คน - ถ้าจิตเพ่งเล็งไปทางไหนก็มักจะเห็นและเป็นไปทางนั้นตลอด ยากมากที่จะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นและทางอื่น ไม่ว่าจะผิดหรือถูก
เรื่องการประกาศ พรก.ฉุกเฉินและการประกาศเคอร์ฟิว คนที่เพ่งเล็งไปที่เรื่องความปลอดภัยของชีวิตก็จะเห็นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เพื่อยับยั้งคนไม่ให้ออกไปติดเชื้อโรคหรือเอาเชื้อโรคไปแพร่กระจาย แต่คนที่เพ่งเล็งแต่เรื่องอำนาจทางการเมืองก็จะเห็นว่าเสรีภาพเป็นสิ่งจำเป็น จึงควรจะปล่อยให้ประชาชนดำเนินชีวิตไปตามปรกติ...”แม้จะมีคนป่วยบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา” (ม.ล. ณัฐกร )
นั่นเป็นเพียงการประดิษฐ์ถ้อยคำ เพราะความเป็นจริงเมื่อคนติดเชื้อก็ไม่ได้ป่วยอย่างเดียว แต่มีตายด้วย
ส่วน “คุณปิยบุตร” และคนเด่นคนดังอีกหลายคนที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายก้าวหน้า - ฝ่ายประชาธิปไตย” ก็พูดทำนองเดียวกัน พูดมาตั้งแต่ตอนมีแฟลชม็อบแล้ว ด้วยการอ้างเสรีภาพ (ผลก็คือมาคนติดไวรัสจากการชุมนุมจริง)
คนที่เพ่งเล็งที่เสรีภาพนั้นมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกนั้นเชื่ออย่างที่ตนเองพูด ไม่มีวาระแอบแฝง แต่อีกกลุ่มนั้นมี...ที่จริงก็ไม่ได้แอบแฝงเลย แค่เห็นชื่อคนพูดก็รู้ว่า “คิดอะไร - ต้องการอะไร”
แม้ทุกวันนี้ก็ยังมีคนพูด โดยอ้างเรื่องเสรีภาพ
ถ้ารัฐบาลทำตามความเห็นของคนเหล่านี้ ผมเชื่อว่าจะมีผู้คนติดเชื้อ - แพร่เชื้อ – และล้มตายเป็นจำวนมาก ไม่ต้องถึงขนาด “ตายเป็นเบือ” หรอก แค่ติดเชื้อหลักหมื่น – ตายหลักพันก็มากพอจะปั้นกระแส “ความล้มเหลวของรัฐบาล” ได้แล้ว
แม้ผลของการปั่นกระแสจะไม่ได้อะไร แต่ก็บ่อนทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลได้ และจะส่งผลไปถึงการบริหารงานเรื่อง อื่นๆ เลยไปถึงคะแนนเสียงตอนหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย
ผมเองมองไม่เห็นว่ารัฐบาลนี้จะ “ได้อะไร” จากการประกาศ พรก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว...จะกล่าวหาว่ารัฐบาลต้องการอำนาจ แต่รัฐบาลนี้ก็มีอำนาจอยู่แล้ว และนายกฯก็คือพล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว
จะถือว่าเป็นการ “ยึดอำนาจ” ก็ยังไม่เห็นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้ยึดอำนาจอะไร และจะได้อะไรจากการยึดอำนาจ ก็ยังคงใช้อำนาจตามกฎหมายต่างๆอย่างเดิม (รวมทั้ง พรก.ฉุกเฉินและการประกาศเคอร์ฟิวด้วย)
ผมบอกตามตรงว่า...ผมกลัวพวกคนที่เมาเสรีภาพ...ลองนึกดูว่าถ้าวันนี้มีคนเหล่านี้เป็นรัฐบาล แล้วปล่อยให้ทุกคนดำเนินชีวิตไปตามปรกติเหมือนอย่างที่พวกเขาพูด ชีวิตผู้คนทั้งประเทศจะเป็นอย่างไร ?
วันหน้าถ้าพวกเขาเป็นรัฐบาล..แล้วเกิดโรคระบาดขึ้นมาอีก ซึ่งมันต้องเกิดแน่ๆ และจะเกิดต่อไปเรื่อยๆ รวมทั้งภัยอื่นๆด้วย พวกเขาจะปล่อยให้เสรีภาพทำลายชีวิตเราไหม
คนที่เมาเสรีภาพนั้นจะมองไม่เห็นว่า “เสรีภาพคือความรับผิดชอบ” แต่เห็นว่า “เสรีภาพคือการทำตามใจตัวเอง” บางคนรู้ว่าผิดกฎหมายก็ยังทำ
เสรีภาพที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นมันคือ “การทำลายล้าง”
เสรีภาพที่มากเกินกว่า “หน้าที่” มันคือ “ความป่าเถื่อน” คือ “อนารยะ”
ทั้งหมดคือการไม่มีเสรีภาพ!
นอกจากเรามี “สัตว์ - พืชคัดพิเศษ” แล้ว เรายังมี “มนุษย์คัดพิเศษ” อีกด้วย...พิเศษที่ “ไม่มีสำนึก – ไม่มีวุฒิภาวะใดๆ” ที่จะเห็น “คุณค่าของชีวิต” เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...นอกจากความกระสันอำนาจของตนเอง
“วิมล ไทรนิ่มนวล”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี