ช่วงนี้ถือเป็นช่วงหลังฮันนีมูยของโจ ไบเดน สถานการณ์ทางการเมืองดำเนินต่อไปในยุครัฐบาลโจ ไบเดน หลักใหญ่ใจความก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากตามล้างตามเช็ดสิ่งที่ตาลุงผมเป๋ทรัมป์ทำไว้ตลอด 4 ปี วันแรกที่นั่งแหมะบนก้าอี้ประธานาธิบดีก็ลงนามคำสั่ง 15 ฉบับรวดอวดโลก เช่น ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนใส่หน้ากาก เมื่อไปติดต่องานในอาคารของรัฐ ตั้งศูนย์ประสานงานด้านโควิดที่ทำเนียบขาว ไอ้ที่ลุงผมเป๋เคยลากอเมริกาออกจากองค์การอนามัยโลก ก็ผลักกลับเข้าไปในองค์การอนามัยโลกเหมือนที่เคยเป็น
นกจากนี้ยังดันอเมริกากลับสู่ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ยกเลิกคำสั่งอนุญาตโครงการท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน เอ็กซ์แอล ยกเลิกประกาศฉุกเฉินของ ทรัมป์ ที่อนุมัติงบสำหรับก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนตอนใต้ ยุติคำสั่งห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมบางประเทศเดินทางเข้าบ้านลุงแซม ล่าสุดคือยกเลิกคำสั่งของทรัมป์ที่เคยห้ามเพศทางเลือกเป็นทหาร เชื่อว่าคงตามล้างตามเช็ดกันอีกหลายสิ่งหลายอย่างอีกนาน
ส่วนสถานการณ์โควิดก็ไม่ได้บรรเทาเบาบางลงเลย เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่พบผู้ป่วยโควิดในอเมริกา เมื่อปีกลาย จึงนับว่าเวียนมาครบรอบปีพอดี และเป็นการครบรอบหนึ่งปีของของการใช้ชีวิตที่เดินมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงแบบนิวนอร์มอลของอเมริกัน หลายคนต้องเก็บตัวในบ้าน ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน หรือไม่ได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านร่วมปี ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ผู้เขียนนี่แหละเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง
จากวันแรกที่เจอคนป่วยโควิดคนแรกจนถึงวันนี้ อเมริการะบาดหนักอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเว้นวรรคพักรบแบบชาติอื่นที่ยังมีระลอกหนึ่งระลอกสองระลอกสาม อเมริกาครองความยิ่งใหญ่เสมอ เลยระบาดแบบไม่บันยะบันยังตั้งแต่วันแรกยันวันนี้ ยอดป่วยสะสมตอนนี้ 26 ล้านกว่า ยังดีที่รักษาหาย 16 ล้านกว่า ที่น่าห่วงคือตายไปสี่แสนห้า ล่าสุดเด็กชายวัยไม่ถึงสิบขวบเสียชีวิตเพราะโควิดแบบฉับพลันภายในวันเดียว
รัฐที่ยังรักษาความสยองอย่างเสมอต้นเสมอปลายคือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ฟลอริด้า นิวยอร์ก และอิลลินอยส์ ที่โหดจัดปลัดบอกคือที่แอลเอ ป่วยกันแบบที่เทียบง่ายๆ ว่า คนเดินมา 5 คนป่วยโควิดซะ 1 คนประมาณนั้น
โจไบเดนพยายามเร่งให้ฉีดวัคซีนให้ไวที่สุด ตั้งเป้าไว้ว่า 100 วันให้ได้ยอด 100 ล้าน แต่จะได้ตามนั้นไหมไม่มีใครรู้ เพราะอเมริกันเป็นพวกลูกอีช่างประท้วง นี่ก็ประท้วงกันอีกแล้ว โจ ไบเดนออกกฎห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้, บราซิล, อังกฤษ, ไอร์แลนด์ และ 26 ประเทศในยุโรป เดินทางเข้าอเมริกา เพื่อสกัดการแพร่เข้ามาของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ เรื่องนี้น่าจะทำมาตั้งนานแล้ว ลุงทรัมป์ไม่ได้ดูดำดูดีอะไรเล้ย นอกจากห่วงคะแนนเสียงตัวเอง
นอกจากโควิดสายพันธุ์เดิมแล้ว ตอนนี้อเมริกาพบไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่ระบาดไปล้ว 20 รัฐ ตามด้วยสายพันธุ์ 501Y.V2 จากแอฟริกาใต้ ล่าสุดเจอโควิดสายพันธุ์บราซิล ‘Brazil P.1’ ได้แต่ภาวนาให้วัคซีนครอบคลุมการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ใหม่ๆ เหล่านี้ เพราะผ่านมาหนึ่งปีเต็ม คนที่เก็บตัวอยู่บ้านก็เหนื่อยล้าเบื่อหน่ายเต็มที อยากจะมีชีวิตแบบเดิมที่ไม่ต้องระแวดระวังแทบทุกฝีก้าว ไม่ต้องพ่นสเปรย์หรือเช็ดข้าวของด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่ทุกวี่วัน
ตอนนี้โจ ไบเดนสั่งซื้อวัคซีนอีก 200 ล้านโดส ต่อจำนวนประชากรประมาณ 300 ล้านคน นับว่าดีต่อใจ โจ ไบเดนเปรียบสถานการณ์การระบาดของโควิดในอเมริกาว่า ขณะนี้เหมือนอยู่ในสมรภูมิสงคราม จึงต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดและมากที่สุด เพื่อยังยั้งการระบาด แต่อย่างที่บอกนั่นแหละ อเมริกันเป็นลูกอีช่างประท้วง โผล่กันมาอีกแล้ว หนนี้ต่อต้านการฉีควัคซีน
คงยังจำกันได้ ตอนที่เกิดการระบาดจัดหนัก คนป่วยคนตายเป็นเบือ ก็มีหมู่อเมริกันลุกฮือมาประท้วงในรัฐต่างๆ ต่อต้านการใส่หน้ากากบ้าง ต่อต้านนโยบายล็อคดาวน์และอื่นๆ ตามแต่ที่จะห้ามอะไรแล้วทำให้ไม่พอใจขึ้นมา โดยอ้างสิทธิเสรีภาพโน่นนี่ไปเรื่อย ห่วงแต่เสรีภาพตัวเอง ไม่ยักปกป้องเสรีภาพคนอื่น เพราะไปรวมตัวกันกลุ่มก้อนใหญ่ขนาดนั้น เท่ากับเป็นการแพร่กระจายเชื้ออย่างดี บางเมืองถึงขนาดกลุ่มหมอและพยาบาลออกมายืนขวางกลางถน แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่สนใจ ตะโกนด่าหมอหยาบๆ คายๆ และไม่ลืมตบท้ายด้วยสิทธิเสรีภาพของตัวเองอีกตามระเบียบ
ล่าสุดสถานที่ฉีดวัคซีนโควิดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ต้องปิดทำการชั่วคราว หลายคนอาจจะอยากถามว่า อ้าว.. แคลิฟอร์เนียนี่คือดงระบาดขนาดใหญ่สุดในอเมริกา แล้วทำไมถึงต้องปิดจุดฉีควัคซีนล่ะ.. คำตอบคือ ผู้ประท้วงจากกลุ่มต่อต้านวัคซีน ส่วนมากเป็นกลุ่มขวาจัด หรือพวกสนับสนุนทรัมป์ รวมตัวขวางทางเข้า บางส่วนชูป้ายคัดค้านโควิด พลางตะโกนเรียกร้องไม่ให้คนเข้าไปฉีดวีคซีน เอ้า..แบบนี้ก็มีด้วย จะไม่ฉีดก็ไม่ฉีดสิ จะมาโวยวายเรียกร้องให้คนอื่นไม่ฉีดวัคซีนได้ไง
ชาวบ้านที่มารอฉีควัคซีนอยู่หลายชั่วโมงเจอแบบนี้ก็ไม่พอใจ แต่สุดท้ายต้องปิดจุดฉีดวัคซีน เพราะคนกลุ่มนี้แหกปากตะโกนซ้ำไปมาว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่มีจริง ทั้งหมดเป็นข่าวปลอม และการฉีดวัคซีนเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
กลุ่มประท้วงงุบงิบสุมหัวกันว่า อย่าเอาป้ายที่แสดงความสนับสนุนทรัมป์ไปในการประท้วง แหม..ไอ้แนวคิดแบบนี้นี่คิดว่าประชาชนคนอื่นกินหญ้าเหรอ ถึงจะไม่รู้ว่ากลุ่มประท้วงเป็นกลุ่มไหน จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้กันทางออนไลน์ว่า จากนี้ไปจะรวมตัวกันต่อต้านทุกอย่างตั้งแต่โควิด วัคซีน การตรวจเชื้อแบบ PCR Tests, มาตรการล็อกดาวน์ หน้ากาก หมอแอนโธนี เฟาซี บลาๆๆๆ โถ..แค่แอะมาว่าจะต่อต้านอะไรบ้างนี่คือฝูงทรัมป์ซัพพอร์ตเตอร์ชัดๆ
ท่ามกลางความน่าปวดหัว ก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างในประเทศนี้ คนไทยหลายคนคุ้นชื่อแป้งเด็กจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่บริษัทนี้ไม่ได้มีดีแค่แป้งทาก้นเด็ก แต่ประกาศปังดังลั่นว่า วัคซีนโควิดของตนนั้นเจ๋งกว่าของบริษัทอื่นมาก ตอนนี้ผ่านเฟส 3 แล้ว ได้ผลตั้ง 85 เปอร์เซนต์ เลยนะจ๊ะ
จากนั้นก็เกทับใส่ไฟเซอร์ว่า ไอ้วัคซีนของไฟเซอร์น่ะ ขนาดฉีดแล้วยังติดโควิดได้เลย แถมของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันฉีดแค่เข็มเดียว..เอาอยู่ ไม่ต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัดเหมือนของไฟเซอร์
เจ๋งกว่านั้นคือสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้ 89% สามารถเก็บได้นานถึง 3 เดือน ที่อุณหภูมิ 2-7 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นความเย็นระดับสิวๆ ในอเมริกา เมืองที่ผู้เขียนอยู่ พอถึงหน้าหนาวบางปี ลดต่ำถึง -25 เซลเซียส หากได้ผลดีกว่าไฟเซอร์ แถมเข็มเดียวจบ น่าจะสามารถกระจายการฉีดได้ดีกว่าและระงับการระบาดโควิดได้ไวกว่า แต่คงต้องรอฟังข่าวต่อไปว่าจะมีการนำมาใช้เมื่อไหร่ อย่างน้อยก็ถือเป็นข่าวดี เป็นอีกหนึ่งแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของพลเมืองอเมริกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี