สถานการณ์การระบาดโควิดในอเมริกาไม่ได้บรรเทาเบาบางลงเลยจะมีแค่ช่วงสั้นๆหน้าร้อนที่ผู้คนบางส่วนฉีดวัคซีนแล้วออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันตอนั้นคนเริ่มฉีดวัคซีน ยอดป่วยลดลงทันตาเห็น แต่ตอนนี้คนอเมริกันไม่ว่าจะภาครัฐและเอกชนต่างการ์ดตกกัน จนไม่รับรู้ว่าโควิดยังระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าที่มีชัยไปทั่วโลก
อเมริกาวาดหวังว่าจะมียอดฉีดวัคซีนเกิน 70 % แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะพวกที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนก็ไม่ยอมฉีดอยู่นั่นเองพอใช้กฎหมายบังคับก็ออกมาขู่ฟ่อๆ ประท้วงให้วุ่นวายยิ่งออกมายิ่งติดโควิดกันเอง เพราะพวกนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนกันเลยจ้า
ตอนนี้เห็นว่าฝั่งยุโรปเริ่มโวยวายไม่พอใจนโยบายรัฐบาลของประเทศตนที่ให้ฉีดวัคซีนและล็อคดาวน์ แห่กันออกมาประท้วงหลายประเทศยอดป่วยยอดตายเลยพุ่งลิ่วลบภาพจำว่าฝรั่งมีความอดทนและมีวินัยกว่าเอเซียไปจนหมดสิ้นไม่เชื่อดูหมู่เฮาชาวเอเซีย แทบจะแย่งกันฉีดวัคซีนไม่เหมือนอเมริกันที่ขนาดแทบจะเอาไปประเคนถึงบ้านยังไม่ยอมออกมาฉีด จนตอนนี้ยอดรวมการฉีดวัคซีนก็ยังไม่ถึง 70 %ตามเป้า สองเข็มผ่านไปยังไม่ถึงยอด ตอนนี้มีการฉีดกระตุ้นเข็มสามคิดหรือว่าบรรดามะริกันจะไปฉีดง่ายๆ ยอดตายปี 2021นั้นสูงกว่ายอดตายเพราะโควิดในปี 2020 เสียอีก นี่ขนาดยังไม่สิ้นปี
ตอนนี้ยอดเสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 799,443 ราย จะแตะแปดแสนอยู่รอมร่อตอนนี้กลับมาระบาดหนักอีกรอบ แต่ดูเหมือนอเมริกันไม่แคร์ไม่มีมาตรการหรือนโยบายใดๆ ทุกคนต้องหาทางออกทางรอดเอาเองห้างร้านต่างๆ เปิดตามสบาย ผู้คนแทบจะไม่ใส่หน้ากากกันแล้วทั้งที่เดลต้าระบาดหนักไม่พักยกขนาดนี้
อาทิตย์นี้เองมีข่าวใหญ่ข่าวปังดังไปทั้งโลก แม้โควิดจะบาดจัดหนักแต่ชาวโลกก็เตรียมตัวจัดงานรื่นเริงบันเทิงใจเพราะเป็นช่วงปลายปีที่เต็มไปด้วยเทศกาลแห่งความสุขปรากฎว่าหัวใจที่กำลังพองโตต้องเหี่ยวฟุบลงอีกรอบเพราะมีประกาศจากองค์การอนามัยโลกเรื่องเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่เรียกว่า“โอไมครอน”
ไอ้เจ้าโอไมครอนนี่คงต้องอุทานว่า “โหดแท้เหลา”พบเจอหนแรกในแอฟริกาใต้ ตั้งแต่ต้นเดือนแต่เพิ่งประกาศปลายเดือนนี้เองป้าตดดดดติโถ..ป่านนี้ไม่ว่อนประจายไปทั้งโลกแล้วเหรอองค์การอนามัยโลกประกาศว่าเป็นสายพันธุ์ที่ "น่ากังวล"เพราะมีการกลายพันธุ์มากถึง 50 ตำแหน่ง โดย 32ตำแหน่งเป็นการกลายพันธุ์ในส่วนของโปรตีนหนามซึ่งอาจทำให้วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง
เชื้อนี้มีความเสี่ยงที่จะติดซ้ำได้ไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์ดังกล่าวมีชื่อว่า B.1.1.529หรือโอไมครอนพบการระบาดในจังหวัดเคาเต็ง (Gauteng)ของแอฟริกาใต้เป็นหลัก มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 77 รายนอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อในประเทศบอตสวานาอีก 4 รายรวมทั้งพบกรณีที่ผู้ติดเชื้อเดินทางจากแอฟริกาใต้ไปยังฮ่องกง
การกลายพันธุ์ที่พบในเชื้อโควิดชนิดใหม่นี้ทำให้แอนติบอดีไม่อาจจดจำไวรัสโควิดได้และยังหลบหลีกการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายบางส่วนได้อีกด้วยซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่ายและรวดเร็วรวมทั้งวัคซีนใช้ไม่ได้ผล
ทุกคนเริ่มกังวลว่าวัคซีนที่มีจะเอาตัวนี้ไม่อยู่ โลกเลยโกลาหลปิดประเทศใส่แอฟริกาและประเทศโซนแอฟริกากันจ้าละหวั่นทั้งประเทศแถบยุโรปและอเมริกา เล่นเอาประธานาธิบดีซีริลรามาโฟซาของแอฟริกาใต้เรียกร้องให้ประเทศเหล่านั้นยกเลิกการแบนการเดินทางก่อนที่เศรษฐกิจของประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ เรื่องนี้เป็นภัยพิบัติโลก พอถึงยามคับขันทุกคนต้องเอาตัวรอดเป็นเรื่องธรรมดา อย่าชี้นิ้วด่ากันเลยท่าน
อ้อ..แล้วถ้าจะด่าเนี่ย แนะนำให้ด่าเพื่อนบ้านตัวเองก่อนเลยนะเพราะแองโกลาเป็นประเทศแรกในแอฟริกาตอนใต้ที่ระงับเที่ยวบินทั้งหมดจากเพื่อนร่วมภูมิภาคคือ โมซัมบิก นามิเบีย และแอฟริกาใต้เพื่อนบ้านยังปิดผนีเลย จะมาโวยวายอะไรล่ะ
ส่วนอเมริกาปิดปั๊บฉับไว แบนผู้เดินทางส่วนใหญ่จาก 8 ประเทศแอฟริกาตอนใต้ ได้แก่ แอฟริกาใต้, บอตสวานา, ซิมบับเว,นามิเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี, โมซัมบิก และมาลาวี แต่ถ้าให้เดาบอกเลยว่าสายไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้อเมริกาเปิดประเทศโล่งโจ้งเชิญจ้า ใครจะไปจะมาเชิญมาได้ตามสบายคาดว่าน่าจะเล็ดรอดเข้าอเมริกาไปแล้วเพราะประเทศในยุโรปเริ่มพบว่าเจ้าโอไมครอนเจาะเข้าไปได้หากยุโรปติด อเมริกาก็ไม่เหลือ บอกตรงๆ นี่แหละ
แคนาดาเอามั่งปิดไม่ให้เที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และประเทศแถบนั้นเข้า ประเทศอื่นๆ เริ่มใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง เช่น สิงคโปร์, อินเดีย, ญี่ปุ่น,อิสราเอล, ตุรกี, สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ออสเตรเลียงานเข้าเรียบร้อยแล้วเพราะเจอผู้ติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน 3 คนซึ่งทั้งหมดเพิ่งกลับจากตอนใต้ของทวีปแอฟริกาที่ฮ่องกงพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเป็นรายที่ 3โปรตุเกสตรวจพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน 13 คน ไปทั่วยุโรปแน่ไม่น่ารอด
อิสราเอลผวา เพราะพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน 1 รายมีเคสต้องสงสัยอีก 7 คนตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลแห่งแสงสว่างหรือที่เรียกว่า “ฮานุกก้า”คือคล้ายคริสต์มาสนี่แหละแต่บ้านชาวยิวจะจุดเทียนแปดเล่มบนเชิงเทียนที่เรียกว่า “มโนรา” เด็กๆจะได้ของขวัญทุกวันเป็นเวลาแปดวันมาเจอเชื้อตัวใหม่นี่คงผวากันทั้งชาติ ไอ้ที่จะฉลองอาจมีล่ม
ดร.แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ไอ้ไวรัสวายร้ายที่ว่านี่น่าจะเข้ามาในอเมริกาเรียบร้อยแล้วแหม..หมอเฟาซีพูดขนาดนี้นี่เสียววาบทั้งแต่ท้ายทอยยันลำไส้ใหญ่ส่วนการประกาศแบนนักเดินทางจากแอฟริกาใต้ บอตสวานา ซิมบับเวนามิเบีย เลโซโท เอสวาตีนี โมซัมบิกและมาลาวีเป็นแค่การซื้อเวลาเท่านั้นเพราะดูทรงแล้วเชื้อตัวนี้มาเซย์ฮัลโหลในอเมริกาอีตอรเปิดประเทศนั่นแหละ รอเวลาจะโผล่มาทักทายว่าหวยจะออกรัฐไหนเท่านั้นเอง
นี่ขนาดเป็นช่วงภัยพิบัติโลก ลุงแซมยังไม่วายแกว่งปากไปแซะจีนด้วยการทำเนียนชมแอฟริกาใต้ เพลาๆ ลงบ้างเถอะ ลุงแซมนาทีนี้โลกต้องการความร่วมมือร่วมใจ จะไปด่ากระทบกันทำไมให้เสียบรรยากาศล่ะทำยังกะผีเจาะปากต้องสำรากไปเรื่อย
...................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี