วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ตอนเปิดตัว “พรรคอนาคตใหม่” คุณธนาธรประกาศอย่างย่ามใจและมั่นใจว่า “พรรคไหนคิดไม่เหมือนเราก็ต้องเป็นศัตรูกับเรา” มันรวมถึงคนทั้งประเทศด้วยที่คิดไม่เหมือนเขาและพรรคอนาคตใหม่ย่อมเป็นศัตรูกับเขา
ผลคือ...เขาได้ศัตรูเพียบนับแต่สิ้นเสียงประกาศ!
ธนาธร(รวมทั้งปิยบุตรและพรรณิการ์) คิดอะไร?
เขาคิดจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศ ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสือ The Portrait และต่อมาก็ประกาศแก่สื่อมวลชนว่าจะ “สืบทอดภารกิจ 2475” ของคณะราษฎร
ภารกิจ 2475 ของคณะราษฎรนั้นไม่ใช่อะไรอื่น หากแต่คือการกำจัดกษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ออกจากประเทศไทย (ซึ่งคณะราษฎรไปไม่รอด จึงนำกษัตริย์กลับมา) เมื่อไม่มีกษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ ประเทศไทยก็จะเป็น “ระบอบสาธารณรัฐ”
ธนาธรนั้น “สมาทาน” เอาลัทธิมาร์กซ์ไว้เป็นสรณะของตนนับตั้งแต่เป็นนักศึกษา แม้ว่าครอบครัวของเขาจะเป็นนายทุนใหญ่ระดับต้นๆของประเทศไทยก็ตาม ประเด็นนี้ดูเหมือนมันขัดแย้งกับลัทธิมาร์กซ์ที่เขารับไว้เป็นสรณะ เพราะลัทธินี้ไม่ต้องการนายทุน แต่มุ่งมั่นจะกำจัดนายทุนให้เหลือเพียงชนชั้นกรรมาชีพเท่านั้น แต่ก็มีคนแก้ตัวให้เขาว่า ฟิเดล คาสโตก็มีครอบครัวเป็นนายทุน เป็นเจ้าของไร่นับพันเอเคอร์ เมื่อเขายึดครองอำนาจของประเทศได้ เขาก็ยึดเอาทรัพย์สมบัติของครอบครัวเป็นของรัฐรายแรก!
พวกมาร์กซิสต์ทั้งเก่าและใหม่ที่เชียร์ธนาธรก็คงคิดว่าเขาจะเป็นเช่นนั้น?
แต่สำหรับผม...เขาไม่จำเป็นต้องทำอย่างฟิเดล คาสโตร หรือตามคำสอนของลัทธิมาร์กซ์ก็ได้ เพราะเมื่อยึดอำนาจประเทศได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบอบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์ ใช้แค่ระบอบสาธารณรัฐก็พอ ทรัพย์สินของครอบครัวก็ไม่ต้องถูกยึดเข้ารัฐ เพราะระบอบสาธารณรัฐก็คือระบอบทุนนิยมหรือตลาดเสรี อย่างในปัจจุบันนี้ เพียงแต่ไม่มีกษัตริย์เป็นประมุขที่สืบทอดกันมาตามจารีตประเพณี แต่เป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง
ทำไมธนาธร(รวมทั้งปิยบุตรและพรรณิการ์) จึงกล้าประกาศเป็นศัตรูกับคนที่คิดต่างทั้งแผ่นดิน?
ประการแรก...ลัทธิมาร์กซ์มันฝังหัวเขา ประกอบกับเป็นคนหนุ่มที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนู อยากทำอะไร - อยากได้อะไรก็จะเอาให้ดังใจและทันใจ ยิ่งมีพวกคอมมิวนิสต์ทั้งเก่า - ใหม่ส่งเสริมสนับสนุน รวมทั้งเป็นกุนซือให้ด้วย เขาก็ยิ่งย่ามและมั่นใจ
ประการที่สอง...เขาคิดว่ามีคนจำนวนมหาศาลที่คิดอย่างเขา โดยดูจากจำนวนคนเสื้อแดงในยุคทักษิณเรืองอำนาจ (เขาร่วมลงถนนต่อสู้กับอำนาจรัฐด้วย) เขาเชื่อว่าจำนวนคนเสื้อแดงยังคงอยู่เท่าเดิมหรืออาจจะมากขึ้น เพราะไม่พอใจการปกครองของพวกทหาร (คสช.) และวันเวลาที่ผ่านไปนับสิบปีก็ยิ่งมีคนรุ่นใหม่ๆที่ถูกปลูกฝังอย่างเขาจากสถาบันการศึกษามากขึ้นทุกปี รวมทั้งคนทั่วไปที่เบื่อนักการเมืองหน้าเดิมที่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรจริงจัง
เขาสร้างนโยบายที่แตกต่างจากพรรคอื่น และกล้าชนกับพรรคทหาร! จากนั้นก็ “ทำการตลาด” ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย คือคนหนุ่มสาว
เขาปั่นกระแสแบ่งแยก “คนรุ่นเก่า - คนรุ่นใหม่” “พวกก้าวหน้า - พวกล้าหลัง” “ฝ่ายประชาธิปไตย - ฝ่ายเผด็จการ” จนกลายเป็นความแตกแยกร้าวลึก ไม่เพียงแต่เรื่อง “ความเชื่อต่อลัทธิอุดมการณ์” เท่านั้น แต่ยังแตกแยกไปถึงหน่วยงาน - สถาบันต่างๆ จนถึงระดับครอบครัว!
บางคนเขียนโปสเตอร์ในเฟซบุ๊คว่า จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ จะให้อดตาย เพราะไม่คิดอย่างเขา เป็นพวกสลิ่ม
บางคนประกาศว่า “ฆ่าสลิ่มไม่บาป!”
(อย่างเดียวกับกิตติวุฒิโฑเคยบอกในยุค 6 ตค. 19 ว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป (เพราะฆ่าลัทธิ แต่คนฆ่ากันจริง)
ชนชั้นสูงบางคนก็เข้าสนับสนุนเขาด้วย!
ประการที่สาม...ครอบครัวเขาเป็นมหาเศรษฐี จึงมีเงินทุนต่อสู้ทางการเมืองได้ยาวนาน
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคอนาคตใหม่ได้ สส. มากเป็นอันดับ3 ด้วยคะแนนเสียง 6 ล้านกว่า ยิ่งทำให้เขาจึงมั่นใจมากขึ้น มุ่งแต่จะตลุยไปข้างหน้าจนสะดุดขาตัวเองหลายครั้ง
สุดท้ายก็ล้มด้วยเรื่องเงินกู้ - เงินบริจาคที่เขาให้แก่พรรคอนาคตใหม่
พรรคถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคหมดสิทธิ์เล่นการเมือง 10 ปี และยังจะมีคดีอาญาตามมาอีก!
สส.ในพรรคก็แตก...ไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาลหลายคน เขา ปิยบุตร และพรรณิการ์แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธแค้นที่ถูกทรยศ
ฝ่ายเดียวกันยังคงเชียร์พวกเขาต่อไปและก่นด่าศาลรัฐธรรมนูญ ด่ารัฐธรรมนูญ ด่ารัฐบาล ว่าไม่ยุติธรรม และพาลแขวะไปถึงบุคคลที่เขาเรียกว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์”!
แต่เสียงก่นด่าพวกเขา สมน้ำหน้าพวกเขา เยาะเย้ยแดกดัน แช่งด่าพวกเขาดังกระหึ่มมากกว่าพวกเชียร์เขามากมายเท่านัก
นั่นเพราะอะไร?
เพราะพวกเขาได้แบ่งฝ่ายไว้เอง ทำให้สังคมแตกแยกไว้เอง และเหยียบย่ำหัวใจคนค่อนประเทศที่รักกษัตริย์
ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำไว้ ล้วนกลับมาทำร้ายและทำลายพวกเขาเอง
ทำอะไรไว้ก็ได้รับผลอย่างนั้น!
ผลจาก “ไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนที่คิดต่าง”

‘บวรศักดิ์’แจง‘ขยายเกษียณอายุ’ขรก.พลเรือนแค่ 65 ปี ไม่ถึง 70 ปี ‘นายกฯ’หวังให้จบในรัฐบาลนี้
‘บวรศักดิ์’ยกคติ‘คำเตือนมีค่ากว่าคำชม’ หลัง‘นิพิฏฐ์’แซะ‘นายกฯ’สวมชุดกากีขึ้นเวทีหาเสียง
เปิดประตูสู่ความลึกลับ…ชวนขนหัวลุกทั้งฮอลล์!! 'สิงสาลาตาย'มิติใหม่ของซีรีส์บอยเลิฟสยองขวัญ
'กรมสมเด็จพระเทพฯ' ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
'นายกฯ' ถกครม.เศรษฐกิจ ปลื้มคนละครึ่งพลัส ลงพื้นที่ปชช.ตอบรับ มีความสุข กระตุ้นระบบศก.คึกคัก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี