การเมือง - การปกครอง
ยามเมื่อมนุษย์มี “ปัญหา” ในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม เช่น การกดขี่ข่มเหง การเข่นฆ่า การเอารัดเอาเปรียบ การทำร้ายทำลายกัน การคดโกง...ที่เรียกรวมๆว่า “ปัญหาอาชญากรรม” นั้นสิ่งที่มนุษย์แก้ปัญหาก็คือ
1. แก้ปัญหาด้วยตัวเอง ตั้งแต่ประนีประนอมจนกระทั่งการตอบโต้ด้วยความรุนแรง อย่างที่เรียกกันว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรมากนัก ซ้ำกลับเพิ่มปัญหาใหม่ให้มากขึ้นอีก เพราะอาจจะได้รับการตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงที่มากกว่า...ซึ่งไม่มีวันยุติง่ายๆ
2. การสร้างกฎหมายและใช้กฎหมาย ซึ่งได้ผลดีกว่าวิธีแรก ซึ่งเป็นเรื่องสากล แต่ก็มักจะมีคนหลุดรอดจากอุ้งมือของกฎหมายไปได้ ถ้าเป็นคนมีอำนาจ มีเงิน หรือเจ้าที่ของรัฐไม่ใส่ใจ หรือไม่มีความสามารถ แต่ก็ดีกว่าวิธีแรก
พูดอีกอย่างก็คือ มนุษย์ใช้ “การเมือง-การปกครอง” แก้ปัญหาของมนุษย์ (ปัญหาอาชญากรรม) ขณะเดียวกันตัวมันเอง(การเมือง-การปกครอง)ก็สร้างปัญหาขึ้นมาด้วย นั่นคือการแย่งชิงกันมีอำนาจกัน
ถ้าปัญหานั้นกระทบกับคนจำนวนมาก กลายเป็นเรื่องของพวกพ้อง ฝ่าย หรือประเทศ มนุษย์ก็จะใช้ทั้ง 2 วิธีข้างต้น รวมทั้งวิธีอื่นๆเข้าแย่งชิงอำนาจกัน เพื่อจะได้แก้ปัญหาทั้งหมด ที่เรียกว่า “เพื่อความยุติธรรม ความเป็นธรรม ความเท่าเทียม” เป็นต้น กลายเป็นสงครามย่อยๆ กระทั่งลุกลามเป็นเรื่องในประเทศ ระหว่างประเทศ หากตกลงกันไม่ได้ ประนีนอมไม่สำเร็จก็จะกลายเป็นสงคราม
สุดท้าย...สงครามจะเป็นตัวชี้ขาดว่าใครผิดใครถูก!
ใครได้ใครเสีย
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้ชนะ
มนุษย์มีความสามารถแก้ปัญหาของมนุษย์ด้วยกันเองได้แค่นี้!
ทั้งที่มีวิธีอื่นๆที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว แต่มนุษย์ไม่มอง ไม่เห็นความสำคัญ ไม่เชื่อว่ามันจะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาได้ นั่นคือเรื่องจิตมนุษย์ที่เรียกว่า “ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มนุษยธรรม”
มนุษยธรรม
การเมืองการปกครองนั้นล้วนแต่นำความแปลกแยก - ความขัดแย้ง – ตามมาด้วยการเข่นฆ่าทำลายล้างมนุษย์ด้วยกัน ทั้งในระดับชุมชน ประเทศ กระทั่งถึงระหว่างประเทศ เกิดเป็นสงครามระหว่างประเทศและสงครามโลก
ท่ามกลางสงครามใหญ่น้อยทั้งหลาย และการทำลายล้างกันจนพินาศย่อยยับ ทั้งมนุษย์ด้วยกันและวัตถุสิ่งของ จนดูเหมือนว่ามนุษยชาติจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ และอารยธรรมจะล่มสลาย แต่ก็เกิดปาฏิหาริย์ทุกครั้ง
ปาฏิหาริย์นั้นเกิดจากคนเล็กๆทั้งหลาย ได้ยื่นมือออกมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประคับประคองกันให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังที่สงครามทำลายไว้
เบื้องหลังมือของคนเล็กๆ ก็คือหัวใจของพวกเขาที่ส่องแสงรุ่งโรจน์แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
การสืบสายเผ่าพันธุ์มนุษย์และอารยธรรมมนุษย์จึงไม่ได้ถูกปกป้องและรักษาไว้ด้วยการเมืองการปกครอง ไม่ว่าจะด้วยระบบระบอบหรือลัทธิอุดมการณ์ใด หากแต่มันอยู่มาได้เพราะหัวใจมนุษย์ที่เรียกว่า “มนุษยธรรม”
การเมืองการปกครองยังคงมีต่อไป ลัทธิอุดมการณ์ต่างๆก็เช่นกัน รวมทั้งสร้างขึ้นใหม่ด้วย และผลที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่เคยหลีกเลี่ยงได้เลยตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติก็คือ ความขัดแย้ง – การเข่นฆ่าทำลายล้างกัน จากการแย่งชิง - แย่งยึดอำนาจและผลประโยชน์กันของผู้กระหายอำนาจ
ในนาม “เพื่อประชาชน” “เพื่อความเป็นธรรม” “เพื่อความเท่าเทียม” “เพื่อความกินดีอยู่ดี” “เพื่อประเทศชาติ” “เพื่อ....”
การเมืองการปกครองน้้นทำลายล้าง มนุษยธรรมเยียวยา รักษาและปกป้องมนุษย์และอารยธรรมมนุษย์ไว้.
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี