ไม่มีธุรกิจอะไรในโลกนี้จะรุ่งไปกว่า “ธุรกิจการเมือง” ธุรกิจอื่นๆคุณต้องหาเงินลงทุนเองและต้องรับผิดชอบไปจนกว่าคุณจะรุ่งหรือร่วง แต่ธุรกิจการเมืองนั้นคุณมีแต่ได้กับได้
ตอนเริ่มธุรกิจการเมือง...คุณอาจต้องควักกระเป๋าบ้าง โดยเฉพาะถ้าคุณ “โนเนม” แต่ถ้าคุณเป็น “แบรนด์เนม” ก็จะหาคนสนับสนุนคุณง่ายขึ้น แต่วิธีที่ดีก็คือเข้าไปฟักตัวอยู่ในพรรคที่มีทุนหนาหน้าด้านก่อน
พรรคทุนหนา..ส่วนมากก็เป็นพรรคเก่าแก่ มีชื่อเสียงและมีเงินสนับสนุนอยู่แล้ว เมื่อคุณเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคจึงไม่ต้องจ่ายมาก หรืออาจไม่ต้องจ่ายเลย (ถ้าคุณโดดเด่นสักหน่อย) แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคใหม่จะไม่มีเงิน พรรคใหม่ก็มีเงินหนา...ถ้าเป็นเป็นพรรคหาเงินเก่ง อย่างพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคของมหาเศรษฐีอย่าง “พรรคไทยรักไทย – เพื่อไทย” หรือ “พรรคอนาคตใหม่ – ก้าวไกล” และก็มีโอกาสามากที่จะได้รับเลือกตั้ง เพราะคนไทยส่วนมากชอบเศรษฐี - มหาเศรษฐี ยิ่งหล่อ รวย สวย เท่ ยิ่งกรี๊ด!
พรรคเก่าและพรรคใหม่ของมหาเศรษฐีนั้นได้รับเงินจากไหน?
นึกถึงคำพูดของคุณทักษิณที่ว่า “ผมจะไม่เอาเงินส่วนตัวมาเล่นการเมือง” จึงตอบได้ว่า..เงินของพรรคเก่าและพรรคมหาเศรษฐีได้รับมาอย่างน้อยก็ 3 ทาง คือ
พูดกันตามตรง..เงินจากแหล่งต่างๆเหล่านี้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับการต้องทุ่มซื้อตัวผู้สมัคร ส.ส. เก่าที่ครองพื้นที่เลือกตั้งอยู่ นอกจากนี้ก็เป็นค่ารณรงค์หาเสียง ค่าใช้จ่ายทั่วไปในสำนักงานและค่าพนักกงาน
แต่ไม่ต้องห่วง..เมื่อคุณได้เป็น ส.ส. แล้ว คุณก็จะมีรายได้เอง ทั้งเงินเดือนเป็นแสนและเงินอื่นๆ ยิ่งคุณได้เป็น รมต. ก็ยิ่งสบายใจได้ คุณสามารถหาเงินเข้าพรรคด้วย เข้ากระเป๋าตัวเองไม่ยากเลย เพราะคุณสามารถสร้างโครงการจัดซื้อ - -จัดจ้างได้เสมอ
แต่ถ้าเป็นฝ่ายค้าน..คุณก็ต้องยอมรับอย่างที่คุณบรรหารบ่นไว้เป็นอมตวาจา ว่า “เป็นฝ่ายค้านอดอยากปากแห้ง” แต่เชื่อผมได้ คุณจะไม่เป็นฝ่ายค้านตลอดไปหรอก คุณเลือกได้ว่าพรรคไหนจะจ่ายค่าเช่าตัวคุณได้มากที่สุด (ถ้าคุณมีฐานคะแนนเสียงแน่นอนแล้ว)
คุณไม่ต้องละอาย...ยุคนี้ใครๆก็มีจิตสำนึกให้เช่าด้วยกันทั้งนั้น
ทุกพรรคต้องหาเงินเข้าพรรค เพื่อเลี้ยงคน เลี้ยงหัวคะแนน และเป็นทุนในการเลือกตั้งต่อไป
ทั้งหมดคือเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น คุณไม่ต้องลงทุนสักบาท
แถมยังมีประชาชนยินดีให้โกงอีกด้วย..อย่างที่เคยมีโพลล์รายงาน (ทำในยุคโกง) ว่า “โกงได้ แต่ขอให้ทำงานแล้วกัน!”
ประชาชนใจดี สมคบกับคุณให้โกงได้ก็เพราะพวกเขามีเงินจับจ่ายใช้สอย จากการกระตุ้นด้วยโครงการ ลด แลก แจกแถม กับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีอื่นๆ ถ้าคุณโชคดีเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว คุณก็ยิ่งมีโอกาสโกงได้มากขึ้น!
เปรียบงบประมาณจากภาษีของประชาชนเป็นน้ำ 1 ขัน คุณกลืนไปเกือบหมดขัน แล้วพ่นออกไปทั่วประเทศ ชาวบ้านอย่างผมก็ชุ่มชื่นหัวใจแล้ว
ถ้าคุณได้เป็นฝ่ายรัฐบาลไปเรื่อยๆ คุณก็จะยิ่งได้กำไรมากขึ้น ทั้งจากราคาค่าตัวของคุณ จากการผันเงินภาษีเข้ากระเป๋าพรรคและตัวเอง ค่าสินบน ค่าโง่ต่างๆจากสัญญาทาส ค่า...สารพัด
ดังนั้น...นับแต่วันนี้คุณต้องเตรียมตัวทำธุรกิจการเมืองให้พร้อม เข้าเป็นสมาชิกพรรคใหญ่ๆและร่ำรวยไว้ก่อน แล้วค่อยเติบโตทั้งชื่อเสียงและอำนาจ แล้วตัวเลขในธนาคารของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ คุณเบื่อเมื่อไหร่คุณก็เลิก เลิกแล้วก็ยังขายสัมปทานหัวคะเนนได้อีกต่างหาก!
การเมือง...เป็นการค้าธุรกิจประเภทเดียวที่คุณลงทุนน้อยสุดๆ และได้กำไรสูงสุดๆ ดูนักการเมืองแบรนด์เนมก็เห็น!
ปัจฉิมลิขิต
บทความนี้เป็นบทความสุดท้าย ผมขอยุติคอลัมน์นี้เพราะเห็นว่าเขียนมานานแล้วจนไม่มีความคิดใหม่ๆครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี