วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปัญหาฝุ่นละอองนั้นมีมาทุกปี และดูเหมือนว่าจะมากขึ้น คนอย่างเราก็ได้แต่ด่ารัฐบาล ด่าข้าราชการราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ทำให้เกิดฝุ่นละอองเสียเอง
ที่จริงเราด่าเพราะคิดว่าพวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบต่อปัญหาบ้านเมือง ซึ่งก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอบรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเสียเลย
ในโลกโซเชียลนั้น ผู้คนต่างก็ก่นด่ารัฐบาล ส่วนมากก็ด่านายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะพวกที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล เพราะพวกเขาต้องการทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล ประจานความไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดรัฐบาลออกไป...มันจึงเป็นเรื่องการเมือง ที่มีปัญหาฝุ่นละออง...รวมถึงปัญหาอื่นๆด้วยเป็น “เชื้อสำหรับจุดไฟ”
แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ด่าหรือบ่น หรือโอดครวญถึงคุณภาพชีวิตของตนและครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กและคนที่ป่วยด้วยโรคทางเดินลมหายใจ เพราะต้องการให้รัฐบาลใส่ใจแก้ปัญหาอย่างจริงจังและทันการณ์
แต่ไม่ว่าจะด่าเพื่ออะไร ก็ล้วนแต่ให้รัฐบาลรีบแก้ปัญหาโดยเร็ว
ทางด้านรัฐบาลบ้าง...นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่อยากใช้มาตรการอะไรที่รุนแรง (คำสั่ง กฎหมาย) เพราะจะทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นจึงใช้วิธีขอความร่วมมือจากประชนชน โดยเฉพาะเรื่องการเผา
เผาขยะ เผาหญ้า โดยเฉพาะตัวการที่สร้างฝุ่นละอองก็คือการเผาอ้อย (เผาใบอ้อยเพื่อให้คนตัดอ้อยได้สะดวกขึ้น) เผาต้นและซังข้าวโพดหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว เผาซังข้าว รวมทั้งเผาพืชอื่นๆด้วย แต่คำขอร้องไม่ได้ช่วยอะไรนัก ทุกคนที่เคยเผาก็ยังเผากันอย่างเดิม เพราะสะดวกสบายและประหยัดต้นทุนกว่าการทำวิธีอื่น เช่นจ้างรถตัดอ้อย - จ้างรถม้วนใบอ้อยและข้าว (สำหรับเป็นอาหารสัตว์และปุ๋ยต่อไป)
แม้มันจะขายได้ แต่ก็ต้องจ้างแพง และพื้นที่การเกษตรแบบนี้ส่วนมากก็มีรถไม่พอ
การเผาในภาคเกษตรเฉพาะในประเทศไทยก็สร้างฝุ่นละอองเกินมาตรฐานอยู่แล้ว ยังมีฝุ่นละอองจากการเผาในประเทศเพื่อนบ้านลอยลมเข้ามาสมทบด้วย (อย่างเขมร) ปัญหาฝุ่นละอองก็มากขึ้นอีก
ในเมืองบ้าง...กรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้นต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองมาทุกปีเช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ปัญหาเกิดจากรถยนตร์ที่พ่นควันออกมาและการเคลื่อนที่ของมันก็สร้างฝุ่นละอองเข้าผสมซ้ำ
เพราะกรุงเทพฯและปริมณฑลไม่ใช่เมืองสะอาด ฝุ่นที่เกิดขึ้นนั้นมาจากรถที่มาจากต่างจังหวัดบ้าง ลมพัดพามาบ้าง รวมทั้งฝุ่นควันจากภาคการเกษตรด้วย แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากดินในกรุงเทพฯและปริมณฑลเอง
กรุงเทพฯและปริมณฑลจึงสร้างฝุ่นควันโดยตนเอง และซ้ำด้วยฝุ่นควันที่ลมพัดพามาให้ กลายเป็นเมืองที่มีปัญหาฝุ่นควันพิษ (สารตะกั่ว สารคาร์บอนมอนน็อกไซค์)
ภายใน 2- 3 วันนี้ ลมในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะพัดเบาบางมาก ทำให้การไหลเวียนของอากาศน้อย ซ้ำด้วยอากาศเย็นลงอีก จึงกลายเป็นความกดอากาศต่ำ (เพราะอากาศเย็นจะลอยต่ำ อากาศร้อนจะลอยขึ้นสูง) มันจึงกดทับปิดกั้นฝุ่นควันพิษไม่ให้กระจายหายไปไหน แต่มันจะให้มนุษย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้สูดเข้าปอดกันตลอดเวลา
ถามว่าปัญหานี้จะแก้ได้อย่างไร
คำตอบก็คือ แก้ไม่ได้หรอกครับ เพราะประการแรก..ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากเหตุ...เหตุก็คือเราเลือกวิถีชีวิตแบบนี้...แบบไหน?...ก็แบบที่เราดำเนินชีวิตและต้องเผชิญปัญหาอยู่ทุกวันนี้แหละ ที่เรียกกันว่า “วิถีแห่งบริโภคนิยม” อันเกิดจากระบอบเศรษฐกิจและการเมืองแบบทุนนิยม(ตลาดเสรี)
ประการที่สอง..เราทุกคนต่างก็สร้างปัญหานี้ขึ้นมาด้วยกันทั้งหมด ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม อย่างปัญหาฝุ่นควันพิษในเมือง แม้เราจะไม่มีรถของตนเอง แต่เราก็ใช้รถอื่นๆ หรือปัญหาฝุ่นควันในภาคการเกษตร แม้เราจะอยู่ในเมืองแต่เราก็กินและใช้ผลิตผลของมัน
ต่อให้เกษตรกรส่งผลิตผลของเขาไปขายยุโรป เราก็ยังสนับสนุนและมีส่วนร่วมอยู่ดี เพราะเงินตราที่ขายได้นั้นก็เข้ามาอยู่ในเมืองไทย และมันก็ถูกใช้หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป...กลายเป็นเครือข่ายแห่งการซื้อและขายในระบอบตลาด ( “วิถีแห่งบริโภคนิยม”)
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะ “ลดปัญหา” ไม่ได้ เพราะเมื่อเรารู้ว่าปัญหามันเกิดจากเหตุไหนก็ลดที่เหตุนั้น และเหตุนั้นก็ประกอบด้วยหลายปัจจัย เราแต่ละคนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ “ประกอบเหตุแห่งปัญหา” ก็ต้องลดปัญหาที่ตัวเรา (เหมือนกับทุกปัญหา)
“กินและใช้แต่พอดี” นั้นเป็นวิธีลดปัญหาทุกปัญหาได้เร็วที่สุด
การเอาแต่เรียกร้อง ก่นด่า ขับไล่รัฐบาลนั้นไม่ได้แก้ปัญหาหรือลดปัญหาอะไรนัก ถ้าเรายังดำเนินชีวิต(กินและใช้)อย่างเดิมๆ
เราจะก่นด่าขับไล่รัฐบาลก็ต่อเมื่อดีแต่พูด ไม่ทำอะไรที่จริงจังหรือแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
เดือนหน้าจะเข้าหน้าร้อน...ปัญหาไฟป่าจะตามเข้าสมทบ ฝุ่นควันก็จะกระจายไปทั่ว...เท่าที่สายลมจะพัดพาไป ถึงตอนนั้นเราก็จะมีเรื่องด่ารัฐบาลได้อีก!
ไม่ใช่เพียงฝุ่นควันที่เราหายใจเข้าปอด แต่มันยังเข้าไปอยู่ในใจเราด้วย (ถ้าเราไม่ใส่ใจต่อปัญหาและยังด่าอยู่อย่างเดียว)

ธรรมนัสสั่งเคลียร์เส้นทางส่งอาหารผู้ประสบภัยหาดใหญ่
ครอบครัววอนช่วยตามหา น้องแพดเม่ 4 ขวบ เรือคว่ำวันน้ำแรงสูญหาย
คืบหน้า ไฟไหม้ตึกสูงฮ่องกงดับพุ่ง55ราย จนท.ควบคุมเพลิงขนาดใหญ่ได้แล้ว
ไม่ใช่แค่7 เจ็ตสกีภูเก็ตยืนยันเอง นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาแล้ว31ศพ อพยพคน 1,879 ชีวิต
แดดโผล่รอบ 7 วัน! ตรังเริ่มคลี่คลายน้ำลด-ไม่มีฝนเพิ่ม ชาวบ้านได้รับผลกระทบนับแสนชีวิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี