก คือ เป็นการเปลี่ยนแปลงด้วยคณะบุคคลที่เป็นผู้นำ แล้วนำระบอบใหม่มาใช้แทนระบอบเก่า และส่วนมากก็ใช้วิธีรุนแรงหรืออาวุธทั้งสิ้น
ตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหาร แม้จะเห็นว่าไม่ได้ใช้กำลังอาวุธ แต่ความจริงนั้นมีการเตรียมพร้อมกำลังทหาร แต่โชคดีที่ไม่มีการต่อต้าน แถมประชาชนโดยทั่วไปยังสนับสนุนอีกด้วย ส่วนการปกครองนั้นย่อมก็เปลี่ยนจากระบอบประชาธิปไตย (มีการเลือกตั้ง) มาเป็นเผด็จการโดยคณะทหาร (แต่การบริหารประเทศก็ยังคงเดิมอย่างที่เคยเป็นมา = ตลาดเสรี)
ไม่ใช่เพียงแต่ในประเทศไทย ในประเทศทั่วโลกก็เหมือนกัน คือ ไม่ว่าใครจะเรียก “การยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง” ว่าอย่างไร ก็ล้วนแต่ใช้วิธีเดียวกัน
การเลือกใช้คำที่แตกต่างกัน มีผลแต่ในทางจิตวิทยาเท่านั้น คือกระตุ้นความรู้สึกและความหวังของผู้คน...ทั้งคนที่ยึดอำนาจและคนที่ได้ฟังคำนั้นๆ
คำว่า ปฏิวัติ กระตุ้นความรู้สึกรุนแรง รวดเร็ว ฉับพลัน ฮึกเหิม และให้ความหวังว่าเป็นงานใหญ่ ถ้าประสบความสำเร็จก็จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ดั่งใจหวังโดยรวดเร็ว
คำว่า รัฐประหาร กระตุ้นให้รู้สึกหวาดกลัว เป็นการรวบอำนาจเฉพาะคน เฉพาะกลุ่ม และไม่ควรต่อต้านขัดขืน
อีกคำหนึ่งที่คณะราษฎรใช้คือ “อภิวัฒน์” แปลว่า ความเจริญ ไม่มีความรู้สึกรุนแรง ไม่รวดเร็วฉับพลัน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงร่วมกันอย่างสันติและมีความหวัง!
แต่ความเป็นจริงการปฏิวัติ
“นักล่าอำนาจ” ทุกประเทศล้วนแต่ใช้คำเหล่านี้เป็นคาถาในการเปลี่ยนแปลงระบอบเศรษฐกิจการเมืองทั้งนั้น ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือพวกเขาล้วนต้องการเปลี่ยนแปลงคนอื่นให้เป็นอย่างใจตนเองทั้งนั้น...ใจที่ยึดมั่นถือมั่นกับลัทธิอุดมการณ์หรือความเชื่อของตน แต่กลับไม่เคยเปลี่ยนแปลงตนเอง
เราจึงเห็นนักปฏิวัติ นักรัฐประหาร หรือนักอภิวัฒน์ มีกมลสันดานเหมือนกันคือ เมื่อมีอำนาจก็กดขี่ผู้คนให้อยู่ภายใต้อำนาจของตน ส่วนลัทธิอุดมการณ์ที่ตนเคยป่าวประกาศตอนนำมันมาเป็น “ธง” ต่อสู้เพื่อชัยชนะนั้นก็กลายเป็นเสมือนเมฆที่ล่องลอยอยู่ในสายลม “อัตตาแห่งอำนาจ” ของพวกเขาได้รับการสถาปนาเข้ามาแทนที่ และมันกลายเป็นความถูกต้องชอบธรรมที่ทุกคนจะต้องคารวะและปฏิบัติตาม
ผมไม่ได้มโนเอาเอง แต่มีหลักฐานมากมายให้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นลัทธิอุดมการณ์ใดทั้งนั้น
มนุษย์ล้วนหลงคิดว่าชีวิตนั้นมีอัตตา เมื่อคิดว่ามีอัตตาก็ย่อมเห็นแก่อัตตาหรือเห็นแก่ตัว และอัตตานั้นมันไม่เคยมีสำนึกอะไร นอกจากขยายอาณาจักรแห่งอำนาจของมันออกไปควบคุมและคุกคาม - ครอบครองและครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างให้อยู่ภายใต้อำนาจของมันให้ได้มากที่สุด
ฉะนั้น ไม่ว่านักปฏิวัติ นักรัฐประหาร หรือนักอภิวัฒน์ ก็ล้วนแต่เป็นอย่างที่กล่าวมา มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับ “สมบัติจิต” ของพวกเขา ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนให้มีศีลธรรมมามากน้อยแค่ไหน
สำหรับผม...นักปฏิวัติ นักรัฐประหาร หรือนักอภิวัฒน์ที่แท้นั้น จะต้องสร้างสมบัติจิตอย่างที่ตนป่าวประกาศว่ามีอยู่ในลัทธิอุดมการณ์ของตนให้ได้ก่อน
จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม – ความเป็นธรรมในสังคม ก็ต้องสร้างสมบัติจิตของตนให้มีความยุติธรรม – ความเป็นธรรมเสียก่อน จึงออกไปปฏิวัติ รัฐประหาร หรืออภิวัฒน์สังคม
ตลอดประวัติศาตร์ของมนุษยชาติ ผมเห็นว่ามีนักปฏิวัติ นักรัฐประหาร หรือนักอภิวัฒน์ที่แท้อยู่คนเดียวคือ เจ้าชายสิทธัตถะ
วิมล ไทรนิ่มนวล

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี