ไร่ บี.เอ็น. เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับความนิยมมานานไม่มีเสื่อมคลาย เคียงคู่กับผู้ที่มาเที่ยวเขาค้อ จุดเด่นของไร่คือการนำการเกษตรแผนใหม่มาปรับปรุงพัฒนาใช้กับการปลูกพืชผล จนกลายเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตไม้เมืองหนาวที่สำคัญ

แปลงพืชพรรณแปลกตามากมาย มีทั้งไม้โบราณดึกดำบรรพ์ ไม้เมืองหนาว ดอกไม้ประดับ ต้นไม้บางชนิดอาจไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผลไม้เมืองหนาวจากไร่บี.เอ็น. ปลูกสะสมไว้มากมาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล เช่น สตรอเบอร์รี่ ลิ้นจี่ น้อยหน่า อโวคาโด้ ลูกพลับ ผักต่างๆ เช่น แครอท บีทรูท แตงกวาญี่ปุ่น ฟักแม้ว ผักกาดแก้ว บร็อคโครี่ อีกทั้งดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ เช่น คาร์เนชั่น แกลดิโอลัส แอสเตอร์ ซึ่งหาซื้อกันได้ในเรือนจัดแสดงสินค้า และจำหน่ายพืชพรรณของทางไร่ นอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูป ประเภท ไอศกรีม แยมผลไม้ น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง ผลไม้แช่อิ่มประเภทต่างๆ

ด้วยพื้นที่มากกว่า 1,000 ไร่ ตั้งอยู่บนเขาค้อ สูงกว่าระดับน้ำทะเล มากกว่า 800-1,000 เมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบบนภูเขา อากาศหนาวเย็นตลอดปี เหมาะสำหรับการทำการเกษตรพืชพรรณเมืองหนาว เริ่มบุกเบิกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 โดยกำนันบรรเจิด คุ้นวงศ์ ผู้ซึ่งสั่งสมประสบการณ์วิชาการเกษตรแผนใหม่ ได้รวบรวมสายพันธุ์ลิ้นจี่คุณภาพดีของประเทศจีน เช่น พันธุ์กุ๊ยบี้ (กุ้ยเว่ย) จุกบี๊จี้ ควบคู่กับการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์มาตลอด 50 กว่าปี ด้วยการเพาะเมล็ด จนประสบความสำเร็จได้ “ลิ้นจี่พันธุ์ป้าชิด 2” ซึ่งเป็นชื่อของคุณแม่ของคุณจุลพงษ์ คุ้นวงศ์ ผู้เป็นทายาทและพี่น้องช่วยกันสืบทอดดูแลมีลักษณะผลโต เนื้อแห้งหนา รสหวานหอม ส่วนใหญ่เมล็ดลีบเล็ก โดยให้ผลผลิตให้ชิมระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนกรกฎาคมของทุกปี  ซึ่งคุณจุลพงษ์ คุ้นวงษ์ (บุตรชาย) ยังได้สืบทอดการพัฒนาสายพันธุ์ลิ้นจี่อย่างต่อเนื่อง ประสบความสำเร็จจากการทำต้นลิ้นจี่รุ่นเก่าที่สูงมากเหลือความสูงไม่เกินสามเมตร ช่วยการทำงานง่ายขึ้นทั้งการฉีดยาให้ปุ๋ยและการเก็บเกี่ยว ซึ่งผลผลิตลิ้นจี่ของไร่เป็นที่นิยมทั้งในประเทศจีนและญี่ปุ่น เพราะคุณภาพไม่แพ้ลิ้นจี่จีน อีกทั้งการเก็บเกี่ยวก่อนที่ลิ้นจี่มาจากจีนและเวียดนามถึง 1 เดือน จนเป็นอีกผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยสามารถส่งออกทำเงินตราต่างประเทศได้จำนวนมากในอนาคต

กำลังแทงช่อออกดอกน่าชื่นใจ

ความที่ก่อตั้งมานานกว่า 50 ปี  กำนันบรรเจิด คุ้นวงศ์ ผู้สร้างตำนานแห่งการเกษตรแผนใหม่มาแล้ว 3 รุ่น มีระบบจัดการน้ำการเกษตรแบบต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิภาพสูงมาใช้ในการ ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และยังได้ผสมผสานความหลากหลายทางชีวภาพ ทางสายพันธุ์พืชกับสัตว์ป่ามาช่วยในวิถีการเกษตรและเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งสัตว์ป่า และพันธุ์พืชไปในตัว โดยเฉพาะการปรับปรุงสายพันธุ์ลิ้นจี่ชั้นเยี่ยมเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักต่อภริยาผู้จากไปก่อนเวลาอันควรคือ พันธุ์ป้าชิด1 และพันธุ์ป้าชิด 2 อันเป็นเรือธงของลิ้นจี่คุณภาพสูงมีเม็ดลีบแซม ได้เทียบเท่าลิ้นจี่จากประเทศจีน ประการสำคัญคือเราได้เปรียบความสดใหม่กว่า อีกทั้งมีผู้เป็นห่วงว่าลิ้นจี่จากเวียดนามจะมาตีตลาดบ้านเรา แต่ผู้ที่เคยชิมนำมาเปรียบเทียบกับลิ้นจี่ของไร่บีเอ็น ต่างชื่นชมว่าของประเทศไทยรสชาติเหนือกว่าหลายขุม อีกทั้งราคายังถูกกว่าของเขามาก

การพัฒนาสายพันธุ์ลิ้นจี่ดำเนินมาตลอด 40 กว่าปี มีคุณจุลพงษ์ คุ้นวงศ์ ผู้เป็นทายาทที่เป็นเกษตรรุ่นใหม่ต่อยอดการพัฒนาต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จได้อีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีความหอม รสดี เม็ดลีบมาก ประมาณพันธุ์กุ้ยเหว่ยของจีน ขณะนี้กำลังขยายพันธุ์ปลูกอีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่เปิดตัว จะรอให้มีผลผลิตจำนวนมากจึงพร้อมจะประกาศตัว และในปีนี้ผสมคัดได้ อีก 40 กว่าสายพันธุ์ แต่ต้องรออีก 3-4 ปีจนตกลูกให้ชิมจึงจะรู้ว่ามีผลดีขึ้นมากกว่าเดิมอีกหนึ่งสายพันธุ์

ลิ้นจี่พันธุ์ป้าชิด

เป็นพันธุ์เรือธงที่ไม่ได้น้อยหน้าใคร เปลือกปอกง่าย ผลโต เนื้อหนา อร่อยได้เต็มคำ

ผ่าให้เห็นยวงเนื้อเมล็ดลีบพันธ์ป้าชิด

พันธุ์กุ้ยเว่ย

พันธุ์ป้าชิด

เมื่อได้วางตลาดในซุปเปอร์มาเก็ตในกรุงเทพ ผู้ที่ได้ลองชิมต่างชื่นชมในรสชาติและความหอมแรง อีกทั้งขนาดของลูกที่ใหญ่ไม่แพ้ใคร จนเป็นที่รู้จักกันทั่ว ปัจจุบันได้ขายทางออนไลน์ ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับจนบางปีไม่พอขาย  เพราะเป็นที่ทราบกันว่าการได้ผลผลิตที่ดีของลิ้นจี่นั้นขึ้นกับสภาพอากาศที่ควบคุมไม่ได้เนื่องจากการจะออกดอกนั้นต้องการความหนาวเย็นติดต่อกันช่วงหนึ่ง 2-3 สัปดาห์ ระหว่างนี้ถ้ามีฝนตกช่อดอกที่ติดพราวก็จะกลายเป็นใบอ่อนแทน แม้แต่เมื่อเป็นผลแก่ในช่วงต่อมาถ้าเจอฝนตกอีก ลูกลิ้นจี่ที่จวนจะเก็บเกี่ยวได้ก็จะแตกเป็นจำนวนมาก

จุดเด่นลิ้นจี่ป้าชิด

1 . ที่เป็นลักษณะเฉพาะ คือ ผลโต เนื้อแห้ง หนา  รสหวาน หอม เมล็ดส่วนใหญ่ลีบเล็ก

เปลือกหนา ทนต่อการขนส่ง

รูปทรงหัวใจเบี้ยว ผิวแดงอมน้ำตาล หนามตื้น  เปลือกด้านในสีขาว

2.ปลูกและบริหารงานด้วยระบบเกษตรอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ภายใต้ระบบคุณภาพ GAP เกษตรปลอดภัย ผลผลิตออกราว เดือนพ.ค.-ก.ค. ของทุกปี โดยจะออกก่อนลิ้นจี่จีน

3. ควบคุมคุณภาพ และคัดเกรด 100% ทุกลูก คัดเกรดเป็น 2 เกรด คือ

•  เกรด P – พรีเมี่ยม คัดเมล็ดลีบล้วน ตัดขั้วสั้น ไม่มีก้าน

•  เกรด A-  เม็ดขนาดปกติ เป็นช่อก้านสั้น

ปีนี้ เริ่มมีขายตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 64 จนหมดฤดูกาล  

สามารถสั่งซื้อโดยตรงจากไร่ ผ่านทาง Line Official @bnfarm

โดยเป็นเกรด P บรรจุกล่องใสขนาด 500 กรัม และเกรด A บรรจุถุงซิปใสขนาด 1 กก.  จัดส่งทางไปรษณีย์ไทย บริการขนส่ง  และจุดกระจายสินค้าที่ร้านดอกไม้เค.ฟลาวเวอร์ ข้างม.เกษตร ถ.งามวงศ์วาน เริ่มตั้งแต่ 15 มิ.ย. 64

ในเขตกทม. ขายผ่าน เครือเดอะมอลล์ ที่กูรเมต์มาร์เก็ต และโฮมเฟรชมาร์ท ดิ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน และเดอะมอลล์สาขาต่างๆ  ทั้งนี้เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.  เป็นต้นไป 

โดยเกรด P จะบรรจุ 1 กก. ในเข่งไม้ไผ่สีเขียวสัญลักษณ์ไผ่จากไร่บีเอ็น ส่วนเกรดAบรรจุถุงแก้วใสตามน้ำหนักขาย

นอกจากนี้ ที่ไร่ยังมีลิ้นจี่พันธุ์ดีที่ได้พัฒนาต่อเนื่องกันมา เช่น พันธุ์ลุงเจิด รวมทั้งยังมีลิ้นจี่สายพันธุ์จีนดั้งเดิม เช่น กุ๊ยบี้ จุดบีจี๊ โอวเฮียะ ที่นักชิมลิ้นจี่ผู้คุ้นเคย ให้ได้ลองชิมกันอย่างหลากหลาย

ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามพูดคุยกับไร่บีเอ็น ได้ที่  Line Official : @bnfarm และCall Center 096 879 0324

เริ่มวางจำหน่าย วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน นี้ ที่

*สยามพารากอน *เอ็มควอเทียร์ *เอ็มโพเรียม

ท่านที่สนใจ กรุณาโทร.สอบถามก่อนไป เพราะปีนี้อากาศแปรปรวน ลิ้นจี่ติดผลน้อยและสุกไม่พร้อมกัน

สำหรับคุณลูกค้าที่สนใจสั่ง Online

จัดส่งถึงบ้านโดย J&t express

ท่านสามารถแจ้งชื่อจองได้ เมื่อพร้อมส่งทางไร่จะแจ้งไปให้ทราบ

*เริ่มส่งผลผลิต Online รอบต่อไป...

วันที่ 24 มิถุนายน 2564

ป้าชิดเกรด A 300 บาท/กก.

เกรดA+premium 

Set 1.  700฿

Set 2.  1,100฿

ไร่บี.เอ็น.

ถนนสาย 2196 ห่างจากแยกแคมป์สนประมาณ 4 กม.

ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67280

โทรศัพท์ 056 750 419

เปิดบริการเวลา 7.00 - 17.00 น. ทุกวัน

Facebook : B.N. Farm

line official : @bnfarm

พิกัด https://maps.app.goo.gl/CqJjQXLqk6tVmA8cA